สุริยะ อัดยาโป๊วอุตสาหกรรม ปั้น ดีพเทค สตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ ดึงภาคเอกชนร่วมกิจการ ตั้งเป้าขยายการลงทุน 500 ล้านบาท - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

สุริยะ อัดยาโป๊วอุตสาหกรรม ปั้น ดีพเทค สตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ ดึงภาคเอกชนร่วมกิจการ ตั้งเป้าขยายการลงทุน 500 ล้านบาท

สุริยะ อัดยาโป๊วอุตสาหกรรม ปั้น ดีพเทค สตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ ดึงภาคเอกชนร่วมกิจการ ตั้งเป้าขยายการลงทุน 500 ล้านบาท

สุริยะ อัดยาโป๊วอุตสาหกรรม ปั้น ดีพเทค สตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ ดึงภาคเอกชนร่วมกิจการ ตั้งเป้าขยายการลงทุน 500 ล้านบาท

 กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหรรม (กสอ.) เร่งเครื่องเศรษฐกิจเสริมศักยภาพผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในด้านเทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อให้มีทักษะในการประกอบการ การวิเคราะห์ความต้องการตลาด และการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจับคู่ธุรกิจ กับกลุ่มนักลงทุน ภายใต้โครงการสตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ เสริมโอกาสในการประกอบธุรกิจผ่านการร่วมลงทุน ผ่านการดำเนินงานหลัก 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย การขยายเครือข่ายสตาร์ทอัพ การขยายเครือข่ายเงินทุน การขยายเครือข่ายตลาด และ การขยายเครือข่ายนานาชาติ โดยคาดว่าจะสามารถต่อยอดความสำเร็จขยายมูลค่าการร่วมลงทุนได้กว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่สามารถเชื่อมโยงเงินลงทุนได้กว่า 350 ล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของประเทศ ตามแนวนโยบายนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านการสนับสนุนผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการดำเนินธุรกิจ จึงได้สั่งการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดำเนินโครงการเชื่อมโยงตลาดสําหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ STARTUP CONNECT ขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงตลาดและรับการสนับสนุนจากนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยีเชิงลึก ซึ่งปีที่ผ่านมาในระยะนำร่อง ได้คัดเลือกผู้ประกอบการสตาร์ทอัพจำนวน 6 ราย นำเสนอโมเดลธุรกิจต่อนักลงทุนและบริษัทร่วมลงทุน โดยบริษัท อีซีจี-รีเซิร์ช จำกัด หนึ่งในนักลงทุนมีความสนใจและร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพกลุ่มนี้ รวมมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ามูลค่าการร่วมลงทุนของนักลงทุนในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500 ล้านบาท ผ่านการดำเนินงาน 4 ขั้นตอนหลัก ประกอบด้วย

  • ขยายเครือข่ายสตาร์ทอัพ เพื่อเฟ้นหาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ต่อยอดพัฒนาทักษะ ให้มีความพร้อมในการนำเสนอโมเดลธุรกิจกิจกับนักลงทุน
  • ขยายเครือข่ายเงินทุน โดยการสร้างเครือข่ายบริษัทเอกชนที่สนใจลงทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่ได้รับการส่งเสริมจาก กสอ. เพื่อสร้างความมั่นใจในการร่วมดำเนินธุรกิจ
  • ขยายเครือข่ายตลาด ผ่านกระบวนการทดลองการทำการตลาดในประเทศ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถบรรลุความต้องการของผู้บริโภค ทั้งยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมั่นคง
  • ขยายเครือข่ายนานาชาติ เป็นขั้นตอนสุดท้ายเมื่อผู้ประกอบการมีความพร้อมเพียงพอในการต่อยอดไปยังตลาดนานาชาติ ที่มีมูลค่าตลาดที่สูงขึ้น เพื่อรองรับความต้องการจากต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการการันตีให้กับนักลงทุนถึงคุณภาพของผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมจาก กสอ.

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การขยายผลการดำเนินงาน โครงการ STARTUP CONNECT ในปี 2564 มีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจำนวน 25 ราย จากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 500 ราย โดยผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น อาทิ การศึกษาความต้องการของลูกค้า เพื่อการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ (Customer Development) การประเมินศักยภาพตลาดกลยุทธ์และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและการขยายตลาด (Market Strategy) การประเมินศักยภาพเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับแผนการตลาดและการเติบโตของธุรกิจ (Technology Roadmap) รวมทั้งการวิเคราะห์โมเดลธุรกิจ เพื่อการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมเพียงพอที่จะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กับหน่วยงานเครือข่ายและ Big Brother ของกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ สมาพันธ์ SMEs สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) อีกทั้งได้มีโอกาสนำเสนอแผนธุรกิจต่อนักลงทุน (Venture capital: VC) เพื่อให้สตาร์ทอัพเหล่านี้ได้มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจต่อไป

อย่างไรก็ดี นอกจากโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักแล้วของการดำเนินการในปีนี้แล้ว เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างมูลค่าการร่วมลงทุนของนักลงทุนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500 ล้านบาท ช่วยลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และก่อให้เกิดการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเชิงลึกที่มีศักยภาพต่อไป นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4564 www.dip.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad