ซีพีเอฟ ติดกลุ่มรายชื่อ“หุ้นยั่งยืน” ปี 2564 เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ “CPF 2030 Sustainability in Action” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ซีพีเอฟ ติดกลุ่มรายชื่อ“หุ้นยั่งยืน” ปี 2564 เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ “CPF 2030 Sustainability in Action”

ซีพีเอฟ  ติดกลุ่มรายชื่อ“หุ้นยั่งยืน”  ปี  2564  เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ “CPF 2030 Sustainability in Action”

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็น 1 ใน 146  บริษัท ที่ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  อยู่ในรายชื่อ“หุ้นยั่งยืน” หรือ Thailand Sustainability Investment ประจำปี 2564   สะท้อนความสำเร็จการบริหารธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทุกมิติ โดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG)  สร้างความมั่นคงทางอาหารที่ปลอดภัยและเพียงพอให้สังคมไทย โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19   เดินหน้ากลยุทธ์ “CPF 2030 Sustainability in Action” ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
   
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนองค์กร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG การกำกับดูแลบริหารจัดการ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความมั่นคงและการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน  ตั้งแต่พนักงาน เกษตรกร คู่ค้าและนักลงทุน ซึ่งที่ผ่านมา  บริษัทฯ ดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างเข้มแข็งและรอบด้าน  สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ทั้ง 17 ข้อ  ทำให้ได้รับความเชื่อถือทั้งในระดับประเทศและสากลมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทฯ  ให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานตามมาตรการป้องกันโรคในระดับสูงสุด รวมถึงการส่งมอบอาหารปลอดภัยอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและบรรเทาความเดือดร้อนของคนไทย        
 
“การได้รับเลือกอยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร  สะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนและการพัฒนาการดำเนินธุรกิจ ที่มีความคล่องตัวและปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19 ช่วยลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกทั้งจากเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ” นายวุฒิชัย กล่าว  
 
นายวุฒิชัย กล่าวว่า ความสำเร็จของธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนในช่วงที่ผ่านมา เป็นพลังสำคัญในการเดินหน้าธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนทุกมิติ ผ่านกลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ “CPF2030 Sustainability in Action” ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอีก 10 ปีข้างหน้า ( ปี 2564-2573) ภายใต้ 3 เสาหลัก ประกอบด้วย อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน ดิน น้ำ ป่า คงอยู่  ที่ประกอบด้วย  9 ความมุ่งมั่น    คือ  ผลิตอาหารเพื่อสุขโภชนาการที่ดี การทำการตลาดอย่างรับผิดชอบ ยึดมาตรฐานหลักสวัสดิภาพสัตว์ ดูแลสิ่งแวดล้อมจากการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่เป้าหมาย“องค์กรคาร์บอนต่ำ” ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของพนักงาน และยกระดับแรงงานฝีมือ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและความสามารถในการแข่งขัน ตามแนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน  
 
สำหรับ ปี 2564 บจ. ที่ผ่านการคัดเลือกอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (THSI) แสดงให้เห็นถึงการมีแนวทางบริหารจัดการภาวะวิกฤตที่ครอบคลุมถึงการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ได้อย่างชัดเจน   โดย นำปัจจัย  New Normal  เช่น ประเด็น  Digital Transformation และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป  มาพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risks) เพื่อปรับตัวและตอบโจทย์ความท้าทายในอนาคต และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยของพนักงาน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง และรักษาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน (Operational Efficiency) รวมถึงการช่วยเหลือสังคม ผู้มีส่วนได้เสียทั้งลูกค้าและคู่ค้า ตลอดจนมีพัฒนาการโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม   โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณ การเปิดเผยข้อมูลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ./  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad