กรมพัฒน์ฯ ลุยปั้น “ดิจิทัล วิลเลจ” ช่วยชุมชนขายออนไลน์ เป้าปีนี้ผลักดันเพิ่ม 12 แห่ง - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

กรมพัฒน์ฯ ลุยปั้น “ดิจิทัล วิลเลจ” ช่วยชุมชนขายออนไลน์ เป้าปีนี้ผลักดันเพิ่ม 12 แห่ง

img

กรมพัฒน์ฯ ลุยปั้น “ดิจิทัล วิลเลจ” ช่วยชุมชนขายออนไลน์ เป้าปีนี้ผลักดันเพิ่ม 12 แห่ง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าผลักดัน “ดิจิทัล วิลเลจ ออนไลน์” เพื่อใช้ออนไลน์ค้าขาย แก้ปัญหาความยากจนให้กับชุมชนที่ผลิตสินค้าทั่วประเทศ ตั้งเป้าปีนี้ เพิ่มอีก 12 แห่ง หลัง 2 ปีที่ผ่านมา ผลักดันได้แล้ว 20 แห่ง เผยการเชื่อมโยงนำขายออนไลน์ผ่าน Shopee ปี 63 ทำได้มูลค่ากว่า 3.6 ล้านบาท มั่นใจยอดซื้อขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแน่ หลังเริ่มฮิต
         
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปี 2564 กรมฯ มีแผนที่จะร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ทำการคัดเลือกชุมชนที่ผลิตสินค้า เพื่อผลักดันให้เป็นชุมชนต้นแบบ “ดิจิทัล วิลเลจ ออนไลน์” เหมือนกับที่จีนใช้ “เถาเป่าโมเดล” ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในชุมชนที่ห่างไกล โดยจะเข้าไปช่วยให้ผู้ประกอบการในชุมชนใช้ช่องทางการค้าออนไลน์ในการจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน และสินค้าท้องถิ่น โดยตั้งเป้าจะผลักดันให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 12 แห่ง จากที่ได้ผลักดันในช่วงปี 2562-63. ได้แล้ว 20 แห่ง
         
“ตอนนี้ กำลังประสานงานกับพาณิชย์จังหวัด เพื่อลงพื้นที่สำรวจ ซึ่งจะเริ่มได้ในเดือนมี.ค.2564 เพราะก่อนหน้านี้ ติดสถานการณ์โควิด-19 แต่เชื่อว่า จะทำการคัดเลือกได้ในไม่ช้า และเมื่อคัดเลือกได้แล้ว ก็จะส่งทีมเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยู่ในชุมชน หรือในหมู่บ้าน ไปสอนวิธีการโพสต์ขาย สอนการเล่าเรื่อง ที่มาที่ไป แล้วทำการเชื่อมโยงเข้าไปขายออนไลน์ ซึ่งตอนนี้ มี Shopee ที่เข้ามาเป็นพันธมิตร ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ โดยมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้”
        
นายทศพลกล่าวว่า สำหรับการพัฒนา “ดิจิทัล วิลเลจ ออนไลน์” ในช่วงก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการมาแล้ว 2 ปี ตั้งแต่ปี 2562-63 สามารถพัฒนาได้แล้ว 20 หมู่บ้าน และได้เชื่อมโยงสินค้าเข้าไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ www.shopee.co.th/dbdonline โดยมียอดจำหน่ายตั้งแต่เดือนมี.ค.-ธ.ค.2563 กว่า 3.6 ล้านบาท และมั่นใจว่าแนวโน้มจะมีการจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น เพราะสินค้าจากหลายๆ หมู่บ้าน เริ่มได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
         
นอกจากนี้ หลายๆ หมู่บ้าน เริ่มได้รับความนิยมกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด ประชาชนเริ่มเดินทางไปท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้เกษตรกร ผู้ผลิตสินค้าชุมชน มีรายได้เพิ่มขึ้น
         
สำหรับ 20 หมู่บ้านที่ได้รับการผลักดันให้เป็นดิจิทัล วิลเลจ ออนไลน์แล้ว ได้แก่ 1.ชุมชนนาข่า จังหวัดอุดรธานี ผ้าไหม ผ้าพื้นเมือง 2.ชุมชนใบชาดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย สินค้าใบชา 3.ชุมชนด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา เครื่องปั้นดินเผา 4.ชุมชนบ้านวังส้มซ่า จังหวัดพิษณุโลก ผลิตภัณฑ์จากส้มซ่า 5.ชุมชนควนขนุน จังหวัดพัทลุง หัตถกรรมกระจูด 6.ชุมชนสรรพยา จังหวัดชัยนาท ส้มโอขาวแตงกวา 7.ชุมชนเกาะคา จังหวัดลำปาง ข้าวแต๋น เซรามิก 8. ชุมชนเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา จักสานผักตบชวา 9.ชุมชนปัว จังหวัดน่าน เครื่องเงินชาวเขา 10.ชุมชนส่องดาว จังหวัดสกลนคร ผ้าย้อมคราม
         
11.ชุมชนปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ผ้าไหมหมี่โคราช 12.ชุมชนบางสระเก้า จังหวัดจันทบุรี กกจันทบูร 13.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด ท่องเที่ยว 14.ชุมชนละงู จังหวัดสตูล อาหารทะเลแปรรูป 15.ชุมชนเมืองตรัง จังหวัดตรัง จักสานใบจาก 16.ชุมชนบ้านสามช่องเหนือ จังหวัดพังงา ท่องเที่ยว 17.ชุมชนดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี มะพร้าว 18.ชุมชนบ้านดอนทอง จังหวัดนครปฐม กล้วยแปรรูป 19.ชุมชนมิตรสัมพันธ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ผลไม้แช่อิ่ม และ 20.ชุมชนคลองตาปรั่ง จังหวัดสมุทรสาคร มะพร้าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad