“พาณิชย์”เกาะติดสถานการณ์ “ปาล์ม” ยันมีมาตรการดูแลทั้งเกษตรกร-ผู้บริโภค - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2564

“พาณิชย์”เกาะติดสถานการณ์ “ปาล์ม” ยันมีมาตรการดูแลทั้งเกษตรกร-ผู้บริโภค

img

“พาณิชย์”เกาะติดสถานการณ์ “ปาล์ม” ยันมีมาตรการดูแลทั้งเกษตรกร-ผู้บริโภค

“พาณิชย์”จับตาราคาปาล์มใกล้ชิด หลังผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด เผยมีสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายต่อเนื่อง กำชับโรงงานสกัดปิดป้ายแสดงราคา ห้ามกดราคา ทำให้ราคาปั่นป่วน หากตรวจพบ เล่นงานหนักตามกฎหมาย โชว์ผลงานที่ผ่านมา ดูแลได้ทั้งระบบ ช่วยเกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาเป็นธรรม ช่วยผู้บริโภคซื้อน้ำมันปาล์มราคาสมเหตุสมผล
         
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตปาล์มน้ำมันเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว แม้ยังมีปริมาณไม่มาก แต่กรมฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้จัดส่งสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาผลปาล์มปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยปัจจุบันราคารับซื้อผลปาล์ม อยู่ที่ 5.70–6.40 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และยังได้ขอความร่วมมือโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มให้รับซื้อผลผลิตในราคาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาด ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อที่อัตราน้ำมัน 18% ขึ้นไปให้ชัดเจน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ จะมีโทษตามกฎหมาย ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากพบว่ามีการกดราคา หรือจงใจทำให้เกิดความปั่นป่วนด้านราคา จะมีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         
ทั้งนี้ ในการดูแลการรับซื้อผลปาล์มให้กับเกษตรกร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดเข้มงวดกำกับดูแลไม่ให้มีการฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ รวมถึงให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจนด้วย
         
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ที่ผ่านมา การกำกับ ดูแลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ กระทรวงพาณิชย์ใช้ทั้งมาตรการ ในด้านบริหารและมาตรการทางกฎหมายเท่าที่จำเป็นควบคู่กันไป โดยยังไม่เคยใช้มาตรการควบคุมราคา เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นสินค้าเกษตรที่ผลผลิตออกตามฤดูกาล และขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ อีกทั้งยังเป็นสินค้าเกษตรกึ่งอุตสาหกรรม ซึ่งต้องใช้การบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มที่เป็นต้นน้ำได้รับราคาที่คุ้มค่ากับการเพาะปลูก ซึ่งสามารถสามารถผลักดันให้ราคาผลปาล์มดิบจากเดือนส.ค.2563 ที่เฉลี่ยกก.ละ 3.58 บาท เพิ่มเป็นสูงสุดกก.ละ 7.70 บาทในเดือนก.พ.2564 ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนก.ย.2563 จาก 23.43 บาท/กก. เป็นสูงสุดที่ 40 บาท/กก. ในเดือนก.พ.2564 
         
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มดิบจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ได้เข้าไปดูแลผู้บริโภคที่อยู่ปลายน้ำต้องไม่รับผลกระทบมากเกินไป และไม่เป็นการจำกัดการประกอบธุรกิจของผู้แปรรูปที่อยู่กลางน้ำ เพื่อให้ผู้รับไม้ต่อยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยได้ดูแลราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบที่รับซื้อก่อนหน้านี้ และได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดชะลอการปรับราคาออกไปให้นานที่สุด ขอความร่วมมือห้างค้าส่ง ค้าปลีก จำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้อยู่ในระดับราคาที่ไม่เป็นภาระต่อประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดและห้างค้าปลีก ค้าส่ง ได้ให้ความร่วมมือจัดให้มีการจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในราคาเฉลี่ยที่ 48-49 บาท/ขวด

ส่วนบกรณีที่มีร้านค้าย่อยบางรายฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา กระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดตรวจสอบภาวะการค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และกรมฯ ได้จัดส่งสายตรวจเฉพาะกิจตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา โดยได้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่กระทำความผิดทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad