“จุรินทร์”เปิดงานสัมมนา CLMVT+ Forum 2021 ยันพร้อมผนึกกำลังกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ร่วมกัน พร้อมดัน CLMVT เป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในภูมิภาค ชงทำแผนรับมือการค้าชายแดน ดูแลผลกระทบการค้าควบคู่มิติทางสังคม หนุนการค้า การลงทุนที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับภาคการผลิตฐานราก ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงานสัมมนา CLMVT+ Forum 2021: Accelerating a Resilient Recovery โดยมีเอกอัครราชทูตกัมพูชาและ สปป.ลาว เข้าร่วม ว่า ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนอยู่ในปัจจุบัน การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ยังคงถือเป็นวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลจากทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน ภาครัฐยังมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า จึงเป็นที่มาของการจัดงานในครั้งนี้ โดยประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมทั้งประเทศคู่ค้าสำคัญ ในการฟื้นฟูวิกฤติหลังโควิด-19 โดยใช้เศรษฐกิจเป็นตัวนำ และมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงทางการค้าให้ CLMVT เป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนในภูมิภาค
“ภายใต้วิกฤตโควิด-19 ทำให้เราต้องหันกลับมาทบทวนเกี่ยวกับทิศทางการค้าและการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตร่วมกัน แม้โลกหลังโควิด-19 (New Normal) อาจนำมาซึ่งโลกาภิวัตน์ในทิศทางใหม่ที่ผู้ผลิตย้อนกลับไปลงทุนเพื่อผลิตในประเทศมากขึ้น แต่วันนี้ ยังคงมองเห็นโอกาสในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMVT ของเรา โดย CLMVT จะไม่เป็นเพียงแค่ตัวเลือกเพื่อกระจายความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน แต่จะสามารถเป็นพื้นที่แห่งการลงทุนเพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานได้”นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับแผนรับมือท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 จะต้องมีความยืดหยุ่นและมุ่งไปสู่ความยั่งยืน โดยในด้านการรับมือกับปัญหาการค้าชายแดนที่ถูกปิดลง มีโจทย์สำคัญ คือ ทำอย่างไรให้การค้าเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่นำโรคระบาดข้ามพรหมแดนไปด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าวรัฐบาลไทยจึงมุ่งสนับสนุนกลไกความร่วมมือในระดับภูมิภาค เช่น การขนส่งข้ามพรมแดนที่มีมาตรการอย่างเหมาะสม ทั้งในรูปแบบไร้เอกสาร โดยมีด่านการตรวจความเสี่ยงสุขภาพอยู่ด้วย เป็นต้น
นอกจากนี้ ทุกประเทศจะต้องคำนึงถึงผลกระทบมิติทางการค้าควบคู่ไปกับมิติทางสังคม เช่น ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าปลีก การบริการขนส่ง การสร้างความคุ้มครองทางสังคมให้กับแรงงานนอกระบบ เป็นต้น การสร้างวิถีการค้าและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญกับภาคการผลิตฐานราก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพทั้งการผลิตและการตลาดของทั้ง SMEs และ Micro Enterprise ตลอดจนส่งเสริมการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น Blockchain มาใช้เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในตลาดที่กว้างขึ้น
ทั้งนี้ เวที CLMVT Forum ปีนี้ จัดให้มีกิจกรรมพิเศษ คือ การจัดแข่งขัน Startup Pitching Competition ที่มีเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท ด้วยความมุ่งหวังที่จะส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งเชื่อมั่นว่า การเสริมสร้างทักษะและความเชี่ยวชาญโดยภาคการศึกษา ผ่านการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนา รวมถึงการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อแบ่งปันความรู้ เช่น โครงการให้คำปรึกษา และโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ จะทำให้เวทีนี้แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ระหว่างกัน เกิดเป็นการปรับปรุงและพัฒนานโยบายที่เหมาะสมต่อไป
“ผมขอขอบคุณสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันจัดงานสัมมนาครั้งนี้ให้เกิดขึ้น ผมเชื่อมั่นว่าเวทีแห่งนี้จะเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม อันเป็นการร่วมสร้างภูมิภาค CLMVT ที่มีจุดเด่นด้าน Resilience, Sustainability and Inclusiveness กลับมาเป็นภูมิภาคแห่งการค้าและการลงทุนที่เข้มแข็งกว่าเดิม ขออวยพรให้การจัดงานสัมมนา CLMVT+ Forum 2021 รวมถึงกิจกรรมคู่ขนานตลอดทั้ง 3 วันประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ” นายจุรินทร์กล่าว
รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า แจ้งว่า ประเทศไทยได้ริเริ่มจัดงาน CLMVT Forum เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2559 เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นของ 5 ประเทศสมาชิก ที่เป็นฐานการผลิตที่เข้มแข็ง มีตลาดที่กำลังเติบโต มีทุนมนุษย์ที่เป็นแรงงานทักษะสูง และมีจำนวนประชากรรวมกันกว่า 244 ล้านคน ซึ่งปัจจัยความเข้มแข็งเหล่านี้ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า จะสามารถผนึกกำลังในนามกลุ่มประเทศ CLMVT เพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนแห่งภูมิภาคได้
วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2564
Home
การค้าต่างประเทศ
เศรษฐกิจมหภาค
“จุรินทร์”นำไทยผนึกกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19
“จุรินทร์”นำไทยผนึกกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19
Tags
# การค้าต่างประเทศ
# เศรษฐกิจมหภาค
Share This
About preecha binmanoch
เศรษฐกิจมหภาค
ป้ายกำกับ:
การค้าต่างประเทศ,
เศรษฐกิจมหภาค
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น