“พาณิชย์”ลุยงาน 3 ด้าน ทำยุทธศาสตร์การค้า พัฒนาระบบข้อมูล ดันเศรษฐกิจสมัยใหม่ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2564

“พาณิชย์”ลุยงาน 3 ด้าน ทำยุทธศาสตร์การค้า พัฒนาระบบข้อมูล ดันเศรษฐกิจสมัยใหม่

img

“พาณิชย์”ลุยงาน 3 ด้าน ทำยุทธศาสตร์การค้า พัฒนาระบบข้อมูล ดันเศรษฐกิจสมัยใหม่

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ประกาศเดินหน้า 3 งานหลัก มุ่งทำยุทธศาสตร์การค้าฉบับแรกของไทย รับมือผลกระทบทั้งสงครามการค้า โควิด-19 เทคโนโลยีสมัยใหม่ จัดทำระบบข้อมูลการค้าขนาดใหญ่เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และผลักดันเศรษฐกิจสมัยใหม่ ดันใช้บล็อกเชนตรวจสอบย้อนกลับสินค้า ปีนี้เพิ่ม “ผัก ผลไม้ และสมุนไพรอินทรีย์”
         
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในปี 2564 สนค. จะเดินหน้างานสำคัญ 3 ด้านที่ได้วางรากฐานไว้แล้ว คือ งานยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ แต่จะกำหนดแผนงานให้ตอบโจทย์นโยบาย 14 ประการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ละเอียดขึ้น และปรับแผนงานให้รองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจการค้าไทยในอนาคต
         
สำหรับงานสำคัญส่วนแรก จะมีการจัดทำยุทธศาสตร์การค้าฉบับแรกของไทย ปี 2564-68 เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าไทย เช่น สงครามการค้า โรคโควิด-19 เทคโนโลยีสมัยใหม่ และประเด็นด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และประชากร โดยได้มีร่างฉบับแรกแล้ว แต่จะมีการหารือกับภาคส่วนต่างๆ ให้ครอบคลุมประเด็นให้มากที่สุด เช่น การพัฒนาภาคบริการ การเจรจาความตกลงการค้า การจัดทำแผนงานที่หน่วยงานต่างๆ ต้องดำเนินการต่อไป เป็นต้น ซึ่งจะเริ่มกระบวนการหารือในปลายเดือนม.ค.2564 และรายงานต่อคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พณ.) ต่อไป
         
ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ได้เริ่มวางฐานด้านการสร้างระบบข้อมูลการค้าขนาดใหญ่ (Trade Intelligence System) เพื่อให้ผู้บริหาร เกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ตลอดจนนักวิเคราะห์ด้านต่างๆ ใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายการค้าที่เหมาะสมผ่านแพลตฟอร์ม www.คิดค้า.com ซึ่งปี 2564 จะเร่งการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภูมิภาคต่างจังหวัดเข้ามาส่วนกลางและเชื่อมต่อกับข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ และจะมีระบบข้อมูล Big Data ภาคเกษตร ภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกวันที่ 19 ม.ค.2564 นี้
         
“นอกจากงานด้านข้อมูลแล้ว สนค. จะเดินหน้าหารือกับกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม ผู้ประกอบการ SMEs ในต่างจังหวัด เพื่อกำหนดนโยบายสนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจ และหาต้นแบบการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่เหมาะสมกับการค้าไทย อีกทั้งจะขยายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMVT เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการไทย”
         
ทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) หรือการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาเกษตรกรและผู้ประกอบการ มีโครงการสำคัญที่ สนค. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 คือ การพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับโดยใช้บล็อกเชน (blockchain) ภายใต้ชื่อ TraceThai.com ซึ่งสินค้านำร่องตัวแรก คือ ข้าวอินทรีย์ และในปีนี้จะขยายสินค้านำร่องให้รองรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ชนิดอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ผัก ผลไม้อินทรีย์ สมุนไพรอินทรีย์ โดยจะร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่เป็นพาร์ทเนอร์เพิ่มจำนวนเกษตรกรรายย่อย สหกรณ์ และวิสาหกิจกลุ่มต่างๆ เข้ามาใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับดังกล่าวมากขึ้น และเชื่อมโยงกับช่องทางการขาย เพื่อให้ตรา TraceThai.com และระบบตรวจสอบย้อนกลับเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในการขายทั้งในประเทศและส่งออกต่อไป
         
นอกจากนี้ สนค. จะเพิ่มการวิเคราะห์ศึกษาและทำฐานข้อมูลเพิ่มเพื่อสนับสนุนงานที่เป็นรายสาขา คือ นโยบาย “อาหารไทย อาหารโลก” ที่จะเพิ่มการผลิตและการส่งออกอาหารฮาลาล อาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารเทรนด์ใหม่ๆ ให้มากขึ้น และนโยบายการพัฒนาภาคบริการ โดยเฉพาะบริการด้านค้าส่งค้าปลีก โลจิสติกส์ บริการด้านสุขภาพ ดิจิทัลคอนเทนต์ ร้านอาหาร และบริการด้านสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad