‘ชาร์ป’ กางกลยุทธ์รุกตลาด B2B ส่ง ‘พลาสม่าคลัสเตอร์’ เพิ่มความเชื่อมั่นภาคธุรกิจด้วย ‘Clean Air Society’ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564

‘ชาร์ป’ กางกลยุทธ์รุกตลาด B2B ส่ง ‘พลาสม่าคลัสเตอร์’ เพิ่มความเชื่อมั่นภาคธุรกิจด้วย ‘Clean Air Society’


‘ชาร์ป’ กางกลยุทธ์รุกตลาด B2B ส่ง ‘พลาสม่าคลัสเตอร์’

เพิ่มความเชื่อมั่นภาคธุรกิจด้วย ‘Clean Air Society’

 

จากความสำเร็จในการเป็นผู้นำตลาดเครื่องฟอกอากาศในครัวเรือน ชาร์ปเปิดตัวนวัตกรรมฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ สำหรับภาคธุรกิจ B2B เพื่อยกระดับมาตรฐานอากาศสะอาดสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการพื้นที่สาธารณะ เล็งเจาะตลาดระบบขนส่งมวลชน-โรงแรม-อสังหาริมทรัพย์และสถานประกอบการ ปูพรมใช้งานแล้วทั้งในระบบขนส่งมวลชน คอนโดมิเนียม โรงแรมและโรงพยาบาล ลั่นพร้อมบุกตลาด B2B อย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2564


 

นายโรเบิร์ต อู๋ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น เล็งเห็นถึงปัญหาและความจำเป็นของคุณภาพอากาศที่สะอาดและปลอดภัย จึงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์เอกสิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวของชาร์ปอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่นำมาปรับใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทั้งเครื่องฟอกอากาศ ตู้เย็น เครื่องดูดจับไรฝุ่นและเครื่องปรับอากาศ แต่ยังนำมาต่อยอดในพื้นที่สาธารณะต่างๆอีกด้วย ซึ่งล่าสุดชาร์เล็งเห็นความสำคัญของการควบคุมและจัดการกระระบาดของโควิด-19 ว่าวัคซีนจะเป็นหนทางในการควบคุมการระบาดได้ดีที่สุดจึงได้มอบเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้กับ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19แก่ประชาชน ซึ่งถือได้ว่าเป็นหน่วยงานที่รองรับความต้องการของประชาชนได้มากเป็นลำดับ 2 ของประเทศ รองจากศูนย์รับวัคซัน ณ สถานีบางซื่อ โดยคาดการว่าจะมีผู้เข้ารับวัคซีนกว่า 2,000 ราย ต่อวัน  นอกจากนี้ชาร์ปยังทำโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการWrite to Breathe” ที่ทางชาร์ปได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรมไปแล้วทั้งสิ้น 2 ครั้ง ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาฝุ่ PM 2.5 โดยทางชาร์ปให้โอกาสเด็กๆ ในท้องที่ได้เขียนแสดงความเห็นเกี่ยวกับมลพิษที่พวกเขาต้องเผชิญ ภายใต้หัวข้อ “I have right to breath” สอดรับกับชื่อโครงการที่เปิดพื้นที่ให้เด็กๆได้ลอง "Write(เขียน)" ถึงสิ่งที่เป็น "Right(สิทธิ)"ของพวกเขาเอง  พร้อมทั้งส่งมอบเครื่องฟอกอากาศทั้งสิ้น 40 เครื่อง ให้แก่โรงเรียนและสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าในจังหวัด รวมถึงจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและดูแลตนเองในยามที่ต้องใช้ชีวิตในสภาวะอากาศเป็นมลพิษโดยอาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากเด็กๆ เป็นอย่างดี นำไปสู่กิจกรรมครั้งที่ 2 ที่จังหวัดราชบุรี โดยครั้งนี้ทางชาร์ปจับมือกับศูนย์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบสนุกเข้าใจง่ายและลงพื้นที่มาทำกิจกรรมกับน้องๆ เยาวชนในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงพิษภัยของฝุ่น PM 2.5 พร้อมมอบเครื่องฟอกอากาศให้แก่โรงเรียนและมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับเด็กจำนวน 15 หน่วยงาน เป็นจำนวน 42 เครื่อง 

‘ชาร์ป’ กางกลยุทธ์รุกตลาด B2B ส่ง ‘พลาสม่าคลัสเตอร์’

เพิ่มความเชื่อมั่นภาคธุรกิจด้วย ‘Clean Air Society’



  

ในด้านประสิทธิภาพเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ศุภโชค เจนธรรมนุกูล ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกโซลูชั่นดีไซน์  บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผยว่า  พลาสม่าคลัสเตอร์ เป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของชาร์ปที่ถูกคิดค้นและใช้งานครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อน โดยทางฝ่ายวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นและต่อยอดพลาสม่าคลัสเตอร์ จนได้รับการรับรองจากสถาบันมากกว่า 30 แห่งทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ช่วยสลายสารก่อภูมิแพ้ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ผลการทดสอบของสถาบันต่างๆ พบว่า เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ ช่วยยับยั้งไวรัสในอากาศได้ถึง 99%  และผลวิจัยล่าสุดที่ร่วมกับศูนย์วิจัยแห่งชาติเพื่อการควบคุมและการป้องกันโรคติดเชื้อ สถาบันเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ยังพบว่า เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ ช่วยลดจำนวนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ในอากาศได้มากถึงร้อยละ 91.3*” 

 

  ในสภาวะที่โลกต้องเผชิญกับ PM2.5 และวิถีชีวิตแบบ New Normal จากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ผู้บริโภคทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับมาตราฐานความสะอาดและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น  เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยผู้ประกอบการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการให้กับผู้บริโภคได้ ซึ่งชาร์ปเองได้พัฒนาและประยุกต์เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ให้ติดตั้งและใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งภายในระบบระบายอากาศ/กระจายอากาศภายในอาคารหรือพื้นที่สาธารณะ  แบบตั้งพื้น ติดผนังและเพดาน โดยมีการใช้งานจริงและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานแล้วในหลากหลายภาคพื้นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นห้องฟอกไตโรงพยาบาลธรรมศาสตร์, รถรับส่งผู้ป่วย(Ambulance) การขนส่งมวลขน เช่น รถไฟฟ้าและรถประจำทาง รวมถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และคอนโดมิเนียม

 

จากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งโดยเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์กว่า 90 ล้านเครื่องทั่วโลก และศักยภาพของทีมงาน Smart Sotution ผู้เชี่ยวชาญในการ ออกแบบ และติดตั้งระบบฟอกอากาศให้เหมาะสมให้กับทุกกิจการ ทำให้ชาร์ปมีความพร้อมที่จะสร้างอากาศสะอาดเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการออกมาจับจ่าย ออกมาใช้ชีวิต ภายใต้แนวคิด Clean Air Society “อากาศสะอาดสร้างได้ ด้วยพลาสม่าคลัสเตอร์



  

เกี่ยวกับพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster)

เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster) เป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์หนึ่งเดียวของ ชาร์ป ทำงานโดยการปล่อยประจุไอออน (Ion) ทั้ง ประจุไอออนบวก (H+) และประจุไอออนลบ (O2-) เพื่อทำลายผนังของเซลล์เชื้อรา(Mold) ไวรัส (Virus) แบคทีเรีย (Bacteria) สารก่อภูมิแพ้(Allergy) และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งได้รับการทดสอบและรับรองประสิทธิผลการทำงานจากหลากหลายสถาบันวิจัยชั้นนำทั่วโลก ทั้งนี้ ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ยังมีแผนการทดสอบประสิทธิผลของเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์อย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมต่อไป

 

หมายเหตุ * การวิจัยครั้งนี้ ใช้ความเข้มข้นของพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนโดยเฉลี่ยที่ 10 ล้านประจุ ต่อ ลูกบาศก์เซนติเมตร ทำการทดลองในพื้นที่ที่มีปริมาตรประมาณ 3 ลิตร ทดสอบโดยการปล่อยละอองไวรัสเข้าไปในเครื่องมือทดสอบ ที่ติดตั้งเครื่องปล่อยอนุภาพพลาสม่าคลัสเตอร์ความเข้มข้นสูงอยู่ภายใน หลังจากนั้นเมื่อพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนทำปฏิกริยากับละอองไวรัสเป็นเวลา 30 วินาที จึงดูดละอองไวรัสมาทำการตรวจนับจำนวนพลัคที่เหลืออยู่ (Plaque Assay)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad