อิปซอสส์ ปล่อยชุดวิจัยพิเศษ "ตลาดสกุลเงินดิจิทัล มาแรง ครองใจนักออม ชั่วข้ามคืน" Bitcoin ขึ้นแท่น รับอานิสงส์ Covid19 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2564

อิปซอสส์ ปล่อยชุดวิจัยพิเศษ "ตลาดสกุลเงินดิจิทัล มาแรง ครองใจนักออม ชั่วข้ามคืน" Bitcoin ขึ้นแท่น รับอานิสงส์ Covid19

 


อิปซอสส์ ปล่อยชุดวิจัยพิเศษ "ตลาดสกุลเงินดิจิทัล มาแรง ครองใจนักออม ชั่วข้ามคืน" Bitcoin ขึ้นแท่น รับอานิสงส์ Covid19

อิปซอสส์เผย คนไทยจำนวนมากสนใจตลาดสกุลเงินดิจิทัล เมินการลงทุนในวิถีเดิม ๆ  “อายุ” เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเลือกจับโอกาส  ขณะที่ผู้หญิงให้ความสนใจในบิทคอยน์ไม่น้อยไปกว่าผู้ชาย

พฤติกรรมการลงทุนเปลี่ยน  ตลาดสกุลเงินดิจิทับรับอานิสงส์โควิดเต็มๆ  ดันราคา ”บิทคอยน์” ขึ้นสู่จุดสูงสุดตลอดกาล 3 ค่ายกระดานเทรด แข่งเดือด  บิทคัพ (Bitkub) แซงโค้ง ตามติดด้วย  ไบแนนซ์ (Binance) และ สตางค์โปร  (Satang Pro)

ณ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์  วันที่ 24 มีนาคม 2564   บริษัท อิปซอสส์ (ประเทศไทย) จำกัด  (Ipsos (Thailand) Co.,Ltd.)  ผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยตลาดและสำรวจความคิดผู้บริโภค  ผู้ให้บริการงานวิจัยรูปแบบ Customized Research  Solution  โซลูชั่นออกแบบเฉพาะรายแบบครบวงจร One Stop Service  ที่ได้พัฒนาโมเดลโซลูชั่นการวิจัยพร้อมใช้มากที่สุดถึง 75 โซลูชั่นสำหรับตลาดโลกและ 9 โมเดลโซลูชั่นสำหรับตลาดวิจัยไทย โดย นางสาว อุษณา จันทร์กล่ำ (Usana Chantarklum)  กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นาย อิษณาติ วุฒิธนากุล (Aitsanart Wuthithanakul) ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด  ได้เปิดเผยถึงผลวิจัยสำรวจชุดพิเศษล่าสุด “ปรากฏการณ์ใหม่ โควิด 19 ส่งผลกระทบเปลี่ยนโฉมพฤติกรรมการลงทุน  ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมาแรงฮิตติดอันดับ ดัน สกุลบิทคอยน์ ขึ้นแท่นอันดับ 1”



จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลโดยระบบเศรษฐกิจโดยภาพรวม  ประกอบกับที่ ธปอ. หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย จำเป็นต้องดำเนินมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate) ลงต่ำกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา  ทำให้ดอกเบี้ยเงินฝาก  ไม่เป็นที่จูงใจอีกต่อไป  ในขณะที่รายได้ลดลงและค่าใช้จ่ายเพื่อการครองชีพคงสูงเท่าเดิม  ผู้คนจึงมุ่งหาทางเลือกเพื่อชดเชยช่องทางรายได้ และจากการที่ผู้ให้บริการด้านเทรดบิทคอยน์ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดสร้างการรับรู้และผลตอบแทนที่น่าสนใจยิ่งเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายใหม่อย่างต่อเนื่อง  ส่งผลให้เกิดกระแสการรับรู้อย่างกว้างขวาง  ประกอบกับเป็นช่วงจังหวะที่ผู้คนกำลังมองหาทางเลือกในการออมเงินและลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าการออมเงินในเงินฝากธนาคารเป็นเหตุให้สกุลเงิน บิทคอยน์ พุ่งแรงจนเข้าไปอยู่ในความสนใจของมวลชน

สำหรับตลาดเทรดสกุลเงินดิจิทัลในช่วงแรก ๆ เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่าทำเงินมหาศาลให้กับนักลงทุนชาวไทย และได้สร้างเศรษฐีหน้าใหม่จากการลงทุนในด้านนี้ โดยเริ่มจากเดือนกันยายน ปี 2554  (2011)  บิทคอยน์ 1 หน่วย มีมูลค่าถึง   4.82 $  หรือเท่ากับ 146 บาท  หลังจากนั้น ประมาณ 9 ปี ต่อมา BTC ทะลุมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐ  หรือเทียบเท่า  1.8 ล้านบาท นับว่าเป็นการเติบโตมากกว่า 1 ล้าน % เมื่อเทียบกับปี 2554     

จากผลการศึกษาชุดพิเศษล่าสุดของ อิปซอสส์ (ประเทศไทย) ที่มีการสำรวจกับกลุ่มตัวอย่างกว่า 500 คน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์  2564   ซึ่งอยู่ในช่วงโควิดระบาด รอบ 2  พบว่า “อายุ” เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเลือกจับโอกาส  ในขณะผู้หญิงมีความสนใจในการลงทุนในบิทคอยน์ไม่แพ้ผู้ชาย ผลการสำรวจพบว่า 68%  ของคนทั้งประเทศมีความสนใจในบิทคอยน์               20%  ไม่สนใจในบิทคอยน์   12%   ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับบิทคอยน์ และมีจำนวนมากอยู่ระหว่างศึกษาดูความเป็นไปได้ในการเตรียมลงทุน ทำเงินต่อเงินผ่านช่องทางนี้ และเมื่อถามถึงความสนใจ เหตุผล และ ปัญหาในการอยากทำเงินจากตลาดเงินสกุลดิจิทัล นี้  



รายงานการวิจัยพบว่า 3 อันดับเหตุผลแรกที่ทำให้คนไทยมีความสนใจต่อบิทคอยน์คือ   

68%    ของคนไทย สนใจที่จะ เทรดเงินสกุลบิทคอยน์เพราะต้องการผลกำไรที่รวดเร็ว              59%    ต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจลงทุนในบิทคอยน์          42%   มีเป้าประสงค์การลงทุนเพื่อสร้างรายได้ระยะยาว

นอกจากนั้นยังพบถึงมุมมองที่แตกต่างคนคนไทยในแต่ละกลุ่มช่วงอายุ โดยคนไทยอายุ 18-29 ปี เป็นกลุ่มที่สนใจในบิทคอยน์สูงที่สุด แต่ขาดเงินทุนที่เป็นเงินเย็น  ส่วนกลุ่มช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป  ในจำนวนครึ่งต่อครึ่ง  ขาดความรู้และไม่มั่นใจในระบบ

นายอิษณาติ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า  จากรายงานการวิจัย ได้ทำการศึกษาในส่วนของ “เพศ” และ “อายุ”  โดยผลการศึกษาพบว่าผู้หญิงไทยมีความสนใจในบิทคอยน์ไม่น้อยกว่าผู้ชายไทย โดยมีแนวโน้มในการติดตามข่าวสารมากกว่าผู้ชายไทยด้วย นอกจากนั้นยังพบถึงมุมมองที่แตกต่างคนคนไทยในแต่ละกลุ่มช่วงอายุ



โดยมีทำการศึกษาผู้สนใจในระดับ 4 ช่วงอายุ  คือ  อายุ 18 – 29 ปี  มีความสนใจและต้องการสูง  แต่มีข้อจำกัดด้านเงินทุน  อายุ 30 – 39 ปี นอกจากจะสนใจในผลกำไร ยังสนใจเพื่อการลงทุนระยะยาว  ขณะที่อายุ 40 – 49 ปี เหตุผลหลักที่ไม่สนใจที่จะลงทุนด้านนี้เนื่องจากมีความรู้ไม่มากพอ และกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป ไม่สนใจและไม่มีความรู้สึกอยากจะศึกษาบิทคอยน์เพิ่มเติม ซึ่งมีความแตกต่างกันไปในเหตุผลและวิธีคิด  ดังนี้

กลุ่มคนอายุ  18 – 29 ปี  

เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจลงทุนในบิทคอยน์มากที่สุด โดยมากถึง 40% ของคนรุ่นใหม่สนใจที่จะลงทุนแม้ไม่เคยลงทุนมาก่อน  และพบอีกว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะบอกต่อความสนใจที่ตนมีในสกุลเงินดิจิทัลต่อเพื่อน และคนในครอบครัว มากกว่าคนในช่วงวัยอื่นยิ่งกว่านี้  กว่า 82% มองว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีต่อคนรอบตัว  แต่ความคิดเห็นในเชิงบวกนี้อาจไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนจริงเนื่องด้วยปัญหาและข้อจำกัดด้านเงินทุน  โดยกว่า  37% ของคนในช่วงอายุดังกล่าว  ติดปัญหาการขาดเงินเย็นสำหรับการลงทุน

กลุ่มคนอายุ 30 - 39 ปี                                                                                                  จากการศึกษาพบว่า 32% ของคนกลุ่มนี้สนใจลงทุนในบิทคอยน์ โดยนอกจากการหวังผลกำไรแล้ว กว่า 42% ยังสนใจลงทุนในระยะยาว และใช้ผลตอบแทนเป็นเงินทุนสำหรับชีวิตในวัยเกษียณ



กลุ่มคนอายุ 40 - 49 ปี 

จำนวน 28% ของคนกลุ่มนี้ไม่สนใจที่จะลงทุน เนื่องจากขาดความเข้าใจในการทำงานของบิทคอยน์ ที่แตกต่างจากระบบการเงินแบบรวมศูนย์ (centralized monetary system) ที่มีธนาคารเป็นศูนย์กลางข้อมูลทางการเงินของลูกค้า และถูกควบคุมโดยธนาคารกลางของประเทศ ซึ่งผู้ลงทุนส่วนใหญ่มีความคุ้นเคยกับระบบดังกล่าวเป็นอย่างดี

กลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป 

ในกลุ่มนี้มีคนถึง 45% ที่ไม่เคยลงทุน และไม่สนใจที่จะศึกษาหรือลงทุน ในบิทคอยน์ โดยมีจำนวนถึง 4% ที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับบิทคอยน์เลย

สภาวะการแข่งขันของแต่ละค่ายสกุลเงินดิจิทัล  บิทคัพ (Bitkub)  นำห่าง ตามด้วย  ไบแนนซ์ (Binance) และ สตางค์โปร  (Satang Pro)


 “บิทคับ” กระดานเทรดสัญชาติไทย ครองตลาดด้วยจำนวนผู้ลงทุนและเคยลงทุนกว่า 72% ผ่านการใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ พร้อมนำเสนอผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ เพื่อชักชูงนักลงทุนรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคได้ในวงกว้าง ตามหลังด้วย “ไบแนนซ์” กระดานเทรดเงินดิจิทัลที่มีเครือข่ายทั่วโลกและรองรับสกุลเงินต่าง ๆ มากมายรวมถึงเงินบาท ดึงดูดให้นักลงทุนให้สามารถเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนภายในแพลตฟอร์มได้โดยมีจำนวนผู้ลงทุนและเคยลงทุนที่ 27% ซึ่งตามมาเป็นที่สอง และที่สามกับ “สตางค์โปร” กระดานเทรดสัญชาติไทยรายใหญ่ หนึ่งในพันธมิตรของไบแนนซ์ กระดานเทรนระดับโลก โดยสตางค์โปรมีจำนวนผู้ลงทุนและเคยลงทุนอยู่ที่ 13%

โดยแม้ในภาพรวมการเทรดบิทคอยน์จะดูคึกคักทั้งในมุมนักเทรดและผู้ให้บริการกระดานเทรด กระนั้นแล้วอุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโตของตลาดก็ยังคงอยู่ ทั้งการขาดเงินทุนในการลงทุนที่พบมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ การขาดความรู้ความเข้าใจในเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชน และความไม่มั่นใจในความเสี่ยงและความมั่นคงของการลงทุนในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตามผลการศึกษาได้เผยให้เห็นว่าถึงแม้จะมีความไม่นอนนอนและความเสี่ยงต่างๆตามที่ได้กล่าวมาเบื้องต้น 42% ของชาวไทยที่มีความสนใจในบิทคอยน์ก็ยังมีแผนที่จะลงทุนในบิทคอยน์ภายใน 1 ปี จึงกล่าวได้ว่าตลาดของบิทคอยน์สำหรับคนไทยนั้นคงไม่หายไปในเร็ววันนี้แน่นอน

เกี่ยวกับผลสำรวจ                                                                                                                  ผลสำรวจชุดนี้ได้มาจากการจัดเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถามออนไลน์ซึ่งถูกจัดทำขึ้นโดยบริษัทอิปซอสส์ ผู้เข้าร่วมทำแบบสอบถามมีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 500 คน 

การศึกษาครั้งนี้ถูกจัดทำขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2564



ข้อมูลจากการสำรวจมีการถ่วงน้ำหนักที่แตกต่างกันเพื่อให้กลุ่มตัวอย่างแต่ละกลุ่มสามารถสะท้อนและเป็นตัวแทนของกลุ่มประชากรหลักตามสำมะโนประชากรล่าสุด (demographic profile) ได้ โดยอิปซอสส์คำนวณความแม่นยำของผลสำรวจออนไลน์นี้ มีช่วงความน่าเชื่อถือ (credibility interval) อยู่ที่ +/- 3.5%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad