รีไวร์ (Rewire) นีโอแบงก์แถวหน้าสำหรับเอ็กซ์แพท ระดมทุน 20ล้านเหรียญพร้อมขยายรูปแบบบริการการเงิน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2564

รีไวร์ (Rewire) นีโอแบงก์แถวหน้าสำหรับเอ็กซ์แพท ระดมทุน 20ล้านเหรียญพร้อมขยายรูปแบบบริการการเงิน

 


รีไวร์ (Rewire) นีโอแบงก์แถวหน้าสำหรับเอ็กซ์แพท

ระดมทุน 20ล้านเหรียญพร้อมขยายรูปแบบบริการการเงิน

 

       โอกาสการเข้าถึงบริการการเงิน, บริการทางการเงินที่ทั่วถึง, ลดค่าใช้จ่าย เป็นบริการการเงินที่ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องถิ่นฐานไปที่ต่างๆ ทั่วโลก ที่มีถึง 164ล้านคนทั่วโลกในปัจจุบัน

 

       รีไวร์ (Rewire) ให้บริการแก่คนเอเชียที่อยู่และทำงานต่างประเทศส่งเงินหลายร้อยล้านเหรียญสู่บ้านเกิด อาทิ ฟิลิปปินส์ จีน อินเดีย และไทย

 

       รีไวร์ (Rewire) มีใบอนุญาตจาก EU Electronic Money Institution license (EMI) เพื่อรองรับการขยายพื้นที่บริการสู่ภูมิภาคยุโรป

 

กรุงเทพ ประเทศไทย – xx มีนาคม พ.ศ. 2564 - Rewire รีไวร์เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงิน (fintech startup) ที่พัฒนาการบริการธนาคารออนไลน์ข้ามพรมแดน (cross-border online banking services) เพื่อรองรับความจำเป็นของนักธุรกิจคนทำงานที่ต้องเดินทางย้ายถิ่นฐานไปทั่วโลก  วันนี้ได้แถลงข่าวการระดมทุน Series B มูลค่า 20ล้านเหรียญสหรัฐพร้อมด้วยวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารชั้นนำ

การระดมทุนนี้เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เปิดตัวบริการของบริษัทในภูมิภาคนี้มาเมื่อปีพ.ศ. 2559 บริษัท Rewire มีผู้ใช้บริการส่งเงินหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในเอเชียผ่านการบริการของบริษัท และกลุ่มลูกค้าก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงกว่า 230,000 ยูสเซอร์จากประเทศจีน, ฟิลิปปินส์, อินเดีย และไทย ฐานผู้ใช้งานของบริษัทขยายตัวต่อเนื่องและรวดเร็วเช่นกัน โดยอัตราการขยายตัวของยูสเซอร์จากฟิลิปปินส์และไทยอยู่ที่ 300% year-on-year และอินเดียมีการเติบโตอยู่ที 350% ขณะที่กลุ่มยูสเซอร์จากจีนขยายตัวสูงถึง 1000% year-on-year เลยทีเดียว

บริษัท Rewire ก่อตั้งขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ผู้ย้ายถิ่นฐาน (migrant) ให้ได้รับโอกาสการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ตนเอง และครอบครัว  โดยรอบเม็ดเงินการลงทุนปัจจุบันนั้นจะส่งเสริมให้กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงิน สามารถพัฒนาออกนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการวางแผนสร้างพันธมิตรธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในประเทศต้นทาง และปลายทางที่ย้ายไปลงหลักปักฐานอีกด้วย


 

การระดมทุนในครั้งนี้นำโดย OurCrowd ร่วมด้วยผู้ลงทุนหลักกลุ่มใหม่Renegade Partners, Glilot Capital Partners (ผ่านมาทางกลุ่ม Glilot+)และ Jerry Yang, อดีต CEO ของ Yahoo! และผู้อำนวยการที่ Alibaba, ผ่านกลุ่ม AME Cloud Ventures และยังมีผู้ลงทุนปัจจุบันเข้าร่วมด้วย ได้แก่Viola Fintech, BNP Paribas ผ่านกลุ่มร่วมทุน Opera Tech Ventures, Moneta Capital, และนักลงทุนอิสระส่วนตัว (private angel investors) ที่เข้ามาร่วมทุนด้วย

ล่าสุด บริษัท Rewire ได้รับใบอนุญาตจาก EU Electronic Money Institution license (EMI) ซึ่งออกโดยธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ (Dutch Central Bank)เพื่อให้ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเงินสามารถกระทำการ (I)ดำเนินการออกเงินอิเล็กทรอนิกส์ (II) ให้บริการรับชำระเงิน (payment services) และ (III) สามารถโอนเงิน ได้ นอกจากนี้ บริษัท Rewire ยังได้รับอนุญาตให้ขยายบริการผู้ให้บริการสินทรัพย์ทางการเงิน Israeli Financial Asset Service Provider อีกด้วย การที่บริษัทมีใบอนุญาตเหล่านี้ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายของการให้บริการธุรกรรมทางการเงินที่เข้าถึงง่ายและปลอดภัยแก่ผู้ทำงานที่ย้ายถิ่นฐานทั่วโลก 

เพื่อเป็นการผลักดันเร่งการขับเคลื่อนโซลูชั่นการเงินข้ามพรมแดน (cross-border solution) ทาง Rewire บริษัทมีแผนการเสริมเติมบริการต่างๆลงบนแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มมูลค่าของการบริการ เช่น การชำระค่าบริการ และการชำระค่าเบี้ยประกัน รวมไปถึง การบริการให้วงเงินเครดิตและการกู้ยืม, การลงทุน และการฝากเงินออม เป็นต้น ซึ่งเมื่อนำบริการเหล่านี้มาผนวกกับบริการที่มีอยู่ทั้ง การโอนเงิน, ชำระเงิน, และเดบิตการ์ด นับได้ว่าบริษัท Rewire มีความสามารถในการนำบริการทางการเงินชั้นหนึ่งไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการซึ่งเป็นผู้ที่ย้ายถิ่นฐานที่พำนักได้เป็นอย่างดี กลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับการบริการทางการเงินชั้นหนึ่งและอยู่ในระบบที่เข้าถึงง่าย

เจอรี่ หยาง กล่าวว่า ผมมีความประทับอย่างมากกับบริษัท Rewire ที่มีความเข้าใจความต้องการสำคัญที่เป็นปัญหาของบรรดาผู้ที่ต้องเปลี่ยนย้ายถิ่นพำนักไปทั่วโลก  ในฐานะผู้ลงทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรู้ว่านอกจากแผนธุรกิจที่แน่นรัดกุมแล้วยังต้องมีความเข้าใจต่อผลกระทบจากโลกโซเชียลควบคู่กัน  ซึ่งบริษัท Rewire พิสูจน์แล้วว่ามีความพร้อมทั้งสองด้าน ผมรอที่จะได้เห็นผลลัพธ์ที่มีนัยยะสำคัญของ Rewire ในการกำหนดทิศทาง วิถีอนาคตของการธนาคารออนไลน์ข้ามพรมแดน เนื่องจากสตาร์ทอัพนี้ได้เข้ามาสู่ธุรกิจนี้ด้วยเหตุอันน่าชื่นชมคือการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง(financial inclusion)

