เซ็นทรัล รีเทล ชู “Green & Sustainable Retail” เป็นค้าปลีกแรกของไทย ตอกย้ำองค์กรต้นแบบเพื่อความยั่งยืน - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565

เซ็นทรัล รีเทล ชู “Green & Sustainable Retail” เป็นค้าปลีกแรกของไทย ตอกย้ำองค์กรต้นแบบเพื่อความยั่งยืน

 

เซ็นทรัล รีเทล ชู “Green & Sustainable Retail” เป็นค้าปลีกแรกของไทย

ตอกย้ำองค์กรต้นแบบเพื่อความยั่งยืน

 

กรุงเทพฯ 13 กันยายน 2565 – นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล มีเจตนารมณ์และความตั้งใจจริงที่จะสร้างและส่งต่อโลกที่น่าอยู่เพื่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป พร้อมผลักดันองค์กรเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรแรกของไทยอย่างเต็มรูปแบบโดยยึดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs), แนวทางพัฒนา BCG (Bio-Circular-Green Economy) และ ESG (Environment-Social-Governance) เป็นหลักในการวางกลยุทธ์ CRC ReNEW  เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน  รวมถึงเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจครอบคลุมทุกมิติของกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้งนี้เซ็นทรัล รีเทล ได้ตั้งเป้าหมายระยะยาวที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 พร้อมทั้งเป้าหมายในระยะสั้น ภายในปี 2573 ดังนี้

 

1.        ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 30%                         (Reduce Greenhouse Gases)

2.      สร้างรายได้ให้กับชุมชน 5,400 ล้านบาท่อปี            (Navigate Well-being Society)

3.      ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100%           (Eco-friendly Packaging)

4.      บริหารจัดการขยะและลดปริมาณขยะอาหาร 30%      (Waste Management)

 

โดยการที่จะบรรลุเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวดังกล่าว เซ็นทรัล รีเทลได้ ชู แนวทางปฏิบัติ ภายใต้กลยุทธ์ CRC ReNEW ที่ทำอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด และจะยกระดับในการดำเนินการดังต่อไปนี้

 

1.       Reduce Greenhouse Gases ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ ด้วยแนวทางปฏิบัติดังนี้

·     เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาศูนย์การค้าและร้านค้าทั้งในไทยและเวียดนาม ซึ่งจะทำให้เซ็นทรัล รีเทล นำพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดได้ถึง 30 %  ภายในปี 2569

·         เปลี่ยนผ่านสู่การเป็น Low carbon logistic โดยเปลี่ยนไปใช้รถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) ในการขนส่งสินค้า

·         ใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน (Energy saving technology) ในหลากหลายรูปแบบ เช่น ตู้เย็นประหยัดพลังงาน (Energy Efficient Chiller) สามล้อพลังงานไฟฟ้า

·      ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ติดตั้งสถานีบริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV Charging Station) สำหรับลูกค้าในศูนย์การค้าทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม

·  ต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า (No Deforestation) โดยพิจารณาไม่สนับสนุนผลิตภัณฑ์และ suppliers หรือผู้ผลิตที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าในห่วงโซ่อุปทาน  


2.  Navigate Society Wellbeing สร้างสังคมให้น่าอยู่ เซ็นทรัล รีเทล มุ่งเน้นลดความเหลื่อมล้ำ เป็นผู้นำในการสร้างความเท่าเทียมและสนับสนุนความหลากหลายในสังคม ผ่านการจ้างงานและสร้างอาชีพให้คนพิการ ในปี 2564 จำนวนทั้งสิ้น 438 คน และส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิิจชุุมชนหรือท้องถิ่น และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านโครงการจริงใจ Farmers’ Market ที่ครอบคลุม 24 จังหวัด ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว 24,000 ราย กว่า 624 ชุมชน 6,620 ครัวเรือน ส่งผลให้รายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้ 3 เท่า และสร้างรายได้ให้เกษตรกรต่อปีกว่า 220 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังมีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะยกระดับชุมชนและสังคมไทยให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน 


3.      Eco-friendly Packaging ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางปฏิบัติดังนี้

·    ต่อยอดแคมเปญ Love the Earth เพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Green Product ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุรีไซเคิล วัสดุจากธรรมชาติ หรือวัสดุคุณภาพที่ใช้ได้ทนทาน ทดแทนการใช้วัสดุสิ้นเปลือง และบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง รวมถึงลดการสร้างขยะพลาสติก โดยในปี 2564 ลดการใช้ถุงพลาสติกได้รวม 160 ล้านใบ

·     เพิ่ม Tops Green ร้านค้ารูปแบบใหม่ที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผัก ผลไม้ โดยเปิดสาขาแรกแล้วที่เชียงใหม่

4. Waste Management การจัดการขยะมูลฝอย ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ การเผา การก่อมลพิษและรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ด้วยแนวทางปฏิบัติดังนี้

·         ลดปริมาณการสูญเสียอาหาร (Food Loss) และขยะอาหาร (Food Waste) ตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงการส่งต่ออาหารส่วนเกินที่ยังบริโภคได้ให้แก่กลุ่มเปราะบาง และจัดการขยะอาหารโดยการทำปุ๋ยหมักและผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ประโยชน์ในชุมชน

·         ยกระดับการจัดการขยะพลาสติกกับโครงการ ขวดเปล่า ไม่สูญเปล่า’ ให้สามารถนำขวดพลาสติก  PET กลับมาใช้ใหม่ และแปรรููปเป็นผลิิตภััณฑ์์ ซึ่งสามารถสร้้างงานและรายได้้ให้้กับชุุมชน

·         ยกระดับโครงการ Journey to Zero รณรงค์ลดขยะเหลือศูนย์ ส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกให้กับลูกค้าและพนักงานในการลด การใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ จัดให้มีจุดทิ้งขยะคัดแยก และส่งเสริมให้นำวัสดุหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่

“เซ็นทรัล รีเทล เริ่มต้นจากการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร และ Mindset ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบ ESG ให้กับพนักงานทุกระดับ พร้อมสอดแทรกเข้าไปในทุกกระบวนการทางธุรกิจ เราได้วาง Road map ในระยะยาว เพราะการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับองค์กรให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องใช้เวลาในการทำอย่างต่อเนื่อง  และอาศัยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญในการส่งต่อเจตนารมณ์นี้ไปยังผู้บริหารรุ่นต่อ ๆ ไป และเราจะเป็นกำลังสำคัญในการทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อส่งมอบโลกที่น่าอยู่ให้กับคนเจนเนอเรชั่นต่อ ๆ ไป” นายญนน์ กล่าวปิดท้าย 

 

###

กี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,550 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้าร้านสะดวกซื้อร้านขายสินค้าเฉพาะทางซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเปอร์มาร์เก็ตพลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม และ (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัดประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)


 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad