“พาณิชย์”ชี้เป้า 3 กลุ่มสินค้า “เกษตรอาหาร-เคมีชีวภาพ-สุขภาพ” ตอบโจทย์ลดคาร์บอน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

“พาณิชย์”ชี้เป้า 3 กลุ่มสินค้า “เกษตรอาหาร-เคมีชีวภาพ-สุขภาพ” ตอบโจทย์ลดคาร์บอน

img

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมหารือ เดินหน้าจัดทำรายการสินค้าที่ควรผลักดันและส่งเสริมตามแนวคิด BCG Zero Carbon เผยเบื้องต้นเล็งเห็นสินค้า 3 กลุ่มที่มีโอกาสในผลิตและทำตลาด “เกษตรและอาหาร-พลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ-สุขภาพและการแพทย์” มั่นใจตอบโจทย์ลดคาร์บอนโลก ที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญได้แน่   

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สนค. ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหารือแนวทางการจัดทำรายการสินค้าส่งเสริมการส่งออกตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยเชิญหน่วยงานภาครัฐที่เป็นหน่วยงานกำหนดนโยบายจากกระทรวงต่าง ๆ หน่วยงานที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้แก่ภาคเอกชน และหน่วยงานภาคเอกชน เข้าร่วมหารือเพื่อพิจารณารายการสินค้าส่งออกดังกล่าว โดยหน่วยงานต่างๆ ได้ให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการนำไปปรับปรุงรายการสินค้าที่ สนค. ได้ร่างไว้เป็นฉบับเริ่มต้น และเมื่อ สนค. ได้ปรับปรุงรายการสินค้า รวมทั้งหารือกับหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์อีกครั้งเรียบร้อยแล้ว จะนำเสนอต่อผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ให้มอบหมายหน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น สนค. ได้มีข้อเสนอรายการสินค้าที่ควรผลักดันและส่งเสริมสินค้าตามแนวคิด BCG Zero Carbon ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น อาหารฟังก์ชั่น โปรตีนทางเลือก อาหารแนวใหม่ (Novel food) อาหารที่ให้กากใยลดความเสี่ยงเกิดโรค (Functional ingredients) สินค้าเกษตรมูลค่าสูง อาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มสินค้าพลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ เช่น พลาสติกชีวภาพ ไบโอดีเซล บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สารสกัดสำหรับใช้ทำน้ำหอม เครื่องสำอาง กลุ่มสินค้าสุขภาพและการแพทย์ เช่น สารสกัดจากพืชและสมุนไพรที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมยา ยาสมุนไพร เป็นต้น
         
“การดำเนินงานของ สนค. จะช่วยให้หน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์นำไปใช้เป็นข้อมูลกำหนดโครงการ แผนงาน ของแต่ละหน่วยงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่จะมีส่วนช่วยให้ภาคเอกชนไทยสามารถดำเนินธุรกิจเป็นไปตามทิศทางการพัฒนาของประเทศ และยังสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศคู่ค้า เพื่อลดการเผชิญอุปสรรคทางการค้า อีกทั้งยังรักษาส่วนแบ่งตลาดของสินค้าไทยในตลาดโลกไว้ได้”นายรณรงค์กล่าว
         
ปัจจุบัน กำลังเกิด 2 เทรนด์สำคัญที่มาแรง คือ การค้าโลกมุ่งเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) โดยเห็นได้เด่นชัดขึ้นหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 หลายธุรกิจนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารจัดการ ผู้บริโภคใช้เทคโนโลยีมากขึ้นในการทำงานที่บ้าน (WFH) และเกิดการขยายตัวของธุรกิจการค้าออนไลน์ และการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อน ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงไทย ทำให้หลายประเทศมีมาตรการเกี่ยวกับคาร์บอน ซึ่งจะกลายมาเป็นมาตรการหรืออุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีเพิ่มขึ้น
         
ส่วนกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายที่จะสนับสนุนและผลักดันภาคการค้าระหว่างประเทศของไทยให้สอดรับกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยในการทำตลาด ส่วน สนค. ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของประเทศ ได้ดำเนินการตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการศึกษาและจัดทำรายการสินค้าที่จะส่งเสริมตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของประเทศ ก่อนที่จะเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad