‘ท็อปส์’ ชูแนวคิดร้านค้าเพื่อความยั่งยืน จับมือ ‘ยูนิลิเวอร์’ และ ‘เอสซีจีซี’ เปิดตัว “รีฟิล สเตชั่น” แห่งแรกที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวสเกต - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

‘ท็อปส์’ ชูแนวคิดร้านค้าเพื่อความยั่งยืน จับมือ ‘ยูนิลิเวอร์’ และ ‘เอสซีจีซี’ เปิดตัว “รีฟิล สเตชั่น” แห่งแรกที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวสเกต

ท็อปส์’ ชูแนวคิดร้านค้าเพื่อความยั่งยืน จับมือ ยูนิลิเวอร์ และ เอสซีจีซี

เปิดตัว “รีฟิล สเตชั่น” แห่งแรกที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต เวสเกต

 

ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาขยะพลาสติกล้นเมือง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพลาสติกช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น ซึ่งพลาสติกส่วนใหญ่เป็นแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastics) และถูกทิ้งเป็นขยะมูลฝอยในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ พื้นที่ฝังกลบ และต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนับร้อยปี สำหรับประเทศไทยมีขยะพลาสติกประมาณปีละ ล้านตัน แต่มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์เพียงปีละ 0.5  ล้านตัน ส่วนที่เหลืออีก 1.5 ล้านตัน ไม่มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ (ที่มาสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) จากปริมาณขยะพลาสติกที่ตกค้างและการจัดการขยะที่ไม่ถูกต้องทำให้ส่งผลกระทบมากมายต่อชีวิต ผู้คน และสิ่งแวดล้อม

 

เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดปริมาณขยะพลาสติกและรณรงค์ให้เกิดการใช้ซ้ำ นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ท็อปส์ ตระหนักและให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตรายแรกที่ได้ริเริ่มความร่วมมือกับ ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และ ‘เอสซีจีซี ร่วมกันเป็นพลังสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลง เปิดตัวโครงการนำร่อง สถานีเติมผลิตภัณฑ์ หรือ รีฟิล สเตชั่น แห่งแรกที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการจัดการขยะ ลดปริมาณการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง เกิดการใช้ซ้ำอย่างคุ้มค่ามากที่สุด  โดยลูกค้าสามารถนำบรรจุภัณฑ์เดิมที่ทำความสะอาดแล้ว มาเติมผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มจากตู้รีฟิลสเตชั่นที่เปิดให้บริการ  

 


  

ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ได้แก่ ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก, ลดการใช้พลังงานและวัตถุดิบในการผลิตขวดพลาสติกใหม่ ที่ส่งผลกระทบให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม, เพิ่มพื้นที่ในการฝังกลบ เพราะการนำขวดพลาสติกมาใช้ซ้ำจะช่วยให้มีพื้นที่ในการฝังกลบขยะพลาสติกอื่นๆ ที่ไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้, ที่สำคัญการเติมผลิตภัณฑ์จากตู้รีฟิลสเตชั่น ยังช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30 %  โดยเติมผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ท ลิตร เพียง 92 บาท จาก ปกติ 147 บาท ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์ลูกค้ามั่นใจได้ว่ามีคุณภาพไม่ต่างไปจากสินค้าที่จำหน่ายบนชั้นวางปกติแน่นอน และยังสอดคล้องกับ Roadmap การจัดการขยะพลาสติกของประเทศไทย เพื่อก้าวสู่การจัดการขยะพลาสติกที่ยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อีกทั้งยังเป็นการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยรูปแบบร้านค้าเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Store) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของก้าวเล็กๆ ที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ ที่เราทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้


และเพื่อเป็นการเชิญชวนให้ผู้บริโภคได้มีความคุ้นเคยกับการใช้บริการ สถานีเติมผลิตภัณฑ์ หรือ รีฟิล สเตชั่น ตั้งแต่วันนี้ – 16 สิงหาคม 2565 ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัล เวสเกต เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของยูนิลิเวอร์ที่ร่วมรายการครบ 499 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับสิทธิ์ แลกซื้อผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มในราคา บาท ที่ตู้รีฟิล สเตชั่น และ รับฟรี ขวดเปล่าขนาด ลิตร ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูโดยเอสซีจีซี(จำนวนจำกัด)

            นายจักรกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “หลังจากเปิดตัว สถานีเติมผลิตภัณฑ์ หรือ รีฟิล สเตชั่น ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้าให้การตอบรับและสนใจทดลองใช้บริการเติมผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มจากรีฟิลสเตชั่นจำนวนมาก ทั้งนี้คาดว่าเทรนด์การซื้อสินค้าแบบรีฟิลจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากการสำรวจเทรนด์ในประเทศไทย พบว่า 73% ของผู้บริโภคชาวไทย มีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ 72% ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในการใช้ชีวิตประจำวัน จากผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยให้ความสนใจในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น พร้อมๆ กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันง่ายๆ  โดยเริ่มจากตนเองและสิ่งใกล้ตัว และ ท็อปส์ พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการผลักดัน ขับเคลื่อน และสนับสนุนการแก้ปัญหาขยะพลาสติก รวมไปถึงการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม โดยร่วมกับ พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน”  

 

            ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tops.co.th, เฟซบุ๊กแฟนเพจ TopsThailand หรือ แอปพลิเคชัน @TopsThailand

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

                บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,440 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้าร้านสะดวกซื้อร้านขายสินค้าเฉพาะทางซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเปอร์มาร์เก็ตพลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 56 จังหวัดประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565)

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad