หัวเว่ย และแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ลงนามบันทึกข้อตกลง จับมือร่วมพัฒนาอีโคซิสเต็มเพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม “สมาร์ทลีฟวิ่ง” แบบครบวงจร - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

หัวเว่ย และแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ลงนามบันทึกข้อตกลง จับมือร่วมพัฒนาอีโคซิสเต็มเพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม “สมาร์ทลีฟวิ่ง” แบบครบวงจร


 หัวเว่ย และแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ลงนามบันทึกข้อตกลง

จับมือร่วมพัฒนาอีโคซิสเต็มเพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม “สมาร์ทลีฟวิ่ง” แบบครบวงจร


บรรยายภาพ: นายอาเบล เติ้ง (กลางขวา) ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย ประเทศไทย และนางวัลลภา ไตรโสรัส (กลางซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในระหว่างพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง

 

กรุงเทพฯ/ 19 พฤศจิกายน 2563  บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชันไอซีทีชั้นนำ ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เพื่อความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญ และมองหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาอีโคซิสเต็มสำหรับสมาร์ทลีฟวิ่งและอาคารอัจฉริยะต้นแบบ ที่จะถูกนำมาใช้งานจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ AWC เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และริเริ่มโครงการด้านอาคารอัจฉริยะ (Smart Building), การบริหารจัดการสินทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Asset Management), ธุรกิจโรงแรมและการค้าปลีกอัจฉริยะ (Smart Hospitality and Retail), สมาร์ทแคมปัสและสมาร์ทลีฟวิ่ง (Smart Campus and Living) รวมไปถึงการเชื่อมต่อเชิงอัจฉริยะ (Intelligent Connectivity) ต่าง ๆ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการเสริมสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน

 

ภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ AWC และหัวเว่ยจะร่วมกันแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญ และมองหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาและศึกษานวัตกรรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของผู้คน รวมถึงยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต อาทิ โซลูชันที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี 5G, เทคโนโลยีแอคเซสพอยท์ Wi-Fi 6 ความเร็วระดับอัลตร้าไฮสปีด,โมดูล IoT, อุปกรณ์เชื่อมต่ออัจฉริยะ, พื้นที่เก็บข้อมูลในคลาวด์ เป็นต้น ด้วยโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีที่มีความยืดหยุ่นและเชื่อถือได้จากหัวเว่ย จะช่วยเร่งกระบวนการทรานสฟอร์มด้านดิจิทัลของโครงการในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ทั้งศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ และอาคารสำนักงานของAWC เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้มาใช้บริการ

 

AWC มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ผ่านกลยุทธ์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และสร้างคุณค่าที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้า ตลอดจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม โดยภายใต้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี พร้อมทั้งสมาร์ทดีไวซ์และโซลูชันชั้นนำระดับเวิร์ลคลาสของหัวเว่ย จะช่วยให้AWC สามารถพัฒนาโครงสร้างดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ พร้อมคงความผู้นำในธุรกิจท่ามกลางยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

 

“การผนึกกำลังกับ AWC ในวันนี้นับเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญของหัวเว่ย ประเทศไทย” นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในระหว่างพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง “ที่หัวเว่ย เราเดินหน้าเสาะหากลยุทธ์ที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย บริษัทมีเป้าหมายแน่วแน่ในการช่วยปูทางสู่การพัฒนาด้านดิจิทัลของไทยในอนาคต เรามั่นใจว่าการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและการแบ่งปันองค์ความรู้ด้านไอซีทีที่เรามอบให้แก่ AWC จะช่วยเสริมศักยภาพให้โรงแรม ธุรกิจค้าปลีก และอาคารสำนักงาน รวมไปถึงโครงการมิกซ์ยูสรูปแบบต่าง ๆ ของ AWC พร้อมช่วยขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจในแบบสมาร์ทที่มีประสิทธิภาพสูงสุด” นายอาเบล กล่าวเสริม

 

AWC มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเสริมความก้าวหน้าให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยการมุ่งมั่นในการศึกษา แสวงหา และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการพัฒนาโครงการคุณภาพใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับหัวเว่ย พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของเรา ในการเดินหน้าพันธกิจการมุ่งสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า ด้วยความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม และมองหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีที่แข็งแกร่งร่วมกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้คน ในโลกยุคดิจิทัล” นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad