17 ตุลาคม 2565 / คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมแถลงข่าวเปิดโครงการ “ส่งความรู้
สร้างความสุข ปี 4” ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
รมช.ศธ. กล่าวว่า “การอ่าน
เป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
ด้วยความมุ่งมั่นที่มีร่วมกันของบริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด
ผู้จัดจำหน่ายหนังสือชั้นนำของเมืองไทยในนาม “ร้านนายอินทร์”
โดยการสนับสนุนจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และกระทรวงศึกษาธิการ
จึงได้ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมเปิดโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 4”
ทั้งนี้
กระทรวงศึกษาธิการได้ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการปีที่ 1 ด้วยความเชื่อมั่นว่า “การอ่าน”
เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน
ด้วยเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ จากแหล่งข้อมูลต่างๆ
ที่สามารถพัฒนาความรู้ ไปสู่การพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์
นำไปสู่การสร้างสรรค์
และช่วยขับเคลื่อนการศึกษาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมทุกระดับการศึกษาของประเทศจากการอ่านออกเขียนได้
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบาย
ที่มุ่งสู่การปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษที่ 21
ผ่านการอ่านและเขียนอย่างนโยบาย Coding
ที่บรรจุอยู่ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานในทุกหมวดหมู่วิชา
โดยมีการอบรมครูอย่างต่อเนื่อง Coding เป็นทักษะที่เด็กไทยยุคใหม่ต้องรู้
ซึ่งมีทักษะพื้นฐานคือการอ่านออกเขียนได้
เน้นให้เด็กมีกระบวนการคิดแก้ปัญหาของแต่ละคน แต่ละช่วงวัย
และนโยบายการอ่านเขียนเรียนประวัติศาสตร์ผ่านสื่อร่วมสมัย
จัดทำคลังข้อมูลประวัติศาสตร์ เพื่อให้เด็กไทยได้อ่านออก และเรียนรู้
ผ่านเทคโนโลยีสื่อเสมือนจริง
“การดำเนินโครงการนี้ กระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแนวคิดร่วมสนับสนุนให้
“เด็กไทยอ่านออก เขียนได้ คุณครูก้าวไกล ชาติไทยพัฒนา”
ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยการพัฒนาทักษะการอ่านของผู้เรียนให้เป็นผู้ที่รู้หนังสือ
แต่ครูยังส่งเสริมให้ครูผู้รับผิดชอบโครงการ
สามารถเพิ่มวิทยฐานะของตนเองจากการลงมือปฏิบัติจริงกับผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย”
คุณระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
เป็นเวลา 3 ปี ที่โครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข”
ได้ส่งมอบหนังสือคุณภาพ พร้อมชั้นวางหนังสือแล้วกว่า 168,000 เล่ม
ก่อตั้งชมรมรักการอ่าน จัดทำสมุดบันทึกรักการอ่าน
รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ใน 160 โรงเรียน ครอบคลุมพื้นที่ 77
จังหวัดทั่วประเทศ
ในปีที่ผ่านมา มีนักเรียนร่วมโครงการจำนวน 19,124 คน มีผลการเรียนดีขึ้น
75% ถือเป็นการเติบโตด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้มีการผลักดันในการรักการอ่านให้แก่น้องผ่าน 3 กิจกรรม คือ
เด็กสุขสันต์ยอดนักอ่าน เด็กสุขสร้างสรรค์ขยันบันทึก และอ่านดังฟังเพลิน
ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้แก่นักเรียนในโรงเรียน
ให้เป็นผู้รู้หนังสือ อ่านออก เขียนได้
และมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่สูงขึ้น
ร่วมทั้งส่งเสริมให้ครูมีความรับผิดชอบโครงการ รวมถึงพัฒนาต้นแบบโครงการ
ให้สามารถสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้หนังสือของเยาวชนไทยอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
คุณประวิช สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายกิจการองค์กรประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เผยว่า
4
ปีที่ได้สนับสนุนโครงการที่เล็งเห็นและให้ความสำคัญของการส่งเสริมให้เด็กไทยตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ
เพราะเป็นรากฐานสำคัญในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการใช้ชีวิต
โดยมีการส่งหน่วยงานลงพื้นที่ทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ
โรงเรียน 210 แห่ง พร้อมทั้งจัดหาหนังสือที่มีประโยชน์พร้อมชั้นวาง
และยังร่วมกับคุณครูบรรณารักษ์จัดตั้งชมรมรักการอ่าน กิจกรรมอ่านกันวันละ
15 นาที เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆ
รู้สึกสนุกและรักการอ่านมากยิ่งขึ้น
ภายในงานได้มีการจัดแสดงตัวอย่างหนังสือสำหรับใช้เพื่อมอบให้กับโรงเรียนในโครงการ
ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือต่างๆ เช่น พระราชนิพนธ์พระราชนิพนธ์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สื่อการเรียนการสอน หนังสือนิทาน
หนังสือความรู้ทั่วไป การ์ตูนเสริมความรู้ การ์ตูนประวัติศาสตร์ ฯลฯ
รวมไปถึงหนังสือสองภาษา นอกจากนี้
ภายในงานยังมีการจัดแสดงผลงานของนักเรียนในโครงการซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ
และการอ่าน
รวมไปถึงความประทับใจจากโครงการส่งความรู้สร้างความสุขในปีที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น