ซีพีเอฟ ชู “อาหารมั่นคง” ผลิตอาหารปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เลี้ยงประชากรโลกอย่างยั่งยืน
2 เมษายน 2564 – บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วยความรับผิดชอบ ชูกลยุทธ์ “อาหารมั่นคง” ผลิตอาหารคุณภาพและปลอดภัย รองรับความต้องการของประชากรโลกอย่างเพียงพอและยั่งยืนในทุกสถานการณ์
ซีพีเอฟ เปิดตัวรายงานความยั่งยื
นประจำปี 2563 ตอกย้ำกลยุทธ์สู่ความยั่งยืน 3 เสาหลัก อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ สนับสนุนการบริหารจัดการธุรกิ
จให้ดำเนินไปได้อย่างเต็มประสิ
ทธิภาพและต่อเนื่อง เพื่อผลิตอาหารคุณภาพดี ปลอดภัย เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริ
โภค ควบคู่กับการมีส่วนร่วมอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมตามหลักการเศรษฐกิ
จหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ส่งเสริมการใช้ทรั
พยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่
าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามวิสัยทัศน์ “ครัวของโลกที่ยั่งยืน”
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส หน่วยงานความรับผิดชอบต่อสั
งคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปี 2563 จากภัยธรรมชาติและโรคระบาดโควิ
ด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นบททดสอบกลยุทธ์ความยั่งยื
นขององค์กร ในการบริหารจัดการธุรกิจให้เดิ
นหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งซีพีเอฟในฐานะผู้นำธุรกิ
จเกษตรอุ
ตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ตระหนักดีถึงภาระกิจสร้างความมั่
นคงทางอาหาร และยืนหยัดเคียงข้างสั
งคมไทยมาโดยตลอด โดยซีพีเอฟเป็นบริษัทแรกๆที่ส่
งความช่วยเหลือสู่สังคม ริเริ่ม“โครงการส่งอาหารจากใจร่
วมต้านภัยโควิด-19” ส่งมอบอาหารปลอดภัย เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติ
หน้าที่ให้ทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และครอบครัว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข ผู้กักตัวเอง ผู้มีรายได้น้อย แรงงานข้ามชาติ กลุ่มเปราะบาง ฯลฯ ได้มีอาหารบริโภคอย่างเพียงพอ และยืนยันจะส่งความช่วยเหลือเพื่
อก้าวพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกั
น
“ในช่วงวิกฤติโควิด-19 นอกจากการส่งมอบอาหารปลอดภัยอย่างเพียงพอแล้ว ซีพีเอฟเป็นบริษัทไทยรายแรกที่ประกาศยกระดับความปลอดภัยของพนักงานขึ้นระดับสูงสุด พร้อมทั้งปรับแผนการดำเนินธุรกิจร่วมกับคู่ค้า โดยจัดทำโครงการ Faster payment ลดระยะเครดิตเทอมเหลือ 30 วัน ให้แก่คู่ค้ากว่า 6,000 ราย เพิ่มสภาพคล่องและรักษางานของลูกจ้างในกลุ่มคู่ค้า” นายวุฒิชัย กล่าว
ภายใต้การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ ซีพีเอฟผนวกเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) เข้ากับกลยุทธ์ความยั่งยืน 3 เสาหลัก โดยสนับสนุนเป้าหมาย SDGs ทั้งหมด 13 เป้าหมาย จาก 17 เป้าหมาย และมีการทบทวนกลยุทธ์ความยั่งยืนให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ สนับสนุนให้ธุรกิจเดินหน้าและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ปี 2563 บริษัทฯบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน 100% จำนวน 7 เป้าหมาย อาทิ ลดปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิต ลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ ลดปริมาณของเสียที่กำจัดโดยการฝังกลบ และเดินหน้าขับเคลื่อนเป้าหมายที่ต้องดำเนินการต่อ คือ ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งบริษัทวางแผนที่จะซื้อคาร์บอนชดเชยและมีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ (Climate-friendly products) วางแผนระบบโลจิสติกส์ ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร แก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน(Nature-based Solution) เพื่อมีส่วนร่วมในการบรรเทาปัญหาโลกร้อน
นายวุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในรายงานความยั่งยืนฉบับนี้ ได้แสดงความสำเร็จของการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของซีพีเอฟในด้านต่างๆ อาทิ การส่งเสริมคุณภาพชีวิต สนับสนุนให้ประชาชนมีอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจำนวน 51,234 ราย เด็กและเยาวชน 1.433 ล้านราย เข้าถึงอาหารและการเรียนรู้หรือทักษะเกี่ยวกับอาหาร ขณะที่ 35% ของผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทย มุ่งเน้นสุขโภชนาการและสุขภาพ ที่สำคัญผู้นำและพนักงานผ่านการอบรมพัฒนาความรู้และความเข้าใจเพื่อความยั่งยืนแล้ว 100% นอกจากนี้ จากการที่บริษัทฯมีการบริหารจัดการทรัพยากรตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้ปีที่ผ่านมา มีส่วนร่วมลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น ดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลดลง 36% เทียบกับปีฐาน 2558 นำน้ำกลับใช้ใหม่หรือใช้ซ้ำได้ถึง 42% ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้รวม 586,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากกิจกรรมต่างๆ เช่น โครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าชายเลน พื้นที่ยุทธศาสตร์ 5 จังหวัดรวม 2,388 ไร่ โครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จ.ลพบุรี อนุรักษ์และฟื้นฟูป่า 5,971 ไร่ พร้อมทั้งเดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชนอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเข้าสู่ระยะที่สอง ตลอดจนการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถใช้ซ้ำ หรือใช้ใหม่ หรือเป็นสินค้าใหม่ หรือย่อยสลายได้สูงถึง 99.9% การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ทำให้สามารถเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิตอยู่ที่ 26% ของการใช้พลังงานทั้งหมด เป็นต้น
ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน 3 เสาหลัก ในด้านอาหารมั่นคง บริษัทมีการดูแลสวัสดิภาพสัตว์สอดคล้องตามหลักอิสระ 5 ประการ ซีพีเอฟเป็นรายแรกของประเทศไทยที่นำอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยติดตามพฤติกรรมและความเป็นอยู่ของสัตว์แบบ Real-Time เพื่อนำมาใช้ปรับการดูแลจัดการได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลา ทำให้ได้รับการจัดอันดับมาตรฐานการจัดการฟาร์มตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ดีขึ้นไปอยู่ใน Tier 3 จาก Tier 4 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการยกระดับการให้ความคุ้มครองสัตว์ตามหลักมนุษยธรรม ด้านสังคมพึ่งตน ร่วมมือกับกรมปศุุสัตว์และสมาคมผู้เลี้ยงสุุกรแห่งชาติให้ความรู้เรื่่องการป้องกันโรค ASF กับเกษตรกร รวมไปถึงการส่งเสริมการการสร้างกิจกรรมร่วมกับชุมชนในการผลิตอาหารปลอดภัย ด้านดินน้ำป่าคงอยู่ บริษัทเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิต เช่น ในฟาร์มสุกร 94 แห่งทั่วประเทศมีการผลิตไบโอแก๊ส และติดตั้งโซลาร์ฟาร์ม 16 แห่ง ใ นส่วนโรงงานแปรรูปอาหารและอาคารสำนักงานมีการติดตั้งโซลาร์รูฟ 22 แห่ง ขณะที่ธุรกิจสัตว์น้ำได้พัฒนาระบบฟาร์มเลี้ยงกุ้งต้นแบบที่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาด เพิ่่มผลผลิต และลดการใช้น้ำ
นายวุฒิชัย กล่าวด้วยว่า กลยุทธ์สู่เป้าหมายความยั่งยืน ปี 2573 (ปี 2030) จะเน้นสร้างนวัตกรรมอาหาร การพัฒนาบุคลากรให้สามารถพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต การผลิตที่มุ่งสู่เป้าหมาย Net-zero ลดก๊าซเรือนกระจกและขยะอาหารโดยใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับกลุ่มอุตสาหกรรม ประเทศและโลก พร้อมทั้งแบ่งปันคุณค่าร่วมให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่สร้างความมั่นคงทางอาหารของโลกอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ CPF จัดทำรายงานความยั่งยืนอย่างต่
อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 เพื่อสื่อสารผลการดำเนินงานด้
านความยั่งยืนของซีพีเอฟ และรายงานฉบับนี้เป็นการพิมพ์ด้
วยหมึกและกระดาษที่เป็นมิตรต่
อสิ่งแวดล้อม สามารถติดตามรายละเอี
ยดของรายงานความยั่งยืน
https://www.cpfworldwide.com/en/sustainability/report
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น