กรมการค้าภายใน โชว์ผลงานลดราคาปุ๋ยเคมีช่วยเกษตรกร ล่าสุดลดต้นทุนให้กับเกษตรกรไปแล้วกว่า 60 ล้านบาท เผยยังสามารถซื้อปุ๋ยราคาถูกได้จนถึงสิ้นปี ส่วนเคมีเกษตร ยังซื้อได้จนถึง 28 ก.พ.65 ย้ำจะติดตามสถานการณ์ราคาใกล้ชิด หากพบค้ากำไรเกินควร เล่นงานตามกฎหมายเด็ดขาด
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตั้งแต่กรมฯ ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ยเคมีรวม 19 ราย ดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคา! ปุ๋ยช่วยเกษตรกร โดยนำปุ๋ยเคมีจำนวน 84 สูตร ปริมาณรวม 225,211 ตัน (4,504,320 กระสอบ) มาลดราคาจำหน่ายให้แก่กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ตั้งแต่เดือนก.ค.2564 จนถึงปัจจุบัน มีการสั่งซื้อแล้ว 143,233.40 ตัน (2,864,673 กระสอบ) มูลค่าส่วนลดรวมกว่า 60 ล้านบาท
ทั้งนี้ เกษตรกรที่ต้องการสั่งซื้อปุ๋ยเคมีในราคาถูกกว่าท้องตลาด ยังคงสามารถสั่งซื้อได้ผ่านกลุ่ม สถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ เช่น สหกรณ์ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มแปลงใหญ่ ภายในปลายปีนี้ จากนั้นกลุ่ม สถาบันเกษตรกร จะรวบรวมยอดการสั่งซื้อแจ้งไปยังเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ หรือสหกรณ์จังหวัดในแต่ละพื้นที่ โดยยังคงมีปุ๋ยสูตรที่ได้รับความนิยมจำหน่ายอยู่ คือ สูตร 16-20-0 (ใช้กับข้าว) ราคาทั่วไป 795 บาท ราคาโครงการ 660 บาท และสูตร 15-15-15 ราคาทั่วไป 875 บาท ราคาโครงการ 750 บาท ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลรายการและราคาปุ๋ยที่นำมาลดราคาทางเว็บไซต์กรมฯ www.dit.go.th
ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ผลิต ผู้นำเข้า 22 บริษัท จาก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย จัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคาเคมีเกษตรช่วยเกษตรกร โดยจะลดราคาขายเคมีเกษตร 3 กลุ่ม คือ ยากำจัดวัชพืช ลดสูงสุด 22% หรือลดราคา 10-150 บาท ยาปราบศัตรูพืชและแมลง ลดสูงสุด 26% หรือ 3-135 บาท และยากำจัดโรคพืช ลดสูงสุด 35% หรือ 5-150 บาท รวมปริมาณ 235,268 ลิตรหรือกิโลกรัม หรือ 74 รายการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2564-28 ก.พ.2565 เป็นเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ กรมฯ และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะติดตามสถานการณ์ราคา ทั้งปุ๋ยเคมี เคมีเกษตร อย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยสามารถแจ้งหรือร้องเรียนสายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น