สถาบันอัญมณีฯ เดินหน้าสร้างมาตรฐานห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับ ประกาศใช้ GIT Standard ใหม่ วางมาตรฐานตรวจสอบ “เพชร-หยก” หลังก่อนหน้านี้ นำร่องกำหนดมาตรฐานตรวจสอบอัญมณี ทองคำ และโลหะเงินไปแล้ว เตรียมผลักดันให้ห้องปฏิบัติการเข้าร่วม เพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรม และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า ขณะนี้ GIT Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับห้องปฏิบัติการใช้เป็นมาตรฐานในการตรวจสอบสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ได้มีผลบังคับเพิ่มเติมอีกหลายมาตรฐาน ทำให้การวิเคราะห์ตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับ มีความเป็นมาตรฐานสากล หรือเทียบเท่ามาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และผลักดันให้ห้องปฏิบัติการที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน มีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ ส่งเสริมอุตสาหกรรมให้เติบโต และช่วยสร้างภาพลักษณ์ไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลก
ทั้งนี้ ล่าสุด GIT ได้ประกาศใช้มาตรฐานหลักเกณฑ์ GIT จำนวน 3 ขอบข่าย ได้แก่ 1.ข้อกำหนดทั่วไปในการขึ้นทะเบียน 2.หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้เครื่องหมาย 3.หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการ และด้านมาตรฐานวิธีวิเคราะห์และทดสอบอัญมณีและเครื่องประดับ จำนวน 9 ขอบข่าย ได้แก่ 1.เพชร วิธีการตรวจสอบประเภทของเพชร ด้วยเครื่อง FTIR spectrometer 2.เพชร การจัดระดับความสะอาด 3.เพชร การจัดระดับสี 4.เพชร การประเมินคุณภาพการเจียระไน 5.เพชร การจัดระดับการเรืองแสง 6.เพชร การชั่งน้ำหนัก 7.วิธีการตรวจสอบหยก และเฝ่ยฉุ้ย (Fei Cui) 8.วิธีการตรวจสอบชนิดหยกและเฝ่ยฉุ้ย (Fei Cui) ด้วยเครื่องรามานสเปกโตรสโคป และ 9.วิธีการตรวจสอบชนิดหยกและเฝ่ยฉุ้ย (Fei Cui) ด้วยเครื่องฟูเรียร์ทรานส์ฟอร์มอินฟราเรดสเปกโตรมิเตอร์
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2563 GIT ได้ประกาศใช้มาตรฐานห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า ในเฟสแรก จำนวน 5 ขอบข่าย ได้แก่ 1.วิธีมาตรฐานสำหรับการทดสอบอัญมณี 2.การวิเคราะห์หาปริมาณทองคำ ด้วยวิธี Cupellation (Fire Assay) 3.การวิเคราะห์หาเปอร์เซ็นต์ทองคำ ในตัวอย่างโลหะมีค่าโดยใช้เทคนิค X-Ray Fluorescence (XRF) 4.การวิเคราะห์หาความหนาทองคำ ในตัวอย่างเครื่องประดับชุบโลหะมีค่า โดยใช้เทคนิค X-Ray Fluorescence (XRF) และ 5.การวิเคราะห์หาปริมาณโลหะเงิน โดยเทคนิค Potentiometric Titration ด้วยเครื่อง Auto Titrator
“ปัจจุบัน GIT กำลังอยู่ระหว่างการผลักดันให้ห้องปฏิบัติการเข้าร่วมใช้ GIT Standard เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานห้องปฏิบัติการในประเทศไทยให้เทียบเท่าระดับสากล ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้ห้องปฏิบัติการ แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้นว่าสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการเชื่อถือได้ อันจะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย สมกับการเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับโลก”นายสุเมธกล่าว
ที่ผ่านมา GIT ได้เชิญหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ สมาคมค้าทองคำ สมาคมช่างทองไทย สมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการท่องเที่ยว ผู้แทนจากภาคเอกชน และผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีและเครื่องประดับ เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการจัดทำมาตรฐาน และได้จัดทำประชาพิจารณ์เปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนผ่านช่องทางเว็บไซต์ และเฟซบุ๊กของสถาบันฯ โดยคณะกรรมการวิชาการได้นำข้อคิดเห็นดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาเพื่อกำหนดมาตรฐาน GIT Standard และประกาศใช้มาตรฐานออกมาอย่างต่อเนื่อง
วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
สถาบันอัญมณีฯ เปิดตัว GIT Standard ใหม่ วางมาตรฐานตรวจสอบ “เพชร-หยก”
Tags
# อุตสาหกรรม
Share This
About preecha binmanoch
อุตสาหกรรม
ป้ายกำกับ:
อุตสาหกรรม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น