CBRE มองตลาดคอนโดลักชัวรี่ฟื้นไว เน้นทำเลสุขุมวิทและโปรดักต์ที่แตกต่าง - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563

CBRE มองตลาดคอนโดลักชัวรี่ฟื้นไว เน้นทำเลสุขุมวิทและโปรดักต์ที่แตกต่าง


การเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ โดยส่วนใหญ่มีเป้าหมายหลักอยู่ 2 ประเภท คือ ซื้อเพื่ออยู่อาศัย และ ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจ สามารถสร้างผลกำไรให้กับผู้ลงทุนได้อย่างมหาศาล เพียงแต่ผู้ลงทุนควรศึกษาแนวทางการลงทุนอย่างละเอียดถี่ถ้วน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

คุณอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ทั้งการซื้อขาย ให้เช่า และการเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ได้ให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ ว่าควรเลือกอย่างไรเพื่อให้คุ้มค่าต่อการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุนในระยะยาวมากที่สุด

"ถึงแม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะมีการชะลอตัวลง แต่ตลาดคอนโดมิเนียมเป็นตลาดที่สามารถฟื้นตัวได้ก่อนตลาดอื่นทั้งหมด เพราะความต้องการในการอยู่อาศัยเอง และความต้องการในการลงทุนปล่อยเช่ายังมีอยู่สูง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดบนที่มีกำลังซื้อ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังถือว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยกว่ากลุ่มอื่น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมเกิดการชะลอตัว ทำให้ผู้พัฒนาโครงการต่างหยุดการพัฒนาโครงการใหม่ พอหยุดไปสักระยะหนึ่งก็เริ่มมีความต้องการซื้อสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซีบีอาร์อีมองว่าหลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ผ่านพ้นไป ตลาดคอนโดมิเนียมจะเข้าสู่สภาพที่ดีมานด์และซัพพลายเกิดความสมดุลมากขึ้น เพราะฉะนั้นตลาดคอนโดมิเนียมก็จะกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งซีบีอาร์อีคิดว่ากลุ่มลูกค้าต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยในประเทศไทยอย่างแน่นอน เนื่องจากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศไทยได้รับการยกย่องในด้านความปลอดภัยของสาธารณสุข ทำให้ต่างชาติมีความมั่นใจและมีความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศในต่างประเทศ หรือเป็นบ้านหลังที่ 2 ในชีวิต"

การซื้อคอนโดมิเนียมไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือซื้อลงทุน ควรเลือกที่ทำเลก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งควรเดินทางเข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง รวมถึงเดินทางโดยรถสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ยังต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน "ในกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นตลาดบน จะมองในเรื่องของสิ่งแวดล้อมใกล้ๆ คอนโดมิเนียมมาก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งทำเลที่เป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนมาตลอดก็คือ ย่านใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท เพราะมีแนวโน้มการเช่าที่พักอาศัยของชาวต่างชาติที่เป็น Expat สูง และตอนนี้กลุ่มลูกค้าต่างชาติกำลังจะทยอยกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยเริ่มจากกลุ่มสถานฑูต และกลุ่ม Expat เดิมที่มีใบอนุญาตทำงาน ในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดหลักของกลุ่ม Expat ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงต้นปีหน้าเป็นซีซั่นของ Expat ที่เข้ามาเริ่มสัญญาใหม่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในย่านสุขุมวิท ซึ่งผู้พัฒนาโครงการเองก็ทำโปรโมชั่นออกมามากมายเพื่อกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคักหลังจากช่วงโควิด-19 นอกจากนี้ ธนาคารยังปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่าในช่วงเวลานี้

สำหรับโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 เป็นโครงการที่หาได้ยากมาก เพราะปกติแล้วโครงการที่เป็น Low Rise ส่วนใหญ่จะพัฒนาบนที่ดินประมาณ 1 ไร่ สิ่งอำนวยความสะดวกจะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่โครงการนี้มีจุดขายที่เด่นชัด คือ เข้ามาตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าที่อาจจะอยากอยู่คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและเทียบได้กับคอนโดมิเนียมแบบ High Rise โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สวนที่มีขนาดใหญ่ถึง 1 ไร่ซึ่งแตกต่างจากโครงการ Low Rise ทั่วไปและมีวิวจากห้องพักที่เปิดโล่งเห็นบริเวณสวนที่สวยงาม

นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ครบ ทั้งดีไซน์และคอนเซ็ปต์มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญโซนทองหล่อ เอกมัย เป็นโซนที่ได้รับความนิยมสูงสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ การเดินทางค่อนข้างสะดวกสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือ ทางซอย สุขุมวิท 61 และเอกมัย และยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีเอกมัยซึ่งเป็นสายหลักสุขุมวิท

"ในส่วนของราคาถือว่ามีความคุ้มค่าตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยและนักลงทุนอย่างแน่นอน โดยราคาเฉลี่ย 230,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งตอนนี้คอนโดมิเนียมแบบ High Rise ราคาก็สูงไปถึง 300,000 บาท/ตร.ม. แล้ว" คุณอลิวัสสา กล่าว

The Reserve สุขุมวิท 61 เป็นคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น ออกแบบภายใต้แนวคิด "Reserve Your Exclusivity" ให้การอยู่อาศัยและการพักผ่อนเสมือนได้อยู่บ้าน ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 182 ยูนิตที่มาพร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ในสไตล์ British Garden, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานระดับโลก ซาวน่า และ Private Onsen ที่สามารถจองเวลาการใช้งานได้ล่วงหน้า ในส่วนห้องพักที่ทุกยูนิตถูกออกแบบอย่างลงตัวในทุกพื้นที่พร้อม IN-UNIT WELLNESS และอีกมากมายที่จะยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตในห้องพักและยังเพิ่มความหรูหราด้วยแพคเกจเฟอร์นิเจอร์ครบชุดจาก CHANINTR (ชนินทร์) ตอบโจทย์ Luxury Segment ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสร้างสรรค์บริการที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าด้วย Concierge Service by The Reserve ที่อำนวยความสะดวกในการพักอาศัยให้กับลูกบ้าน

โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ซึ่งเป็นซอยที่มีความร่มรื่น ปลอดภัย สงบและ รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำ ทั้ง โรงเรียนนานาชาติ สถานทูต ร้านอาหาร โรงพยาบาลและซุปเปอร์มาร์เกตรวมถึงห้างสรรพสินค้าทั้งแบรนด์ในไทยและต่างชาติ โครงการมีแบบห้องให้เลือกถึง 5 แบบ คือ แบบสตูดิโอ พื้นที่ 30.5 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom พื้นที่ 35-48 ตร.ม. แบบ 2 Bedroom Simplex พื้นที่ 62.5-138.8 ตร.ม. แบบ 3 Bedroom Simplex พื้นที่ 157.6 ตร.ม. และแบบ Duplex พื้นที่ 115 -132 ตร.ม. ที่พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้เริ่มเพียง 10 ล้านบาท

สามารถเยี่ยมชมโครงการได้แล้ววันนี้ สอบถามโทร 1739 หรือคลิก thereserve.pruksa.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad