กลุ่ม ปตท. ร่วมลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

กลุ่ม ปตท. ร่วมลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน

กลุ่ม ปตท. ร่วมลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน

กลุ่ม ปตท. ร่วมลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยการจำหน่ายน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำ 10 PPM ผ่านสถานีบริการน้ำมัน เน้นพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง สนับสนุนการดำเนินการของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของรัฐ เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองที่เป็นภัยต่อสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน ซึ่งน้ำมันดีเซลดังกล่าวมีค่ากำมะถันต่ำกว่าที่ภาครัฐกำหนดไว้ถึง 5 เท่า ภายใต้ความร่วมมือของบริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี (GC)

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า "ตามที่ภาครัฐได้มีการจัดตั้งศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ นำโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกับกรมควบคุมมลพิษ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามเฝ้าระวัง ประเมิน และรายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อพยากรณ์สถานการณ์ และบูรณาการการดำเนินงานแก้ไขปัญหาร่วมกันนั้น กรมควบคุมมลพิษ จึงได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมมาตรการป้องกัน ตามแนวทางปฏิบัติการเชิงรุก เน้นจัดการ ป้องกัน และลดปัญหาจากสาเหตุที่ต้นทาง รวมถึงการปล่อยไอเสียจากเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลที่มีค่ากำมะถันสูง

นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กล่าวว่า "กลุ่ม ปตท. มีความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินค่ามาตรฐาน และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงได้ประสานความร่วมมือระหว่างบริษัทในกลุ่ม ประกอบด้วยโรงกลั่น จีซี และ โออาร์ เพื่อร่วมกันผลิตและจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีค่ากำมะถันต่ำเฉลี่ย 10 PPM ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ถึง 5 เท่า เป็นกรณีพิเศษผ่านคลังน้ำมันพระโขนงและสถานีบริการน้ำมัน โดยเน้นพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมกว่า 400 สถานี รวมทั้งจ่ายให้กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานราชการ ตั้งแต่ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 - 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่มักจะมีค่า PM 2.5 สูงเกินกว่ามาตรฐาน โดยคาดการณ์ว่าปริมาณการจ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 40 - 50 ล้านลิตรต่อเดือน ทั้งนี้ การเปลี่ยนจากน้ำมันดีเซลพื้นฐานยูโร 4 มาเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วกำมะถันต่ำ ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ลดลง 19-21% และควันดำลดลง 19-40% เมื่อเทียบในสัดส่วนไบโอดีเซลที่เท่ากัน (จากผลการทดสอบของสถาบันนวัตกรรม ปตท. ในรถกระบะรุ่นเก่าอายุ 8 ปี และรถกระบะรุ่นใหม่อายุ 3 ปี)

กลุ่ม ปตท. มุ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ตลอดจน
บูรณาการแผนการลงทุนของโรงกลั่นในกลุ่ม เพื่อขยายขีดความสามารถการผลิตน้ำมันคุณภาพมาตรฐานกำมะถันต่ำกว่า 10 PPM หรือ เทียบเท่ามาตรฐานยูโร 5 ให้สอดคล้องกับนโยบายปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขพลานามัยที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad