FTE ไตรมาสแรกคึก คว้างานใหม่ 75 ล้านบาท ตุน Backlog แน่น 470 ล้านบาท ลุ้นรับงานเพิ่ม 200 ล้านบาท - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565

FTE ไตรมาสแรกคึก คว้างานใหม่ 75 ล้านบาท ตุน Backlog แน่น 470 ล้านบาท ลุ้นรับงานเพิ่ม 200 ล้านบาท

FTE ไตรมาสแรกคึก คว้างานใหม่ 75 ล้านบาท

ตุน Backlog แน่น 470 ล้านบาท ลุ้นรับงานเพิ่ม 200 ล้านบาท

FTE เผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 1/65 รับงานใหม่ภาคเอกชนมูลค่า 75 ล้านบาท Backlog 470ล้านบาท พร้อมลุ้นรับงานเพิ่มกว่า 200 ล้านบาท มองภาพรวมอุตสาหกรรมปรับตัวดี วางเป้าหมายเติบโต 20% หรือ 1,200 ล้านบาท ขณะที่งบปี 64 รายได้รวม 1,010.91 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44.02 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียว ปันผลหุ้น – เงินสด 0.00556 บาทต่อหุ้น

นายทักษิณ ตันติไพจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานไตรมาส 1/65 แนวโน้มเติบโตดี โดยบริษัทสามารถรับงานโครงการใหม่ภาคเอกชนกว่า 18 งาน มูลค่ารวมประมาณ 75 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 470 ล้านบาท สามารถทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้

ขณะเดียวกัน บริษัทมีโครงการที่คาดว่าจะส่งมอบงานและสามารถรับรู้รายได้ มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท อีกทั้งมีงานอยู่ระหว่างยื่นประมูล 15 งาน อาทิ One Bangkok, EGAT Rayong4, มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท โดยบริษัทมีโอกาสรับงานในสัดส่วน 50% หรือมูลค่า 100 ล้านบาทส่วนธุรกิจใหม่การนำเข้า – จัดจำหน่ายอุปกรณ์เซฟตี้ และอุปกรณ์นิรภัยส่วนบุคคลทุกชนิดในโรงงาน กระแสตอบรับดี มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง

“ภาพรวมอุตสาหกรรมปี 2565 คาดว่าจะสามารถปรับตัวดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้าทำให้สถานการณ์คลี่คลาย รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีสัญญาณที่ดี อาทิ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ การทยอยลงทุนต่างๆ ของภาคเอกชน แม้ว่าจะยังมีความกังวลเรื่องของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน

อย่างไรก็ตาม บริษัทติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโครงการทั้งเรื่องคุณภาพและระยะเวลาในการติดตั้ง ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย ให้รัดกุมมากขึ้น ซึ่งหากบริษัทสามารถส่งมอบงานได้ตามแผน เชื่อว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 20% หรือ 1,200 ล้านบาท” นายทักษิณ กล่าว


สำหรับ ผลประกอบการปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 1,010.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 914.16 ล้านบาท จำนวน 96.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.58 % และมีกำไรสุทธิ 44.02 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทสามารถดำเนินงานและรับรู้รายได้จากงานออกแบบติดตั้งอุปกรณ์ระบบดับเพลิงภาคเอกชน โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่องในปี 64 ซึ่งเป็นงานที่มีระยะสั้นสามารถรับรู้รายได้รวดเร็ว และมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นมูลค่าเท่ากับอัตราการจ่ายปันผล 0.05 บาทต่อหุ้น อีกทั้ง มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.00556 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 3.336 ล้านบาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดําเนินงานประจำปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.05556 บาท รวมเป็นเงิน 33.336 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลประมาณ 93.81% ของกําไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักการจัดสรรกําไรสุทธิเป็นทุนสํารองตามกฎหมาย

โดยบริษัทกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 24 มี.ค. 2565 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผลในรูปแบบของหุ้นปันผลและเงินสด (Record Date) ในวันที่ 25 มี.ค. 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 พ.ค. 2565 ซึ่งมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 วันที่ 20 เม.ย. 65 เพื่อพิจารณาต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad