“พาณิชย์”ชงของบกลาง 1,400 ล้าน จัดโครงการลดค่าครองชีพประชาชน 3 เดือน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2565

“พาณิชย์”ชงของบกลาง 1,400 ล้าน จัดโครงการลดค่าครองชีพประชาชน 3 เดือน

img

“พาณิชย์”เตรียมเสนอ ครม. ของบกลาง 1,400 ล้าน ใช้ทำโครงการพาณิชย์ลดราคา! ลดค่าครองชีพประชาชน ระยะเวลา 90 วัน ส่วนเนื้อหมู ได้มีการเช็กสต๊อก เพิ่มจุดขายถูกโลละ 150 บาท 667 จุดทั่วประเทศ รณรงค์บริโภคโปรตีนทางเลือก เผยไข่ไก่สรุปแล้ว ตรึงไข่คละหน้าฟาร์มฟองละ 2.90 บาทจนกว่าจะคลี่คลาย เนื้อไก่นัดถกอีกครั้ง 17 ม.ค.นี้ กำหนดรายละเอียดตรึงราคา แย้มเปิดจุดขายไก่ถูก 3,050 จุด ทั้งในห้าง ปั๊มพีที ตลาด
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจติดตามราคาสินค้า ที่ห้างโลตัส สาขารัตนาธิเบศร์ ว่า กระทรวงพาณิชย์จะเสนอของบกลางในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ม.ค.2565 วงเงินประมาณ 1,400 ล้านบาท มาจัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคา! ลดค่าของชีพประชาชน เพื่อเพิ่มทางเลือก สร้างความสมดุลด้านราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในตลาดและการบริโภคภาคครัวเรือนในสถานการณ์นี้ ซึ่งจะเป็นโครงการระยะ 90 วัน หรือ 3 เดือน   
         
ทั้งนี้ ในส่วนของการเพิ่มปริมาณเนื้อหมู กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการห้ามการส่งออก มีการเช็กสต๊อกหมูทั้งระบบ และได้เพิ่มจุดขายหมูเนื้อแดงราคาถูกกิโลกรัมละไม่เกิน 150 บาท 667 จุดทั่วทั้งประเทศ เพื่อชี้นำและแทรกแซงราคาในช่วงจำเป็นเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่ง และมีหลายฝ่ายออกมาช่วยรณรงค์ให้บริโภคโปรตีนทางเลือกอื่น เช่น ไก่ ไข่ ซึ่งได้เข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้หนีจากหมูราคาสูงมาเจอไก่ราคาแพง ถ้ามีการฝ่าฝืนจะเร่งดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะการค้ากำไรเกินควร ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นกลไกหลักนำทีมแก้ปัญหาเรื่องนี้ในแต่ละจังหวัด
         
ส่วนการแก้ไขปัญหาหมูในภาพรวม สาเหตุที่ราคาหมูสูงขึ้น เพราะปริมาณหมูในระบบขาดหายไป การแก้ปัญหา คือ ทำอย่างไรให้ปริมาณเพิ่มขึ้น ราคาปรับลดลงในระดับที่ผู้บริโภคสามารถรับได้ ซึ่งต้องใช้ยาหลายขนาน ที่ดำเนินการไปแล้ว เช่น 1.เพิ่มปริมาณหมูในตลาด โดยห้ามส่งออกหมู จะช่วยเพิ่มปริมาณหมูได้ปีละประมาณ 1,000,000 ตัวโดยประมาณ 2.เร่งส่งเสริมการเลี้ยงหมูป้อนเข้าระบบ เป็นหน้าที่โดยตรงของกรมปศุสัตว์ ได้รับแจ้งจากกรมปศุสัตว์ว่า กำลังเร่งผลิตลูกหมูป้อนเข้าระบบสัปดาห์ละ 300,000 ตัวโดยประมาณ 3.เร่งส่งเสริมการเลี้ยงหมู โดยรัฐบาลจัดให้มีโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่าน ธ.ก.ส. ให้ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยสามารถกู้เงิน 4.ส่งเสริมการเลี้ยงหมูรายใหม่โดยเฉพาะรายย่อย มุ่งเน้นฟาร์มระบบมาตรฐานเพื่อป้องกันการติดโรค หากพบว่ามีการติดเชื้อปศุสัตว์จะต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ปัญหา แต่ต้องเร่งจ่ายเงินชดเชย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน       

สำหรับไข่ไก่ ได้มีมติร่วมกันทั้งสมาคมผู้เลี้ยงไข่ทั่วทั้งประเทศ คนกลาง ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ รวมถึงผู้ส่งออก ตกลงกันตรึงราคาหน้าฟาร์มฟองละไม่เกิน 2.90 บาท จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งจะมีผลให้การขายปลีกราคาปรับลดลงอยู่ที่ 3 บาทกว่าต่อฟอง ขึ้นอยู่กับขนาด และต้นทุนอื่น ๆ เช่น ค่าแผงบรรจุ เป็นต้น
         
ขณะที่เนื้อไก่ มีการเจรจาเบื้องต้นและมีข้อสรุปแล้ว แม้ยังมีบางฝ่ายที่ยังติดขัด ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเรียกประชุมอีกครั้งวันที่ 17 ม.ค.2565 โดยมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมการไว้ คือ 1.ด้านปริมาณได้ รับการยืนยันจากเกษตรกรและผู้ผลิตรายต่าง ๆ ว่าจนถึงขณะนี้ ไก่มีปริมาณอย่างเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค  ชิ้นส่วนสำคัญ 3 ตัว คือ 1.ไก่สดทั้งตัว 2.น่องติดสะโพก และ 3.เนื้อหน้าอก ที่จะเป็นราคานำไปสู่ชิ้นส่วนอื่น ๆ ให้กำหนดข้อตกลงร่วมกันว่าจะตรึงราคาแต่ละชิ้นส่วนที่ราคาเท่าไร และ 2.แทรกแซงราคาชี้นำตลาดในราคาพิเศษ เพื่อป้องกันการดึงราคาสูงจนเกินไปเพื่อเป็นทางเลือก โดยจะจัดจุดจำหน่ายไก่ราคาถูก 3,050 จุด โดยต้องของบกลาง มาช่วยบริหารจัดการ และดูแลให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งจุดจำหน่ายไก่ราคาถูกที่เตรียมการไว้ จะมีในส่วนของห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน โดยเฉพาะปั๊มพีทีทั่วประเทศ 1,500 ปั๊ม ร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น รวมทั้งตลาดสด รถโมบาย และลานสาธารณะชุมชน
         
ทางด้านสินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการบริโภค เช่น เป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูป กรมการค้าภายในยืนยันว่ายังไม่มีการอนุญาตให้สินค้ารายการใดขึ้นราคา ใครฉวยโอกาสขึ้นราคาต้องดำเนินคดีต่อไปตามมาตรา 29 จำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้ดำเนินการโดยเคร่งครัด และตนสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งโครงการคนละครึ่งมาดำเนินการเร็วขึ้น เพราะชาวบ้านตอนนี้ ต้องยอมรับว่าเดือดร้อนมาก คนละครึ่งจะเข้ามาช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน
         
“การเข้าไปกำกับดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค กระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่อยู่อย่างเต็มที่ แม้จะเป็นส่วนปลายทางของภาคการผลิตก็ตาม ซึ่งผมได้ให้เป็นนโยบายและการดำเนินการใดให้ถือหลักทุกฝ่ายสามารถอยู่ได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ให้เกิดความสมดุล ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย”นายจุรินทร์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad