จาก โกลเด้นแลนด์ สู่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ด้านรายได้ ใน 3 ปี - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

จาก โกลเด้นแลนด์ สู่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ด้านรายได้ ใน 3 ปี


 จาก โกลเด้นแลนด์ สู่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้  โฮม

ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ด้านรายได้ ใน 3 ปี

ปี 2564 เดินหน้าเปิด 24 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 29,800 ล้านบาท

 

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้  โฮม (ประเทศไทย)  กับพันธกิจใหม่ ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของผู้นำตลาดอสังหาฯ ด้านรายได้ ในอีก 3 ปี เตรียมพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในปี 2564 ทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 29,800 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าครบทุกเซ็กเมนต์ ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมบ้าน สวย ครบ คุ้ม บนทำเลที่ดี ตั้งเป้ารายได้16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีนี้

 

คุณแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ จากการที่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” เข้าซื้อกิจการของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GOLD” หรือ“GOLDENLAND”  ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย โกลเด้นแลนด์ จึงได้เปลี่ยนมาเป็น เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม และยังคงเป็นผู้นำอันดับ Top 5 ของประเทศสำหรับกลุ่มธุรกิจเพื่อที่อยู่อาศัย มีโครงการที่พักอาศัยคุณภาพสูงรวม 60 โครงการ

 



ผลการดำเนินงานเฉพาะกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ม.ค.-ก.ย. ปีนี้ มียอดรับรู้รายได้ 10,894 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังเป็นที่น่าพอใจ สำหรับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในสถานการณ์ โควิด-19 เช่นนี้ โดยคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ในปีนี้เกือบ 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค. 2563)  บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้ 3 โครงการ เป็น นีโอ โฮม บ้านแฝด 2 โครงการ และทาวน์โฮม 1 โครงการ มูลค่ารวม 3,050 ล้านบาท โดยยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

 

พันธกิจ ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ด้านรายได้ ใน 3ปี

4 พันธกิจ หรือ 4 Missions ที่บริษัท ได้วางไว้ใน 3 ปีนี้ (พ.ศ. 2564-2566) คือ

พันธกิจแรก        ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 3 ของผู้นำตลาดอสังหาฯ ด้านรายได้

พันธกิจที่ 2         เป็นทางเลือกอันดับที่ 1 ในใจลูกค้า สำหรับคนที่มองหาทาวน์โฮม ทําเลในเมือง

พันธกิจที่ 3         เป็นอันดับที่ 1 ในการทำบ้านแฝด (นีโอ โฮม)

พันธกิจที่ 4         ขยายตลาดต่างจังหวัด เป็นผู้นำตลาดต่างจังหวัดด้านยอดขายสูงสุด

 

อย่างเช่น ที่นครราชสีมา เชียงใหม่ เชียงราย และพัทยา สามารถทำยอดขายในวันเปิดจองได้สูงเกินกว่า 500 ล้านบาท

 

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2564  ตั้งเป้ารายได้16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีนี้ มีสัดส่วนรายได้จากทาวน์โฮม 42% นีโอ โฮม บ้านแฝด23% บ้านเดี่ยว 21% และโครงการต่างจังหวัด 14%โดยมีแผนจัดซื้อที่ดินประมาณ 20 แปลง ในงบประมาณ 10,720 ล้านบาท วางแผนเปิดโครงการใหม่24 โครงการ มูลค่า 29,800 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 9,700 ล้านบาท โครงการนีโอ โฮม บ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า7,000 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 7 โครงการ มูลค่า11,000 ล้านบาท และโครงการต่างจังหวัด 3โครงการ มูลค่า 2,100 ล้านบาท

 

กลยุทธ์พิชิตเป้าหมาย ปี 2564

              วางกลยุทธ์การตลาดเพื่อพิชิตเป้าหมาย แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ

ทาวน์โฮม            ขยายไปในทำเลใหม่ เติมโครงการในทําเลเดิม เน้นทําเลที่ดีกว่าคู่แข่งทั้งตลาด และรักษาคุณภาพการก่อสร้าง ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังคงเน้นด้านฟังก์ชั่นเด่น

นีโอ โฮม             เป็นบ้านแฝด ที่เน้นทำเลใกล้เมือง ฟังก์ชั่นระดับบ้านเดี่ยว และราคาไม่แพง

บ้านเดี่ยว             ออกผลิตภัณฑ์ใหม่  ซึ่งเหมาะกับที่ดินที่ราคาแพงขึ้น โดยเน้นคุณภาพโครงการ ฟังก์ชั่น และความหรูหรา ให้เหมาะกับ Life Style & Socio-Economic Status-SES และ Brand หรือชื่อโครงการให้เป็นที่รู้จั

ต่างจังหวัด          เน้นทําเลที่ดีกว่าคู่แข่งทั้งตลาด มุ่งเป้าสู่การเป็นผู้นําทําเลเมืองสำหรับโครงการต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังจะพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทุกระดับความต้องการของลูกค้า

 

กลยุทธ์เล็กๆ ที่แอบเฉลย

แผนงานในโครงการต่างๆ สำหรับ ปี 2564 

ซิตี้โฮม (City Home)  ทำเลในเมือง เน้นการเข้าถึงสะดวก ให้เป็นอีกทางเลือกของ Condo Penthouseหรือ Luxury Condo

Condo เน้นเจาะกลุ่มคนทํางานในเมือง (Real Demand) บนทําเลที่ไม่สามารถทําทาวน์โฮมได้ โดยมีฟังก์ชั่นและดีไซน์ สวย คุ้มค่า

 

แผนพัฒนาโปรแกรม

วางแผนพัฒนาโปรแกรมและแอปพลิเคชันต่างๆ สำหรับพนักงานให้ครอบคลุมในทุกเรื่องทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดิน การบริหารงานก่อสร้าง การขายและการตลาด สินเชื่อ และการดูแลลูกค้าหลังโอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งความรวดเร็ว แม่นยำและทันสมัย นอกจากนี้ ยังได้เริ่มจัดทำโปรแกรม Home+ (โฮมพลัส) เพื่อลูกค้า เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม และบุคคลทั่วไป เป็นแอปพลิเคชันสำหรับดูแลลูกค้าตั้งแต่ ก่อนซื้อ ส่งมอบ หลังเข้าอยู่ พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์สุดพิเศษต่างๆ อีกด้วย

 

คุณแสนผิน สุขี กล่าวว่า ในปีหน้า 2564 มองว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะเติบโตกว่าปีนี้ แต่ตลาดยังมีการแข่งขันสูง โปรโมชั่นยังคงดุเดือด เพราะทุกบริษัทต้องการเติบโต ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำก็เป็นตัวส่งเสริมความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่องขณะที่ หนี้สินครัวเรือนยังคงสูง นอกจากนี้สถานการณ์ COVID-19 ยังทําให้เกิดความไม่แน่นอน ทําให้เกิดการชะลอซื้อ สภาวะแบบนี้ ผู้ประกอบการจึงต้องมีความรอบคอบและแม่นยำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ต้องปรับตัวและตอบรับให้ทันกับทุกสถานการณ์ เป็นยุคของมืออาชีพอย่างแท้จริง

             

 

 

เกี่ยวกับ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม

จากการที่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีชื่อย่อหลักทรัพย์“FPT” และเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เข้าซื้อกิจการของ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GOLD” หรือ“GOLDENLAND” ทำให้ปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ที่มีแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุมธุรกิจ 3 ประเภท คือ ที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย โกลเด้นแลนด์ จึงเปลี่ยนมาเป็น เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 กลุ่มธุรกิจ ของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  ปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม นับเป็นผู้นำอันดับ Top 5 ของประเทศสำหรับกลุ่มธุรกิจเพื่อที่อยู่อาศัย มีโครงการที่พักอาศัยคุณภาพสูงรวม 60 โครงการในหลายทำเล ครอบคลุมทุกระดับราคา ตั้งแต่ 2 ล้าน จนถึง 100 ล้าน ภายใต้แบรนด์ โกลเด้น ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เช่น โกลเด้น ทาวน์, โกลเด้น ซิตี้, โกลเด้น นีโอ, โกลเด้น วิลเลจ และบ้านหรูในแบรนด์ เดอะ แกรนด์ และ          แกรนดิโอ เป็นต้น มีมูลค่าสินทรัพย์รวมถึง 70,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT ซึ่งปัจจุบันเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ หรือ GVREIT เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชยกรรม ทั้งนี้ FPT, FTREIT และ GVREIT เป็นบริษัทและกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.co.th

 

เกี่ยวกับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้หรือ กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้”) เป็นบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ (SGX-ST) ซึ่งมีแนวทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการเป็นเจ้าของ ผู้พัฒนา และผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทแบบครบวงจร โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 38.7 พันล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ณ วันที่ 31 มีนาคม2563)

สินทรัพย์ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ 5 ประเภท  ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้าและพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมและโรงแรม รวมถึงบิสซิเนส พาร์ค และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป และจีน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเป็นเจ้าของ และ/หรือเป็นผู้บริหารจัดการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์และโรงแรมมากกว่า 70 เมือง ทั้งในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกา ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นเดียวกันในการส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่า และน่าจดจำให้แก่ลูกค้า และผู้ถือหุ้น โดยอาศัยความรู้ และความสามารถจากทุกตลาดและภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อส่งมอบคุณค่าในสินทรัพย์ที่หลากหลายที่มีอยู่

ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.com

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad