PPS เผยไตรมาส 1/64 รับรู้รายได้งานโครงการต่อเนื่อง คว้างานใหม่มูลค่ารวม 52.30 ล้านบาท หนุน Backlog 563 ล้านบาท เตรียมความพร้อมยื่นเสนองานภาครัฐ-เอกชนต่อเนื่อง เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ให้บริการงานก่อสร้างครบวงจร ขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มความสามารถการแข่งขัน
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกปีนี้ บริษัททยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากโครงการรันเวย์ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ ศูนย์ราชการส่วนต่อขยายโซน Cโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม โรงเรียนมาแตร์เดอี สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 BLOCK H Emsphere และโครงการในกลุ่มค้าปลีกหลายสาขา
อีกทั้ง ได้รับงานอาคารที่พักอาศัยของพนักงาน สำหรับโครงการท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต และอยู่ในระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการจากกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน มูลรวมกว่า 52.30 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 563 ล้านบาท แบ่งออกเป็นโครงการภาครัฐ 66% และภาคเอกชน 44% โดยบริษัทเตรียมความพร้อมยื่นเสนองานภาครัฐที่จะออกมาตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และหวังจะได้รับส่วนแบ่งจากงานกลุ่มนี้เพิ่มเติม ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนงานภาครัฐเป็น 50% ภาคเอกชน 50%
สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทเดินหน้าตามแผน พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันสูงสุด
“ในปี 2564 บริษัทมีแผนปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสภาพธุรกิจในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการบริการให้เป็น One Stop Service ของอุตสาหกรรมการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ เช่น ขยายขอบเขตการทำงานศึกษาความเป็นไปได้ในการออกแบบเพื่อการก่อสร้างโครงการ อีกทั้งเพิ่มการให้บริการด้าน Design & Turnkey สำหรับงานปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่สินทรัพย์ พร้อมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในงานบริหาร ควบคุมการก่อสร้าง และการบริหารงานด้านบุคคล รวมถึงการสร้างเทคโนโลยีด้าน Virtual Propertyเสริมความสามารถทางการขายให้แก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ดร.พงศ์ธร กล่าว
นอกจากนี้ยังเตรียมแผนจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนเพิ่มเติม และหาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อเสริมศักยภาพในการทำธุรกิจของบริษัท ซึ่งจากแผนการดำเนินงานในปีนี้ รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เชื่อว่าจะทำให้บริษัทสามารถมีรายได้ และจะเห็นความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น