อมาโด้ เร่งเครื่องขยายไลน์สินค้าคอลลาเจนสูตรใหม่ รับกระแส สังคม “ผู้สูงวัย” ดันตัวแทนรุ่นใหม่รองรับการขยายของธุรกิจ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

อมาโด้ เร่งเครื่องขยายไลน์สินค้าคอลลาเจนสูตรใหม่ รับกระแส สังคม “ผู้สูงวัย” ดันตัวแทนรุ่นใหม่รองรับการขยายของธุรกิจ




อมาโด้ เร่งเครื่องขยายไลน์สินค้าคอลลาเจนสูตรใหม่ รับกระแส



สังคม “ผู้สูงวัย”



ดันตัวแทนรุ่นใหม่รองรับการขยายของธุรกิจ


 บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดตัวผลิตภัณฑ์คอลลาเจนสูตรใหม่ “ซิลเวอร์ คอลลาเจน ไทพ์ทู พลัส แคลเซียม (Silver Collagen Type II Plus Calcium)” เจาะตลาดผู้สูงวัยสอดรับกระแสสังคมผู้สูงอายุในไทยอย่างสมบูรณ์ คาดยอดคอลลาเจนสูตรใหม่ 500 ล้านบาท หวังชูโรงดันยอดขายเข้าเป้าในครึ่งปีหลัง พร้อมทั้งกวาดยอดขาย 4 เดือนไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ยังเดินหน้ารุกตลาดด้วยการเปิดรับตัวแทนจำหน่ายใหม่เพิ่ม 1,000 คน รับตลาดอาหารเสริมและวิตามินโตเพราะเทรนด์ดูแลสุขภาพอย่างเข้มข้น หวังดันยอดปีนี้ทะลุ 3,000 ล้านบาท


นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรก บริษัทได้อานิสงค์จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อมาโด้ เบญ-ซี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มบำรุงร่างกายกลุ่มวิตามินซี ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 4 เดือนแรกของปี 2564 เติบโต 100% จากยอดขายทั้งหมดของปี 2563 ทั้งนี้ จากการบริหาร Data ของบริษัทมองว่าการเติบโตของธุรกิจอาหารเสริมและวิตามินจะยังเติบโตได้อีกในกลุ่มผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่หันมาดูแลตัวเองอย่างตรงจุด  และพบว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการสินค้าที่สามารถบำรุงกระดูก หรือประสบปัญหามวลกระดูกบาง จึงทำให้ตลาดสินค้าคอลลาเจนที่เสริมส่วนประกอบของแคลเซียมจะสามารถมีส่วนช่วยในการทำให้กระดูกและฟันทำงานตามปกติได้ และคาดว่าสินค้าชนิดนี้จะช่วยดันยอดโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เพราะจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่าในปี 2563 ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป คิดเป็นสัดส่วน 17.57% ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจทำให้บริษัทเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัด รับประทานอาหารเสริม และถือเป็นกลุ่มประชากรที่มีอำนาจต่อรองในการซื้อ ตลอดจนมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากมีเงินเก็บจากการทำงานมาทั้งชีวิต ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการด้านวิตามินและอาหารเสริมที่ต้องเร่งสนับสนุนและดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพและเพื่อสอดรับกับประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) ด้วย โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (เฮลท์) ซิลเวอร์ คอลลาเจน ไทพ์ทู พลัส แคลเซียม (Silver Collagen Type II Plus Calcium) เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) เสริมด้วยแคลเซียม วิตามินดี 3 และเค 2 ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและกระดูก พร้อมเจาะกลุ่มผู้บริโภคอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์คอลลาเจนสูตรใหม่ 500 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ และพร้อมวางจำหน่ายทุกช่องทางในวันที่ 6 มิถุนายน นี้



ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมีเป้ารุกตลาดอย่างเข้มข้นเพื่อรองรับการขยายของธุรกิจและบรรลุยอดขายปีนี้สู่ 3,000 ล้านบาท โดยปรับกลยุทธ์การเปิดรับตัวแทนจำหน่ายใหม่ทั่วประเทศ ถือเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายหลักที่แข็งแกร่งของบริษัทมาตั้งแต่เปิดบริษัทในปี 2557 ซึ่งบริษัทไม่ได้เปิดรับตัวแทนมานานกว่า 7 ปี และในปีนี้เพื่อเป็นการฉลองที่บริษัทก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 จึงได้จัดแคมเปญยิ่งใหญ่เพื่อเชิญชวนให้คนไทยมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายของอมาโด้ บริษัทจัดคลาสเรียนออนไลน์เพื่อถ่ายทอดทักษะ ความรู้ และความเชี่ยวชาญทางการขายออนไลน์ของบริษัทมาสอนตัวแทนฯ และยังเปิดโอกาสให้คนไทยได้สร้างอาชีพและรายได้ในช่วงวิกฤตนี้ด้วยภายใต้แคมเปญ 10 วัน 10,000 บาท ซึ่งบริษัทยึดหลักธรรมาภิบาลในการขายของที่ดีในราคาที่จับต้องได้ สินค้าที่ดีคือสินค้าที่มีราคายุติธรรม และด้วยตัวสินค้าของบริษัทที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพและมาตรฐานเชื่อถือได้ โดยผ่านโรงงานที่มีคุณภาพได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP, ISO และ HACCP ทำให้บริษัทมีลูกค้าประจำที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ซ้ำอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็น Brand Loyalty ถือเป็นการการันตีได้ถึงความเชื่อมั่นกับบริษัทได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทมีสื่อและช่องทางการทำการตลาดเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการทำงานให้แก่ตัวแทนมากมาย เช่น สื่อทางโทรทัศน์ ออนไลน์ ร้านค้าอมาโด้ และสื่อนอกบ้าน (Out of Home) เป็นต้น และยังมีการส่งเสริมการตลาด (โปรโมชัน) เพื่อกระตุ้นยอดขายเพื่อเป็นเครื่องมือและกลยุทธ์สำหรับตัวแทนฯ ในการจูงใจให้ลูกค้าซื้อซ้ำด้วย คาดว่าแคมเปญนี้จะกระตุ้นยอดขายได้ถึง 3-5% และตัวแทนฯ จะเพิ่มขึ้นตามเป้าที่วางไว้ประมาณ 1,000 รายทั่วประเทศ

นายพร้อมวุฒิ อัศวโสภณกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเสริมว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมียอดขายทะลุกว่า 1,000 ล้านบาท โดยยอดขายดังกล่าวมาจาก 1.) ตัวแทนจำหน่าย 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นส่วนของตัวแทนฯ อยู่ที่ 30% ซึ่งมีตัวแทนทั้งประเทศเพียง 35 คน 2.) ช่องทางออนไลน์ของบริษัททั้งโซเชียลคอมเมิร์ซและอี-มาร์เก็ตเพลส จำนวน 150 ล้านบาท คิดเป็น 15%  3.) เทเลเซลล์ 500  ล้านบาท คิดเป็น 50% 4.) ร้านค้าอมาโด้หรือคี-ออสบนศูนย์การค้าชั้นนำทั่วประเทศ 30 ล้านบาท คิดเป็น 3% ในช่องทางนี้ลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่อยู่บ้านและไม่ได้จับจ่ายซื้อของในห้างเช่นเดิม 5.) โมเดิร์นเทรดและต่างประเทศ 20 ล้านบาท คิดเป็น 2% ทั้งนี้ เราคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ยอดขายจะสูงสุด บริษัทจึงจำเป็นต้องขยายจำนวนตัวแทนฯ พัฒนาสินค้าเพิ่ม หาพันธมิตรทางการค้าใหม่ๆ ทั้งช่องทางการฝากขายใหม่ๆ (โมเดิร์นเทรด) ลูกค้าจีพีช่องทางขาย Amado Shopping ตลอดจนการขยายร้านค้าอมาโด้หรือคี-ออสบนศูนย์การค้าใหม่ๆ เพื่อบรรลุยอดขายปีนี้ 3,000 ล้านบาท พร้อมให้บริการผู้บริโภคได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad