3 ปีที่รอคอยกับ “กม. แอปเรียกรถ”
จับตาโค้งสุดท้ายก่อนฝันกลายเป็
เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วหลังจากที่
ทำความรู้จักบริการ และร่างกฎหมายแอปเรียกรถ
ในยุคสมัยที่ชีวิตของผู้คนขั
กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก จึงได้ผลักดันให้มี
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างกฎหมายฯ ดังกล่าวยังครอบคลุมในประเด็นต่
เมื่อแอปเรียกรถถูกกฎหมาย แล้วใครบ้างที่ได้ประโยชน์
- ผู้โดยสาร หรือประชาชนทั่วไปที่ใช้บริ
การขนส่งสาธารณะจะได้รั บความสะดวกสบายในการสัญจรเดิ นทาง ซึ่งเพิ่มทางเลือกให้สามารถใช้ บริการได้ทั้งการโบกรถแท็กซี่ แบบเดิม หรือเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้มารับได้ถึงที่โดยไม่ต้ องรอนาน สามารถคาดการณ์ระยะเวลาการเดิ นทางได้ทั้งยังมีการแสดงราคาที่โปร่ งใสให้ทราบก่อนการเดินทางทุกครั้ ง และยังสามารถเลือกวิธี การชำระเงินได้ตามความสะดวก ไม่ว่าจะด้วยเงินสดหรือตัดบัญชี ผ่านแอปพลิเคชันได้เลย ที่สำคัญคือมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพราะมีระบบติดตามการเดิ นทางแบบเรียลไทม์ มีฐานข้อมูลของคนขับที่ สามารถตรวจสอบได้หากมีเหตุฉุ กเฉิน และมีระบบร้องเรียนหรือระบบให้ ความช่วยเหลือตลอดเวลา - ผู้ขับขี่ ก็จะสามารถหารายได้เสริมและสร้
างประโยชน์จากทรัพย์สินอย่ างรถยนต์ที่มีอยู่เพื่อก่อให้ เกิดรายได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้ องโดนดำเนินคดีทางกฎหมายเหมื อนที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั นหลายรายยังมอบสิทธิประโยชน์ให้ กับคนขับเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นประกันอุบัติเหตุ ในขณะให้บริการ ระบบหรือเทคโนโลยีด้ านความปลอดภัยที่ช่วยสร้ างความอุ่นใจให้คนขับ รวมไปถึงบางรายอาจมีผลิตภัณฑ์ด้ านการเงินอย่างสินเชื่อหรื อการผ่อนชำระสินค้าเพื่อสนับสนุ นหรือแบ่งเบาภาระให้กับคนขับด้ วย - ในส่วนของแพลตฟอร์มหรือผู้ให้
บริการแอปพลิเคชัน ถือเป็นโอกาสในการพั ฒนาและขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะเมื่อเปิดให้มีการแข่งอย่ างเสรี ย่อมส่งผลให้เกิดการยกระดั บของทั้งอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการพัฒนามากขึ้น ทั้งในด้านมาตรฐานการบริการที่ ดียิ่งขึ้น ราคาในการให้บริการที่สมเหตุ สมผล ซึ่งผู้ที่จะได้รับประโยชน์สู งสุดก็คือผู้บริโภคนั่นเอง - สำหรับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าบริ
การเหล่านี้จะมาแย่งอาชีพหรื อแย่งผู้โดยสารแต่ในความเป็นจริงแล้ว ภาครัฐพยายามสร้างความสมดุลเพื่ อให้อุตสาหกรรมบริการเดิ นทางขนส่งสาธารณะเกิดการพั ฒนาและเดินหน้าได้โดยไม่ทิ้ งใครไว้ข้างหลัง โดยช่วยแก้ปัญหาให้กับกลุ่มคนขั บรถแท็กซี่ในหลายมิติ เช่น การขยายอายุรถแท็กซี่จาก 9 เป็น 12 ปี การลดภาระต้นทุนติดตั้งอุ ปกรณ์ส่วนตัวโดยสนับสนุนการใช้ ซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันเข้ ามาแทนที่ ปัจจุบัน คนขับแท็กซี่หลายหมื่นรายหั นมาหารายได้จากการรับงานผ่ านแอปเรียกรถเหล่านี้อยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเปิ ดโอกาสในการหารายได้ได้สองช่ องทาง ทั้งจากการรับงานแบบดั้งเดิมที่ ผู้โดยสารโบกเรียกตามท้องถนน และการรับผู้โดยสารจากแอปเรี ยกรถที่จะช่วยประหยั ดเวลาในการวนหาลูกค้า - และหากมองถึงผลประโยชน์ที่เกิ
ดกับประเทศในภาพรวม การที่แอปเรียกรถถูกกฎหมายถื อเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในการสนั บสนุนนโยบาย “ประเทศไทย4.0” (Thailand 4.0) ของภาครัฐในการขับเคลื่ อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมหรื อเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเป็นรู ปธรรม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้มีการหมุ นเวียนของรายได้ในระบบเศรษฐกิ จมหภาค ยกระดับมาตรฐานในด้านการเดิ นทางและขนส่ง รวมไปถึงช่วยสนับสนุนภาคการท่ องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คุ้ นชินกับการเรียกรถผ่านแอป รวมทั้งการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะในเมืองรอง ซึ่งไม่มีระบบขนส่งสาธารณะรองรั บ ที่สำคัญ การทำให้แอปเรียกรถถูกกฎหมายยั งถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยั นและเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลั กดันและพัฒนากฎหมายรูปแบบใหม่ที่ สอดรับกับบริบทของธุรกิจดิจิทั ลในปัจจุบัน ต่อไปในอนาคต
ปัจจุบันมีการนำรถยนต์ส่วนบุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น