กรมการค้าภายในจับมือ 3 สมาคมผู้ค้า ผู้นำเข้าเคมีเกษตร ลดราคาเคมีเกษตร 3 กลุ่ม ยากำจัดวัชพืช-ยาปราบศัตรูพืชและแมลง-ยากำจัดโรคพืช รวม 74 รายการ จำนวน 2.35 แสนลิตรหรือกิโลกรัม สูงสุด 35% นาน 3 เดือน ตั้งแต่ 30 พ.ย.64-28 ก.พ.65 เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร เผยหลังสิ้นสุดโครงการ เตรียมนำตัวอื่นมาลดราคาช่วยเหลือต่อ หลังพบราคาจะสูงต่อเนื่อง เหตุจีนลดผลิต-ส่งออก
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ประกอบการเคมีการเกษตร เพื่อหาทางลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ว่า กรมฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ผลิต ผู้นำเข้า 22 บริษัท จาก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคาเคมีเกษตรช่วยเกษตรกร โดยจะลดราคาขายเคมีเกษตร 3 กลุ่ม คือ ยากำจัดวัชพืช ลดสูงสุด 22% หรือลดราคา 10-150 บาท ยาปราบศัตรูพืชและแมลง ลดสูงสุด 26% หรือ 3-135 บาท และยากำจัดโรคพืช ลดสูงสุด 35% หรือ 5-150 บาท รวมปริมาณ 235,268 ลิตรหรือกิโลกรัม หรือ 74 รายการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2564-28 ก.พ.2565 เป็นเวลา 3 เดือน คาดจะช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
สำหรับเคมีเกษตรที่จะนำมาลดราคาในครั้งนี้ ครอบคลุมพืชทุกชนิด ทั้งข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา ไม้ผล ทั้งทุเรียน มังคุด ราคาที่ขายตามโครงการ เช่น ไกลฟอร์เซต ขนาด 4 ลิตร เหลือเพียง 600-650 บาท จากปกติ 800 บาท สารกลูโฟซิเนต ราคาทั่วไป 990 บาท ราคาโครงการ 970 บาท และสารทูโฟ-ดี ราคาทั่วไป 190 บาท ราคาโครงการ 165 บาท เป็นต้น โดยเกษตรกรที่สนใจ สามารถสั่งซื้อผ่านเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และสหกรณ์จังหวัด แต่ต้องแจ้งว่า จะไปรับสินค้าที่ร้านค้าใด
ทั้งนี้ ปริมาณเคมีเกษตร ที่ขายตามโครงการนี้ แม้จะไม่มากนัก ประมาณ 1-2% ของปริมาณการใช้โดยรวมในเวลา 1 ปี แต่จะเป็นเครื่องชี้ว่า จากนี้ไป ราคาเคมีเกษตรในตลาดจะไม่สูงเกินกว่านี้ อีกทั้งยังได้ขอให้ทั้ง 3 สมาคม กำชับตัวแทนจำหน่ายของตนเอง อย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาขาย เอาเปรียบเกษตรกร หากรายใดฝ่าฝืน จะไม่ส่งสินค้ามาให้ขายอีกต่อไป และหากกรมฯ ตรวจพบ ผู้ค้ารายใด ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดโครงการวันที่ 28 ก.พ.2565 แล้ว กรมฯ จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการทั้ง 3 สมาคมให้ช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการจะนำเคมีเกษตรรายการอื่น มาลดราคาอีก เพราะมีแนวโน้มว่าราคาเคมีเกษตรจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง เนื่องจากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ปรับลดปริมาณการผลิต เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และยังจำกัดปริมาณการส่งออก ขณะที่ความต้องการใช้ทั่วโลกสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไทยเป็นประเทศนำเข้าเคมีเกษตร 100% จึงได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้นมา 35-40% ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรด้วย เช่น โครงการเกษตรสุขใจ ที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรรายละไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อไปซื้อปัจจัยการผลิต และไม่คิดดอกเบี้ยในเดือนแรก ส่วนสหกรณ์การเกษตร จะปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่อง เป็นต้น
นายจารึก ศรีพุทธชาติ นายกสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นเพราะภาคเอกชนต้องการช่วยเหลือเกษตรกรให้อยู่รอด เพราะเคมีเกษตร ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรสูงขึ้น แต่หลังจากสิ้นสุดโครงการแล้ว ผู้ประกอบการคงต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่ารายได้ที่หายไป รับได้หรือไม่ หรือรับได้แค่ไหน แต่ในเบื้องต้น แม้ผู้ประกอบการจะสูญเสียรายได้ แต่ก็ยอมเสียสละ ยอมขาดทุนกำไร เพราะถ้าเกษตรกรอยู่ได้ ผู้ประกอบการก็อยู่ได้
วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565
“พาณิชย์”จับมือ 3 สมาคม ลดราคาเคมีเกษตร 3 กลุ่ม 74 รายการ นาน 3 เดือน
Tags
# เกษตร ประมง ปศุสัตว์
Share This
About preecha binmanoch
เกษตร ประมง ปศุสัตว์
ป้ายกำกับ:
เกษตร ประมง ปศุสัตว์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น