ซีพีเอฟยึดแนวทาง "ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ" ใช้ข้าวโพดระบุที่ปลูกถูกต้อง 100% พร้อมส่งเสริมเกษตรกร เติบโตไปด้วยกัน
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นใส่ใจการผลิตอาหารด้ วยความรับผิดชอบทุกขั้นตอน เน้นสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ อย่างโปร่งใส ยืนยันใช้วัตถุดิบข้ าวโพดจากแหล่งผลิตที่ไม่ทำลายสิ่ งแวดล้อม พร้อมช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิตด้ วยการปลูกแบบถูกวิธี มีรายได้มั่นคง ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจสร้ างความยั่งยืน ทุกฝ่ายเติบโตไปด้วยกัน
ซีพีเอฟ โดย บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้ ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญการทำธุรกิจด้ วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่ งแวดล้อม คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ มเติบโตไปด้วยกัน ตามนโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่ งยืน โดย ซีพีเอฟ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากคู่ค้าในการรับซื้อข้ าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร โดยสามารถระบุพื้นที่เพาะปลู กได้ตามเอกสารสิทธิ์ครบถ้วน 100% แล้ว ตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” ขณะเดียวกันร่วมพั ฒนาเกษตรกรในห่วงโซ่การผลิตข้ าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เติบโตไปด้ วยกัน เป็นส่วนหนึ่งขับเคลื่อนห่วงโซ่ การผลิตอาหารมั่นคง
นับตั้งแต่ปี 2559 ซีพีเอฟได้ใช้ระบบตรวจสอบย้ อนกลับแหล่งปลูกได้ (Corn Traceability) เพื่อระบุผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสั ตว์ที่ซื้อต้องไม่ได้มาจากแหล่ งปลูกพื้นที่ป่า และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ เพาะปลูก ล่าสุดบริษัทฯ ร่วมมือจากคู่ค้าธุรกิจและผู้ รวบรวมข้าวโพดในการติดตั้งระบบ GPS Tracking เพื่อใช้ในการติดตามข้อมู ลแบบเรียลไทม์ (real time) ในการขนส่งข้าวโพดเข้าสู่ โรงงานอาหารสัตว์ซีพี เอฟในเขตประเทศไทยได้ครบ 100% อีกด้วย
นอกจากนี้ กรุงเทพโปรดิ๊วส์ยังได้ นำระบบตรวจสอบย้อนกลั บไปขยายผลในประเทศเพื่อนบ้ านของไทย โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ซีพี เมียนมา บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิ บอาหารสัตว์ประกาศรับซื้อผลผลิ ตข้าวโพดในเขตประเทศเมียนมา จากแหล่งผลิตที่มีเอกสารสิทธิถู กต้องภายใต้ระบบตรวจสอบย้อนกลั บเท่านั้น โดยเกษตรกรในเขตประเทศเมียนมาร่ วมลงชื่อเพื่อขึ้นทะเบี ยนตามมาตรฐานการรับซื้อจากแหล่ งผลผลิตข้าวโพดที่มีเอกสารสิทธิ์ และเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาผื นป่าที่อุดมสมบูรณ์ในเขตเอเชี ยตะวันออกเฉียงใต้ และจัดการปัญหาหมอกควัน
ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟยังเดินหน้าส่งเสริมพั นธมิตรในห่วงโซ่การผลิตอาหารทั้ งคู่ค้าธุรกิจ และ เกษตรกรเติบโตด้วยกันอย่างยั่ งยืน โดยริเริ่มโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อส่งเสริมเกษตรกรไทยเพิ่ มประสิทธิภาพในการปลูกข้ าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญของบริษัทให้ คำแนะนำใกล้ชิด ควบคู่กับการบริหารจั ดการแบบเกษตรแปลงใหญ่ และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ Chat bot ช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมู ลราคารับซื้อผลผลิตหน้ าโรงงานได้ทุกวัน และข้อมูลรถเก็บเกี่ยวและรถขนส่ งในชุมชน สนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้ มค่า และลดต้นทุนการผลิต
ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตระหว่ างเดือนตุลาคม-ธันวาคม บริษัทเพิ่มจุดรับซื้อผลผลิตที่ ได้มาตรฐานในชุมชนให้อยู่ใกล้พื้ นที่ปลูกเกษตรกร เพิ่มทางเลือกให้เกษตรกร ประหยัดค่าขนส่ง ช่วยเกษตรกรได้รับรายได้เต็มเม็ ดเต็มหน่วย โดยบริษัทช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ ายในการเก็บเกี่ยวและการขนส่ งเพื่อนำผลผลิตมาจำหน่ายที่จุ ดรับซื้อ
ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการปลูกข้ าวโพดด้วยความรับผิดชอบ 9,554 ราย ครอบคลุมพื้นที่ปลูก 241,220 ไร่ โดยผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ในปี 2563 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อเทียบกับ 909 กิโลกรัมต่อไร่ ของเกษตรกรนอกโครงการฯ ช่วยให้ครัวเรือนมีรายได้เพิ่ มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 29,628 บาทต่อครัวเรือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น