สุขภาพคนต้องมาก่อน ไทยอย่าเดินซ้ำรอยไต้หวันเปิดรั บหมูสหรัฐเคลือบพิษสารเร่งเนื้ อแดง
น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่ งชาติ
เหตุชุลมุนขว้างปา "ไส้หมู" ในรัฐสภาไต้หวัน จากความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาล ของพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของไต้ หวัน มีชนวนเหตุจากการอนุมัติให้ นำเข้าเนื้อหมูสหรัฐที่มีสารเร่ งเนื้อแดง แรคโตพามีน (Ractopamine) ที่สหภาพยุโรป (อียู) และจีน ห้ามนำเข้าเนื้อหมูที่มีสารอั นตรายดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ชาวไต้หวันหลายพันคน ก็ออกมาชุมนุมบนท้องถนนในกรุ งไทเป เพื่อประท้วงการตัดสินใจของรั ฐบาล จากความกังวลของสาธารณชนเกี่ ยวกับความปลอดภัยของอาหาร และย้ำว่า “หมูในไต้หวันไม่ได้กิ นสารแรคโตพามีน แล้วทำไมรัฐบาลจะให้ชาวไต้หวั นกินเนื้อหมูนำเข้าที่มีสารนี้”
ภาพทั้งหมดนี้เป็นบทเรียนสำคัญ ที่ประเทศไทยต้องศึกษาและไม่เดิ นซ้ำรอยไต้หวัน เพราะต้องไม่ลืมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา สหรัฐใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่ อให้รัฐบาลไทย ยอมเปิดรับเนื้อหมูปนเปื้ อนสารเร่งเนื้อแดงมาอย่างต่อเนื่ อง จากสมัยที่บารัค โอบามา เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ มาจนถึงสมัย โดนัล ทรัมป์ ที่ใช้เรื่องการตัดสิทธิพิ เศษทางภาษีศุลกากร (GSP) สินค้าไทย มาเป็นเครื่องมือในการกดดัน
เป้าหมายใหญ่ของสหรัฐในการส่ งออกเนื้อหมูและชิ้นส่วนที่ คนอเมริกาไม่บริโภค ทั้งขา หัว และเครื่องในหมู มาขายในไทย รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่นิยมบริโภคชิ้ นส่วนเหล่านี้ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับขยะเหลื อทิ้ง แทนที่จะต้องทำลาย ก็ส่งขายให้ประเทศอื่น ทั้งๆที่สหรัฐรู้อยู่เต็มอกว่า ในขยะที่ว่านี้เต็มไปด้ วยสารแรคโตพามีน ที่ผู้เลี้ยงหมูสหรัฐสามารถใช้ ในการเลี้ยงได้อย่างเสรี
ขณะที่ข้อกำหนดของไทยชัดเจนว่า “ห้ามใช้สารเร่งเนื้ อแดงในการเลี้ยงหมูอย่างเด็ ดขาด” ผู้ใดลักลอบใช้ถือว่าผิ ดกฎหมายมีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ ตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหก รณ์ พ.ศ.2545 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2546 สอดคล้องกับแนวทางของสหภาพยุโรป
แต่ที่ผ่านมาสหรัฐก็ไม่ ลดละความพยายาม ยังคงอ้ างมาตรฐานของคณะกรรมการมาตรฐานอ าหารระหว่างประเทศ (CODEX Alimentarius Commission - CAC) ที่กำหนดค่าสูงสุดที่อนุญาตให้ มีได้ หรือที่เรียกว่าค่า MRL ของสารแรคโตพามีน ไว้ที่ 10 ppb (part per billion) สำหรับเนื้อหมู ซึ่งข้อกำหนดนี้กลายเป็นอาวุธลั บที่สหรัฐสามารถนำไปกล่าวอ้างกั บทุกประเทศเป้าหมายได้อย่ างชอบธรรม เพื่อสร้างราคาให้สินค้าเหลือทิ้ ง นำเงินตราเข้าประเทศ และปกป้องรักษาอาชี พเกษตรกรคนเลี้ยงหมูอเมริกา
ทั้งๆที่รู้ดีว่าคนเอเชียทานหมู ทุกส่วน ทั้งเนื้อหมู หัว เครื่องใน หนัง มัน ฯลฯ โดยเฉพาะคนไทยที่มีวั ฒนธรรมการกินที่แตกต่างออกไป ทั้งการกินหมูแบบสุก แบบดิบ กึ่งดิบกึ่งสุก เช่น ลาบ ลู่ และเนื้อแดงๆ ผิดกับชาวยุโรปและอเมริกันที่รั บประทานเฉพาะเนื้อหมู ความพยายามส่งผลิตภัณฑ์หมูที่ เคลือบสารเร่งเนื้อแดงเป็ นของแถมมาให้คนไทยกินนี้ ก็เท่ากับพญาอินทรีย์ตั้งใจยั ดเยียดสารอันตรายให้คนไทยตายผ่ อนส่ง
ยังโชคดีที่ตลอดเวลาที่ผ่านมารั ฐบาลไทยยังคงยืนหยัดปกป้องคนไทย ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อภัยร้ายในเนื้ อหมูสหรัฐ โดยใช้เหตุผลด้านผลกระทบต่อสุ ขภาพและสุขอนามัยของประชาชน ในการคัดค้านการนำเข้าชิ้นส่ วนหมูสหรัฐมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
และยังช่วยปกป้องอาชี พเกษตรกรเลี้ยงหมู ไม่ยอมให้หมูสหรัฐที่มีต้นทุนต่ำ กว่า และมีความสามารถทางการตลาดที่ แข็งแกร่งกว่ามาขายในไทย เพื่อไม่ให้คนผู้เลี้ยงหมู ไทยกว่า 2 แสนคน ที่เลี้ยงหมูได้ 22 ล้านตัวต่อปี ต้องล้มหายตายจากไปกันหมด ไม่ให้ผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึ งเกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ รวมถึงภาคอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์สัตว์ไทย ที่ทั้งหมดในอุตสาหกรรมเลี้ยงสั ตว์ต่างเชื่อมโยงเกื้อหนุนซึ่ งกันและกัน
วันนี้ยังต้องเชียร์ภาครัฐต่อ อย่ายอมอ่อนข้อให้สหรัฐ ขอให้คิดถึงคนไทยเป็นสำคัญ เพราะสารเร่งเนื้อแดงที่อยู่ ในเนื้อหมูสหรัฐนั้นเป็นภัยร้ ายที่แฝงมาทำร้ายคนไทย อย่าเดินซ้ำรอยไต้หวัน อย่ายอมให้หมูสหรัฐเคลือบพิ ษสารเร่งเนื้อแดง ที่ไม่ต่างจากระเบิดเวลา เข้ามาทำลายสุขภาพ ความปลอดภัยในอาหาร และอาชีพของคนไทย./
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น