กาย แคชทัน (Guy Kashtan) ประธานกรรมการบริหารบริษัท Rewire กล่าวว่า: “หัวใจของธุรกิจเราคือการวางเป้าหมายที่จะสร้างรูปแบบการเข้าถึงโอกาสการใช้บริการทางการเงินได้อย่างทัดเทียม ทั่วถึงเพื่อการให้การช่วยเหลือผู้ที่ย้ายถิ่นฐานและครอบครัวของเขาได้สร้างอนาคตที่มั่นคงทางการเงินรวมถึง การที่เราจะทำเช่นนั้นได้ เราตั้งเป้าไปที่การให้บริการที่ก้าวไกลมากกว่าบริการดั้งเดิมของธนาคารที่มีอยู่ เช่น การชำระค่าเบี้ยประกันในประเทศต้นทางของยูสเซอร์ และบัญชีออมทรัพย์  การลงทุนและใบรับรองที่ได้มาเป็นถือเป็นก้าวสำคัญตามวิสัยทัศน์ซึ่งบริษัทจะเดินเครื่องพัฒนาการบริการรูปแบบใหม่ๆอย่างต่อเนื่องรวมถึงการขยายตัวธุรกิจสู่ภูมิภาคอื่นๆ

จอน เมเดฟ (Jon Medved) ประธานกรรมการบริหารบริษัท OurCrowd กล่าวว่า: “เราเป็นผู้สนับสนุนของ Rewire ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และลงทุนตั้งแต่นั้นมาการลงทุนครั้งนี้ ผมรู้สึกยินดีจากใจจริงเพราะถือได้ว่าเลือกลงทุนได้ถูกต้องตามกลยุทธ์วิเคราะห์การลงทุนเบื้องต้น (initial investment thesis) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทมีผลการดำเนินการที่ดีเป็นที่น่าพอใจอีกทั้งยังมีอัตราการเติบโตสูงอีกด้วย เป็นการช่วยเหลือผู้คนมากมายให้ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงิน และได้รับบริการการเงินที่จำเป็นจากแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพจากRewire” 

รอบการลงทุนนี้ ได้อะเล็กซ์ บาเคียร์ (Alex Bakir) ผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นยุโรป และเนียร์ มิลนาร์สกี้ (Nir Mlynarsky) ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน มารับผิดชอบด้านการบริหารจัดการภายใน ซึ่งช่วยให้ Rewire แข็งแกร่งพอที่จะขับเคลื่อนธุรกิจก้าวต่อไปตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของบริษัท

บริษัท Rewire ได้รับความสำเร็จในปีพ.ศ. 2563 สวนกระแสการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีธุรกรรมการเงินหมุนเวียนถึง 500ล้านเหรียญผ่านระบบของบริษัท ฐานลูกค้าขยายตัวถึงสามเท่าในปีพ.ศ. 2563 และคาดว่าจำนวนยูสเซอร์ที่ลงทะเบียนจะขยับตัวถึงจำนวน 0.5ล้านรายในไม่ช้า โดยที่ 40% มาจากการเติบโตที่เกิดขึ้นได้ด้วยกำลังศักยภาพของบริษัทเอง (Organic Growth)บริษัท Rewire เจาะตลาดใหม่ในยุโรปและสหราชอาณาจักร และได้เปิดตัวการชำระเงินและบริการแบบข้ามพรมแดนรูปแบบใหม่

บริษัท Rewire ยังได้สร้างเครือข่ายพันธมิตรที่มั่นคงแข็งแกร่งกับสถาบันการเงินที่มีเสถียรภาพที่น่าเชื่อถือในหลายประเทศ อาทิ UkrSibbank ในยูเครน หรือ หน่วยงานหลักที่หนุนการใช้แอปพลิเคชั่นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ไนจีเรีย เป็นพาร์ตเนอร์กับ Metrobank ในฟิลิปปินส์ส่วนที่อินเดียก็จับมือกับYes Bank เป็นต้น  

บริษัท Rewire ให้บริการแก่ผู้คนจากหลากหลายสัญชาติ จึงมีโซลูชั่นในภาษาต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานข้ามพรมแดนถึง 8 ภาษา และแอปพลิเคชั่นก็ปรับให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของแต่ละประเทศ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563บริษัท Rewire ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำทางด้านเทคโนธุรกรรมการเงินในงาน Samsung powered Extreme Tech Challenge (XTC) 2020  ที่สนับสนุนโดยซัมซุง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad