"ข่าว...ความสำเร็จที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตไวรัสโคโรน่า: อัตราผลตอบแทนจากการขาย 10.4 เปอร์เซ็นต์" - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

"ข่าว...ความสำเร็จที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตไวรัสโคโรน่า: อัตราผลตอบแทนจากการขาย 10.4 เปอร์เซ็นต์"



ในช่วงระยะเวลาตลอด 3 ไตรมาสของปี 2020 ปอร์เช่สามารถสร้างผลลัพธ์ จากการดำเนินงาน ได้เป็นมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านยูโร แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ยังคงมีความรุนแรงอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่ด้วยรายรับกว่า 1.94 หมื่นล้านยูโร บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชื่อดังแห่งนี้สามารถจารึกสถิติอัตราผลตอบแทนจากการขาย 10.4 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการดำเนินงานปรับตัวลดลง 28 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว Lutz Meschke, รองประธาน และสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้รับผิดชอบดูแลส่วนงานการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศของ Porsche AG กล่าวแสดงความยินดีในผลงานว่า "เรากำลังทำกำไรเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการตอบสนองต่อ กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องซึ่งนี่คือหนึ่งใน DNA ของปอร์เช่" ความสำเร็จในเชิงของศักยภาพที่เพิ่มสูงขึ้น คือ สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ปอร์เช่บรรลุเป้าหมายผลตอบแทนจากการขายด้วยตัวเลข 2 หลัก ภายใต้สภาวการณ์ปัจจุบัน ที่ปราศจากความแน่นอนในอุตสาหกรรมยานยนต์

Oliver Blume, ประธานกรรมการบริหารของ Porsche AG เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ยอดเยี่ยมของปอร์เช่ทุกรุ่น คืออีกหนึ่งปัจจัยที่มีส่วนในความสำเร็จดังกล่าว "ยนตรกรรมสปอร์ตที่สดใหม่ของเรา สะท้อนภาพความน่าดึงดูดใจ และบ่งบอกตัวตนของกลุ่มลูกค้าได้อย่างเด่นชัด ผมมองเห็นแนวโน้มที่ดีในอนาคตอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้" Blume กล่าวต่อไปอีกว่า "ปอร์เช่ 911 ใหม่ (The new Porshce 911) และรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าไทคานน์ (Taycan) ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความแข็งแกร่งในแง่การพัฒนานวัตกรรมและยอดจำหน่ายของทั้ง 2 รุ่นทำได้ดีเยี่ยมเกินกว่า ความคาดหวังของเรา" สปอร์ตคลาสสิก 911 มียอดส่งมอบตลอด 9 เดือนแรกของปีที่ 25,400 คัน หรือคิดเป็นอัตราส่วน ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ ปอร์เช่ ไทคาน (Porsche Taycan) ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปี 2019 มีตัวเลขส่งมอบถึงมือลูกค้าไปแล้วเกือบ 11,000 คัน ในระหว่างเดือนมกราคม ถึงกันยายนนี้

นับตั้งแต่เริ่มต้นปี ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ไปแล้วทั่วโลกถึง 191,547 คัน แม้ว่าจะมีสัดส่วนที่ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2019 แต่ปอร์เช่ยังคงสามารถบริหารจัดการ เพื่อรักษาระดับผลการดำเนินงานให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ขณะที่สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงไม่กระเตื้อง ตลาดที่เป็นแหล่งรายได้หลักของผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมัน คือ ประเทศจีนซึ่งสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากการ lockdown สิ้นสุดลงในระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน, ปอร์เช่มียอดจำหน่ายรถใหม่ถึง 62,823 คันในจีน คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของยอดขายทั่วโลก รวมทั้งความต้องการซื้อ จากตลาดกลุ่มอื่นมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดอีกครั้ง

ถึงแม้สถานการณ์ในตลาดต่างๆ ทั่วโลกยังคงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ปอร์เช่ยังคงยืนหยัดที่จะลงทุนในการพัฒนา เทคโนโลยีนวัตกรรมระบบดิจิทัลและยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าด้วยเม็ดเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านยูโร ตลอดเวลา 5 ปีต่อจากนี้ "ต่อให้การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานของเราลดลงก็ตาม แต่ในระยะยาวมันจะกลายเป็นสิ่งที่รับ ประกันถึงอนาคตขององค์กรรวมทั้งภารกิจทั้งหลายของเรา" Lutz Meschke เน้นย้ำ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ผลกระทบจากค่าเงินยังคงมีทิศทางในเชิงลบ อย่างไรก็ตาม Meschke มั่นใจว่า ผลตอบแทน จากการขายที่ระดับ 15 เปอร์เซ็นต์ จะยังคงอยู่ในเป้าหมายกลยุทธ์ของ Porsche AG "เนื่องจากวิกฤติการ แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าอาจจะเชื่อได้ยากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในปี 2020 ทั้งนี้ต้องยกประโยชน์ให้แผนกลยุทธ์ การดำเนินงานระยะยาวที่เรากำลังปฏิบัติ เราเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนจากการขายด้วยอัตราตัวเลข 2 หลักเมื่อสิ้นสุดปีนี้"

ติดตามภาพประกอบเนื้อข่าวได้จาก Porsche Newsroom (http://newsroom.porsche.com) และฐานข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนที่ (presse.porsche.de)

เกี่ยวกับ AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name you can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

 ในช่วงระยะเวลาตลอด 3 ไตรมาสของปี 2020 ปอร์เช่สามารถสร้างผลลัพธ์ จากการดำเนินงาน ได้เป็นมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านยูโร แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ยังคงมีความรุนแรงอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่ด้วยรายรับกว่า 1.94 หมื่นล้านยูโร บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชื่อดังแห่งนี้สามารถจารึกสถิติอัตราผลตอบแทนจากการขาย 10.4 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการดำเนินงานปรับตัวลดลง 28 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว Lutz Meschke, รองประธาน และสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้รับผิดชอบดูแลส่วนงานการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศของ Porsche AG กล่าวแสดงความยินดีในผลงานว่า "เรากำลังทำกำไรเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการตอบสนองต่อ กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องซึ่งนี่คือหนึ่งใน DNA ของปอร์เช่" ความสำเร็จในเชิงของศักยภาพที่เพิ่มสูงขึ้น คือ สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ปอร์เช่บรรลุเป้าหมายผลตอบแทนจากการขายด้วยตัวเลข 2 หลัก ภายใต้สภาวการณ์ปัจจุบัน ที่ปราศจากความแน่นอนในอุตสาหกรรมยานยนต์

Oliver Blume, ประธานกรรมการบริหารของ Porsche AG เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ยอดเยี่ยมของปอร์เช่ทุกรุ่น คืออีกหนึ่งปัจจัยที่มีส่วนในความสำเร็จดังกล่าว "ยนตรกรรมสปอร์ตที่สดใหม่ของเรา สะท้อนภาพความน่าดึงดูดใจ และบ่งบอกตัวตนของกลุ่มลูกค้าได้อย่างเด่นชัด ผมมองเห็นแนวโน้มที่ดีในอนาคตอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้" Blume กล่าวต่อไปอีกว่า "ปอร์เช่ 911 ใหม่ (The new Porshce 911) และรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าไทคานน์ (Taycan) ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความแข็งแกร่งในแง่การพัฒนานวัตกรรมและยอดจำหน่ายของทั้ง 2 รุ่นทำได้ดีเยี่ยมเกินกว่า ความคาดหวังของเรา" สปอร์ตคลาสสิก 911 มียอดส่งมอบตลอด 9 เดือนแรกของปีที่ 25,400 คัน หรือคิดเป็นอัตราส่วน ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ ปอร์เช่ ไทคาน (Porsche Taycan) ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปี 2019 มีตัวเลขส่งมอบถึงมือลูกค้าไปแล้วเกือบ 11,000 คัน ในระหว่างเดือนมกราคม ถึงกันยายนนี้

นับตั้งแต่เริ่มต้นปี ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ไปแล้วทั่วโลกถึง 191,547 คัน แม้ว่าจะมีสัดส่วนที่ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2019 แต่ปอร์เช่ยังคงสามารถบริหารจัดการ เพื่อรักษาระดับผลการดำเนินงานให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ขณะที่สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงไม่กระเตื้อง ตลาดที่เป็นแหล่งรายได้หลักของผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมัน คือ ประเทศจีนซึ่งสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากการ lockdown สิ้นสุดลงในระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน, ปอร์เช่มียอดจำหน่ายรถใหม่ถึง 62,823 คันในจีน คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของยอดขายทั่วโลก รวมทั้งความต้องการซื้อ จากตลาดกลุ่มอื่นมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดอีกครั้ง

ถึงแม้สถานการณ์ในตลาดต่างๆ ทั่วโลกยังคงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ปอร์เช่ยังคงยืนหยัดที่จะลงทุนในการพัฒนา เทคโนโลยีนวัตกรรมระบบดิจิทัลและยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าด้วยเม็ดเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านยูโร ตลอดเวลา 5 ปีต่อจากนี้ "ต่อให้การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานของเราลดลงก็ตาม แต่ในระยะยาวมันจะกลายเป็นสิ่งที่รับ ประกันถึงอนาคตขององค์กรรวมทั้งภารกิจทั้งหลายของเรา" Lutz Meschke เน้นย้ำ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ผลกระทบจากค่าเงินยังคงมีทิศทางในเชิงลบ อย่างไรก็ตาม Meschke มั่นใจว่า ผลตอบแทน จากการขายที่ระดับ 15 เปอร์เซ็นต์ จะยังคงอยู่ในเป้าหมายกลยุทธ์ของ Porsche AG "เนื่องจากวิกฤติการ แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าอาจจะเชื่อได้ยากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในปี 2020 ทั้งนี้ต้องยกประโยชน์ให้แผนกลยุทธ์ การดำเนินงานระยะยาวที่เรากำลังปฏิบัติ เราเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายผลตอบแทนจากการขายด้วยอัตราตัวเลข 2 หลักเมื่อสิ้นสุดปีนี้"

ติดตามภาพประกอบเนื้อข่าวได้จาก Porsche Newsroom (http://newsroom.porsche.com) และฐานข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนที่ (presse.porsche.de)

เกี่ยวกับ AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name you can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad