วอลโว่ เปิดแผนยกระดับมาตรฐานศูนย์บริการ ซ่อมตัวถังและสีแบบครบวงจร “Volvo Certified Damage Repair Centre” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2564

วอลโว่ เปิดแผนยกระดับมาตรฐานศูนย์บริการ ซ่อมตัวถังและสีแบบครบวงจร “Volvo Certified Damage Repair Centre”

วอลโว่ เปิดแผนยกระดับมาตรฐานศูนย์บริการ ซ่อมตัวถังและสีแบบครบวงจร “Volvo Certified Damage Repair Centre”

วอลโว่ (VOLVO) แบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมสัญชาติสวีดิช ไม่หยุดยั้งการพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของลูกค้าทั่วโลก เปิดตัวศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน “Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” มอบความอุ่นใจด้วยบริการซ่อมตัวถังและสี บนมาตรฐานระดับสากลจากศูนย์บริการวอลโว่ เพื่อให้คุณได้รถยนต์หลังซ่อม มีสมรรถนะดีเยี่ยมเหมือนวันแรกที่ถอยจากโรงงาน และสามารถขับขี่รถยนต์วอลโว่ด้วยคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดอายุการใช้งานอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR ยังดำเนินงานบนพื้นฐานแนวคิดความยั่งยืนอย่างเข้มงวดตามหลักปรัชญาด้านสิ่งแวดล้อมที่วอลโว่ยึดมั่นมาโดยตลอด

มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยปรัชญาที่กำหนดให้ประสบการณ์ลูกค้าเป็นศูนย์กลางการทำงานของเรา (Customer Experience is The Core of Everything We Do) วอลโว่จึงมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานในทุก ๆ ด้านเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้แก่ลูกค้าของเรา ซึ่งนอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์เกรดพรีเมียมสู่ตลาดยานยนต์ทั่วโลก เรายังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานของศูนย์ซ่อมตัวถังและสี มาอย่างต่อเนื่อง เพราะอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและเราตระหนักดีว่า การบริการซ่อมตัวถังและสีจะต้องมีมาตรฐานสูงไม่แพ้การซ่อมบำรุงตามระยะทางรถยนต์ของเรา ในปีนี้วอลโว่จึงได้พัฒนาแผนงาน Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) เพื่อให้รถยนต์ที่ผ่านการซ่อมตัวถังและสีจากศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR ที่ได้มาตรฐานสมรรถนะสมบูรณ์และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเสมือนเพิ่งถอยออกจากโรงงานในวันแรก ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าทุกท่านด้วยมาตรฐานการดูแลรถยนต์หลังการขาย โดยปราศจากความกังวลใจในการดูแลรถแบบ 100% ตลอดอายุการใช้งาน”

ความยั่งยืน – หนึ่งในสาระสำคัญของศูนย์บริการมาตรฐาน “VCDR”
ความยั่งยืนซึ่งเป็นสิ่งที่วอลโว่ให้ความสำคัญเสมอมา ถูกนำมาผสานเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การทำสีรถซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีส่วนสร้างมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อม ศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองขนาดเล็กออกสู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านการติดตั้งระบบระบายอากาศแรงดันต่ำแบบเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน พร้อมตัวควบคุมอัตโนมัติ (Pulse Width Modulation: PWM) เพื่อลดการใช้พลังงานเมื่อไม่มีกิจกรรมและเพิ่มอัตราการระบายอากาศเมื่อเริ่มทำการพ่นสีรถ (เช่น พัดลมดูดอากาศจะเริ่มทำงานเมื่อปืนพ่นสีทำงาน) ส่วนขั้นตอนการอบสีรถ จะใช้แบตเตอรี่ทำความร้อนระบบไฟฟ้าแทนการใช้แก๊สหรือน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และปริมาณคาร์บอนจากการทำงานในภาพรวม นอกจากนี้ อากาศกว่า 80% จะถูกดูดผ่านระบบกรอง 6 ชั้นเพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่นละอองขนาดเล็กสู่ชั้นบรรยากาศ และนำอากาศเหล่านั้นกลับหมุนเวียนในการอบสีเพื่อลดปริมาณการใช้พลังงาน

สำหรับสีทุกชั้นผิว เลือกใช้สีระบบน้ำเพื่อลดการใช้สารอินทรีย์ระเหย (Volatile Organic Compounds: VOC) อีกทั้งรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่ ๆ ได้ปรับเปลี่ยนขั้นพื้นฐานด้วยการใช้สีระบบน้ำ เพื่อลดการใช้สารเคมีและขั้นตอนการทำงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพนักงาน

นอกจากนี้ วอลโว่ยังปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานของช่างเทคนิคให้มีการสัมผัสเครื่องจักรและสารเคมีน้อยลง เพื่อแสดงถึงความใส่ใจต่อผู้คน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะลูกค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานผู้ทุ่มเทของวอลโว่

ศูนย์บริการมาตรฐาน “VCDR” ในประเทศไทย
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย พร้อมตอบรับแผนงาน “Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” ของวอลโว่สากล เพื่อยกระดับการบริการในประเทศ โดยจะให้ความสำคัญกับการดำเนินงานหลัก 3 ด้าน ได้แก่
1) การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและขั้นตอนการทำงานที่เหมาะสมเพื่อผลงานที่มีคุณภาพ ลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานให้น้อยที่สุด
2) การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบริการที่รวดเร็ว มอบประสบการณ์ลูกค้าชั้นเยี่ยมที่ทุกคนพึงพอใจ
3) การบริหารทรัพยากรอย่างมีคุ้มค่าเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและยืดหยุ่นของธุรกิจในภาพรวม

ปัจจุบัน ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน VCDR ของวอลโว่ ในเมืองไทยที่ดำเนินงานตามมาตรฐาน และพร้อมให้บริการแล้ว มี 2 แห่ง ได้แก่

บริษัทสแกนดิเนเวียน ออโต้ จำกัด (สาขาหทัยราษฎร์)
ตั้งอยู่เลขที่ 55/88 หมู่ 11 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงลาดสวาย เขตลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี 12150

บริหารงานโดย คุณเสรี แซ่คู กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “ในปัจจุบันการทำธุรกิจแบบครบวงจรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตอบโจทย์ลูกค้าทุกอย่าง เดิมมีการบริหารโชว์รูมและศูนย์บริการของวอลโว่ที่ถนนรามอินทราอยู่แล้ว และมีความสนใจขยายธุรกิจออกไป เลยตัดสินใจลงทุนเพื่อทำ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) บนถนนหทัยราษฎร์ เพื่อรองรับการบริการครบวงจรของลูกค้าวอลโว่ในเขตกรุงเทพฯ ทั้งหมด โดยเฉพาะลูกค้าในโซนพื้นที่ส่วนเหนือ มาตรฐานการทำงานและขั้นตอนได้ถูกกำหนดโดยวอลโว่ คาร์ (สวีเดน) ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและไว้วางใจในการเข้ารับบริการจากเราเพิ่มมากขึ้น”

บริษัทนิวตัน บอดี้ แอนด์ เพนท์ จำกัด
ตั้งอยู่เลขที่ 199 ถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170

บริหารงานโดย คุณพีรพร ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “มีความมั่นใจกับการทำธุรกิจร่วมกับ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นทุนเดิม เพราะเป็นผู้จัดจำหน่ายและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ ในพื้นที่เขตตลิ่งชันมาก่อน เมื่อมีการเสนอแผนธุรกิจของ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) และตรงกับความตั้งใจของตนเอง จึงไม่รี่รอที่จะลงทุนเพื่อขยายการบริการให้ครบวงจรสำหรับลูกค้าวอลโว่ในเขตกรุงเทพฯ และ ครอบคลุมในพื้นที่ส่วนใต้ทั้งหมด ปัจจุบันได้ให้บริการลูกค้าวอลโว่แล้ว และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเกินความคาดหมายประกอบกับความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ Volvo Certified Damage Repair Centre ที่ได้รับการอบรมและตรวจสอบคุณภาพการทำงานทุกขั้นตอนตามแบบมาตราฐานของวอลโว่ คาร์ (สวีเดน)

“หลังจากที่วอลโว่นำเสนอคอนเซ็ปต์ Volvo Retail Experience (VRE) เพื่อมอบบรรยากาศโชว์รูมที่สวยงามหรูหราโปร่งสบายสไตล์สแกนดิเนเวียน ตลอดจนบริการที่เป็นมิตรจากพนักงานทุกแผนก และ Volvo Personal Service (VPS) ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารโดยตรงกับช่างเทคนิค เพื่อให้เจ้าของรถได้รับทราบการซ่อมบำรุงทุกขั้นตอนและกำหนดวันรับส่งรถโดยละเอียด การนำเสนอ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) ครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของวอลโว่ในการยกระดับประสิทธิภาพในส่วนของฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีศูนย์ซ่อมบำรุง เพื่อให้ทุก ๆ แผนกได้รับการอัปเกรดไปพร้อมกัน และสามารถบูรณาการเพื่อมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีเยี่ยมให้แก่เจ้าของรถยนต์วอลโว่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และด้วยการนำเสนอรถยนต์พลังงานสะอาดระดับพรีเมียม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อน ผมเชื่อว่าวอลโว่จะสามารถนำเสนอมูลค่าการครอบครองยานยนต์ชั้นเลิศแก่ผู้บริโภค ทั้งในแง่ธุรกิจและสิ่งแวดล้อมต่อไปได้อย่างยั่งยืน” มร.คริส เวลส์ กล่าวสรุป

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อศูนย์บริการวอลโว่ใกล้บ้านท่านได้ที่สายด่วน 02-305-4499 หรือดูข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad