มินเทลเผย “คุณภาพอากาศ” เป็นปัญหาหลักด้านสิ่งแวดล้อมที่คนไทยให้ความสำคัญ ในขณะที่พฤติกรรมความยั่งยืนของคนไทยมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายและความประหยัด - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2565

มินเทลเผย “คุณภาพอากาศ” เป็นปัญหาหลักด้านสิ่งแวดล้อมที่คนไทยให้ความสำคัญ ในขณะที่พฤติกรรมความยั่งยืนของคนไทยมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายและความประหยัด

มินเทลเผย “คุณภาพอากาศ” เป็นปัญหาหลักด้านสิ่งแวดล้อมที่คนไทยให้ความสำคัญ ในขณะที่พฤติกรรมความยั่งยืนของคนไทยมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายและความประหยัด

  • คุณภาพอากาศ (43%), การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (42%), และ การตัดไม้ทำลายป่า (28%) คือความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม อันดับแรกของคนไทย
  • 72% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนักที่เกิดขึ้นในประเทศ เป็นเหตุให้พวกเขาหันมาปกป้องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
  • การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ (66%) จัดอยู่ในกลุ่มพฤติกรรมที่ยั่งยืน 3 อันดับแรกของผู้บริโภค

การมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในด้านความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น งานวิจัยฉบับใหม่ของ Mintel Consulting Sustainability Barometer ประจำปี 2565 เปิดเผยว่า 43% ของผู้บริโภคชาวไทยกล่าวถึงเรื่อง คุณภาพอากาศ ว่าเป็นปัญหาหลักด้านสิ่งแวดล้อมใน 3 อันดับแรก รองลงมาคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (42%) และการตัดไม้ทำลายป่า (28%)

 

ประเทศไทยเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตามรายงานของ International Trade Administration ในปี 2564  ยอดรวมการผลิตในประเทศมีมูลค่าถึง 43.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกิจกรรมทางการเกษตรมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น อุณหภูมิที่สูงขึ้นสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและนำไปสู่การผลิตโอโซนที่เป็นมลพิษทางอากาศที่อันตรายเพิ่มมากขึ้น

 

แม้ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มขึ้นแต่จำนวนผู้บริโภคที่เชื่อว่าเรายังมีเวลาช่วยโลกหากเราลงมือทำตอนนี้กลับลดลง โดยลดลงจาก 62% เป็น 58% ระหว่างปี 2564-2565* เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ เช่น ออสเตรเลีย (42% vs 50%) และอินเดีย (51% เทียบกับ 56%) อย่างไรก็ตาม คนไทยจำนวนมากถึง 72% เห็นด้วยว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนัก (เช่น น้ำท่วม คลื่นความร้อน) กระตุ้นให้พวกเขาทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตัวเองเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

ความต้องการที่จะช่วยโลกนำมาซึ่งปัจจัยแห่งความรู้สึกดี ๆ เนื่องจากผู้บริโภค 76% กล่าวว่าการทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุข ในขณะที่เกือบครึ่ง (45%) กล่าวว่าพวกเขาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์ประจำปีของตัวเอง (เช่น การคำนวณในช่องออนไลน์หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน)

 

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา* พฤติกรรมความยั่งยืนอันดับต้น ๆ ของคนไทยมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายและความประหยัด นั้นคือ การซื้อผ้าใหม่น้อยลง (49%) การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ (47%) และการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองว่าไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม (33%) นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางไปสู่การใช้ยานพาหนะขนาดเล็กนั้นชัดเจนขึ้น โดย 40% บอกว่าพวกเขาหันมาขี่จักรยานบ่อยขึ้น

 

เมื่อถามถึงวิธีแก้ปัญหาที่พวกเขาเห็นว่ามีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมสูงถึงปานกลาง ผู้บริโภคให้การสนับสนุนโครงการป่าไม้และการอนุรักษ์ รวมถึงการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน ซึ่งในเรื่องพลังงานหมุนเวียนนั้น คนไทย 41% คิดว่าผู้บริโภคเองมีส่วนรับผิดชอบต่อการใช้พลังงานหมุนเวียนมากที่สุด และมีเพียง 28% เท่านั้นที่เชื่อมโยงกับภาครัฐ ผู้บริโภคเกือบสองในสาม (64%) ระบุว่าตนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองด้านการประหยัดพลังงาน (เช่น เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า) อยู่ที่บ้าน

 

Mintel Consulting Sustainability Barometer ประจำปีครั้งที่ 2 นำเสนองานวิจัยและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทัศนคติด้านความยั่งยืน การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และพฤติกรรมของผู้บริโภคใน 16 ประเทศ* โดยให้ข้อเสนอแนะแก่บริษัทและแบรนด์ต่าง ๆ บนพื้นฐานของนวัตกรรม การประชาสัมพันธ์ และแคมเปญที่ยอดเยี่ยมที่สุด


ติตตามข่าวฉบับเต็มได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ 


หรือติดต่อขอนัดสัมภาษณ์พูดคุยถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ได้ที่ คุณวาสนา  โภคา โทร. 082-161-1162 email. wassana@midas-pr.com 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad