สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2564 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2564

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์      วันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2564

ข้าวโพด : ราคาเพิ่มขึ้น
            แม้สภาพอากาศที่ดีขึ้นช่วยเอื้ออำนวยต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต และทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ส่งผลให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากหาบละ 642 บาท เป็นหาบละ 645 บาท
          ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 569.50 เซนต์/บุชเชล โดยรายงานภาวะอุปสงค์และอุปทานสินค้าโลก (WASDE) คาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15,062.0 ล้านบุชเชล และประเมินสต๊อกข้าวโพดสหรัฐฯ อยู่ที่ 1,493 ล้านบุชเชล ขณะที่บริเวณพื้นที่แถบมิตเวสท์มีปริมาณน้ำฝนเบาบาง ซึ่งช่วยเร่งความคืบหน้าการเก็บเกี่ยวข้าวโพดที่ปัจจุบันรายงานอยู่ที่ 87% เพิ่มขึ้นจาก 74% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
          แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะทรงตัว

ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
          กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าในสัปดาห์นี้ ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 19.80 บาท การเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ที่ประเทศบราซิลยังคงดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณการซื้อในตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัว และค่าระวางเรือทั่วโลกยังคงสูงทรงตัว
          ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนมกราคม 2565 ราคาอยู่ที่ 1,216.75 เซนต์/บุชเชล และกากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 342.4 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน คาดการณ์ภาวะอุปสงค์และอุปทานสินค้าเกษตรโลกโดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ประจำเดือนพฤศจิกายน รายงานผลผลิตต่อไร่ (yield) ของถั่วเหลืองสหรัฐฯ ฤดูกาล 2564/65 อยู่ที่ 51.2 บุชเชลต่อเอเคอร์ ทำให้ปริมาณผลผลิตทั้งหมดลดลงเหลือ 4,425.0 ล้านบุชเชล อย่างไรก็ตามรายงานสต๊อกถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 340 ล้านบุชเชล โดยปัจจุบันเกษตรกรเก็บเกี่ยวไปแล้วทั้งสิ้น 87% ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยห้าปีที่ 88%
          แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว

ปลาป่น : ราคาลดลง
          สาธารณรัฐประชาชนจีนผู้ซื้อหลักยังคงซื้อปลาป่นหน้าท่าเรือลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลเลี้ยงสัตว์น้ำ ทำให้ความต้องการซื้อปลาป่นลดลง ส่งผลให้ปลาป่นราคาปรับลง 1บาท ทุกเบอร์​
          โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 46.00 บาท เป็นกิโลกรัมละ 45.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 40.70 บาท เป็นกิโลกรัมละ 39.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 38.20 บาท เป็นกิโลกรัมละ 37.20 บาท
          ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 37.70 บาท เป็นกิโลกรัมละ 36.70 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 36.20 บาท เป็นกิโลกรัมละ 35.20 บาท
            แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว  

ข้าว : ราคาเพิ่มขึ้น
          การซื้อขายข้าวตลาดต่างประเทศในสัปดาห์นี้ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นจากตันละ 411 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 412 ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นจากตันละ 372 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 379 เหรียญสหรัฐฯ
          ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาลดลงจากกระสอบละ 1,230 บาท เป็นกระสอบละ 1,210 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ยืนราคาที่กระสอบละ 1,100 บาท
          แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว  

สุกร : ราคายืนแข็ง
          สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศราคาสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม ณ วันพระที่ 12 พฤศจิกายน อยู่ที่กิโลกรัมละ 82-84 บาท  
          ทั้งนี้ นายสัตวแพทย์ วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงเผชิญหลายปัญหา ทั้งน้ำท่วมที่สร้างความเสียหายแก่ฟาร์มเลี้ยงหมู และโรค PRRS ที่ทำให้แม่พันธุ์หมูเสียหายกว่า 3 แสนตัว หมูขุนเสียหาย 30% ขณะเดียวกัน โควิด-19 และการท่องเที่ยวที่หยุดชะงักส่งผลให้การบริโภคลดลง ขณะที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น และความเข้มงวดด้าน Biosecurity ที่ต้องลงทุนเพิ่มกว่า 300-400 บาท/ตัว ซ้ำเติมภาวะขาดทุนสะสมที่ต้องเผชิญมานานกว่า 3 ปี  ขอให้ผู้บริโภคและภาครัฐเข้าใจกลไกตลาดที่แท้จริง
          ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 2,400 บาท (บวก/ลบ 80)  
          แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะยืนแข็ง

ไก่เนื้อ : ราคายืนแข็ง
          สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ประกาศราคาแนะนำไก่เนื้อหน้าฟาร์ม ที่กิโลกรัมละ 34 บาท โดยการบริโภคเนื้อไก่ดีขึ้น จากมาตรการเปิดประเทศ และการยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ 17 จังหวัด  
          ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 11.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท  
          แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนแข็ง

ไข่ไก่ : ราคาเพิ่มขึ้น
            สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ฟองละ 2.80 บาท เพิ่มขึ้นจากฟองละ 2.60 บาท เนื่องจากการบริโภคที่คึกคักขึ้น จากมาตรการเปิดประเทศ
          แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad