ทาทา สตีล ฟาดกำไรไตรมาส 2 ปี 64 กว่า 800ลบ. จากราคาเหล็กพุ่ง
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2564 หดตัวร้อยละ 2.6 ฟื้นตัวจากการลดลงร้อยละ 4.2 ในไตรมาสก่อนหน้า ภาคการผลิตและการก่อสร้างกลับมาขยายตัว อุปสงค์ในประเทศได้รับแรงหนุนหลักจากการใช้จ่ายของรัฐบาลในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจากการขยายและยกระดับเครือข่ายถนนและรถไฟในประเทศ เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดใหญ่ที่ต่ำ ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งเป็นแรงหนุนความเชื่อมั่นและราคาสินค้าสำเร็จรูปในประเทศในช่วงไตรมาส 1 ปีการเงิน 2565 เนื่องด้วยจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นรัฐบาลจึงได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าสถานที่ก่อสร้างในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงจะปิดทำการ และแคมป์คนงานจะถูกปิดเป็นเวลา 30 วัน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง และความต้องการใช้เหล็กในภาคการก่อสร้างคาดว่าจะได้รับผลกระทบในทางลบร้อยละ30-40 ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า
ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจนี้ โรงงานทั้งสามแห่งของบริษัทได้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงไตรมาสดังกล่าว และปริมาณขายสินค้าสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 346,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ16 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน อย่างไรก็ตามปริมาณขายลดลงประมาณร้อยละ6 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี การเงิน 2564
สาเหตุหลักมาจากความพร้อมใช้งานของวัสดุที่ลดลงจากแผนหยุดซ่อมแซมโรงงานประจำปีและการปิ ดสถานที่ก่อสร้างตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน รายได้จากการขายของบริษัทสูงกว่าไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปี ก่อนโดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการของตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น สินค้าคงเหลือรวมเพิ่มสูงขึ้น 623 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนมีนาคม 2564
จากสินค้าสำเร็จรูปและเศษเหล็กจากผลกระทบของการรับการส่งมอบที่ลดลงอันเป็นผลมาจากการปิดสถานที่ก่อสร้างชั่วคราว จำนวนวันในการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือคือ 48 วัน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 เทียบกับ 43 วันเมื่อสิ้นเดือน
มีนาคม 2564
ผลการดำเนินงานเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนและปีก่อน
1.1 รายได้จากการขายและบริการที่เกี่ยวข้อง
ปริมาณการขายในไตรมาสนี้อยู่ที่ 346,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ก่อน เนื่องจากการขายที่เพิ่มขึ้นในเหล็กลวดชนิดพิเศษในประเทศและการส่งออก แต่ลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
รายได้จากการขายและบริการที่เกี่ยวข้องในไตรมาสนี้อยู่ที่ 7,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ11 และร้อยละ72 เมื่อเทียบ
กับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปี ก่อน เนื่องจากราคาขายสินค้าปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต่อ
เนื่องมาจากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น
1.2 กำไร(ขาดทุน)ก่อนภาษีเงินได้
บริษัทรายงานกำไรก่อนภาษีเงินได้849 ล้านบาทในไตรมาสนี้เทียบกับกำไรก่อนภาษีเงินได้ 80 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปี ก่อน ในขณะที่กำไรก่อนภาษีเงินได้ในไตรมาสก่อนอยู่ที่ 417 ล้านบาท ผลประกอบการที่ดีขึ้นในช่วงนี้เป็น
ผลมาจากราคาขายที่เพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะตลาดปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และถูกชดเชยบางส่วนด้วยต้นทุนเฟอโรอัลลอยที่เพิ่มขึ้น ค่าบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้นจากการหยุดซ่อมแซมโรงงานประจำปีตามแผน และปริมาณ
การขายที่เพิ่มขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น