กรมพัฒน์ฯ เร่งสปีด 3 บริการหลัก ช่วยคนไทยจดตั้งบริษัทใหม่ทำธุรกิจได้เร็วขึ้น - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

กรมพัฒน์ฯ เร่งสปีด 3 บริการหลัก ช่วยคนไทยจดตั้งบริษัทใหม่ทำธุรกิจได้เร็วขึ้น

img

กรมพัฒน์ฯ เร่งสปีด 3 บริการหลัก ช่วยคนไทยจดตั้งบริษัทใหม่ทำธุรกิจได้เร็วขึ้น

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งสปีด 3 บริการหลักในการจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ รวมขั้นตอนการจดทะเบียนนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ขึ้นทะเบียนลูกจ้างอยู่ในขั้นตอนเดียว นำระบบ AI ใช้จองชื่อนิติบุคคล และปรับระบบจดทะเบียน e-Registration ให้ง่ายและเปิดให้ยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ มั่นใจทำให้การจดทะเบียนธุรกิจทำได้เร็วขึ้น ช่วยดันไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการทำธุรกิจ และอันดับการเริ่มต้นทำธุรกิจดีขึ้น
         
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เดินหน้าพัฒนางานบริการด้านการเริ่มต้นทำธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลมาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันได้มีการปรับลดขั้นตอนเหลือเพียง 3 ขั้นตอน คือ 1.การจองชื่อบริษัท 2.การชำระเงินทุนเข้าธนาคาร และ 3.รวมขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และการขึ้นทะเบียนลูกจ้างให้อยู่ในขั้นตอนเดียวกัน  
         
ก่อนหน้านี้ ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ มี 5 ขั้นตอน ใช้เวลา 6 วัน ได้แก่ 1.การจองชื่อบริษัท 2 วัน 2.การชำระเงินทุนเข้าธนาคาร 1 วัน 3.การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท 1 วัน 4.การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 วัน และ 5.การขึ้นทะเบียนนายจ้าง-ลูกจ้าง 1 วัน แต่ในปี 2563-64 ได้ปรับระบบการจองชื่อบริษัท เหลือ 0.5 วัน การชำระเงินทุนเข้าธนาคาร 1 วัน และได้รวมการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ การขึ้นทะเบียนประกันสังคม และการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้สามารถดำเนินการได้ภายในขั้นตอนเดียว ใช้เวลา 1 วัน ซึ่งช่วยลดจาก 5 ขั้นตอน เหลือ 3 ขั้นตอน ใช้เวลา 6 วัน เหลือ 2.5 วัน  
         
ทั้งนี้ ล่าสุด กรมฯ ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการจองชื่อนิติบุคคล โดยได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาให้บริการ ซึ่งส่งผลให้การให้บริการดังกล่าวมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการสามารถทราบผลการจองชื่อได้ทันที จากเดิมใช้เวลา 0.5 วัน โดยไม่ต้องรอผลการพิจารณาของเจ้าหน้าที่อีก ก็ยิ่งเป็นปัจจัยให้การเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ทำได้เร็วยิ่งขึ้นอีก
         
ขณะเดียวกัน ได้พัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ให้ใช้งานง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนให้มีการใช้ระบบมากขึ้นสอดรับกับนโยบายสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยเปิดให้ผู้ประกอบการสามารถยืนยันตัวตนผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ลดการเดินทางมายังหน่วยให้บริการ อีกทั้งยังปรับปรุงแบบฟอร์มการกรอกให้ง่ายขึ้น ลดระยะเวลาในการดำเนินการ รวมไปถึงเปิดช่องทางให้ผู้แทนสามารถจัดทำและยื่นคำขอจดทะเบียนแทนผู้ที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลผ่านระบบ e-Registration ได้

นอกจากนี้ ยังได้ขยายระยะเวลาและเพิ่มส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียมให้แก่ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration จากเดิมลด 30% เป็น 50% ระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 ถึง 31 ธ.ค.2566 เพื่อสนับสนุนให้มีการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

สำหรับการพัฒนาระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลดังกล่าว จะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจ ทำให้ผู้ประกอบการได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ บรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 และยังช่วยส่งเสริมบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการเริ่มต้นธุรกิจ ก่อให้เกิดแรงจูงใจและดึงดูดให้ผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาเริ่มต้นทำธุรกิจในไทย และยังจะส่งผลดีต่อการจัดอันดับ Ease of Doing Business ในปี 2021 ของไทยที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนชาวต่างชาติ และการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน มั่นคง และมีเสถียรภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad