ทนา กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์ร้านอาหารชั้ นนำระดับประเทศ มั่นใจ
HPE เสริมแกร่งโซลูชั่นเซิร์ฟเวอร์ และสตอเรจ รองรับการใช้งานไอทีในองค์กร
บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพีอี ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระดั บโลก เปิดเผยว่า ทางบริษัท ทนา กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ภัตตาคารอาหารญี่ ปุ่น ฟูจิ , ร้านข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น โคโค่ อิฉิบันยะ , ร้านอาหารชอบ นู้ดเดิ้ลแอนไรซ์ และผลิตภัณฑ์ฟูจิชะ กรีนที ได้นำโซลูชั่นอินฟราสตรัคเจอร์ ของ เอชพีอี ทั้งเซิร์ฟเวอร์ และสตอเรจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ บริการลูกค้า
ปัจจุบันธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ( Food & Beverage: F&B) เป็นธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้ เทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามาเพื่ อช่วยเพิ่มประสิทธิ ภาพในการทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการณ์แพร่ ระบาดของโรค Covid-19 ที่ผ่านมา หลายองค์กรได้เริ่ มนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่ อให้ยังคงสามารถดำเนินการได้อย่ างต่อเนื่อง
คุณธีระ วงศ์พัฒนาสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทนา กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ระบบไอที มีความสำคัญกับธุรกิจ F&B มาโดยตลอด แต่ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบกับธุรกิจในกลุ่ มนี้อยู่พอสมควร เริ่มจากในเรื่องของนวั ตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่นในเรื่องของ e-payment ที่มีวิธีการรับชำระเงินในรู ปแบบใหม่เข้ามา ทำให้ธุรกิจต้องมีการปรับตั วตามไป ถัดมาเป็นเรื่องของการแพร่ ระบาดของโรค Covid-19 ทำให้ต้องมีการเชื่ อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับแพลตฟอร์ มของผู้ให้บริการ Delivery platform มากขึ้น
สำหรับบริษัท ทนา กรุ๊ป มีธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารเป็นอี กหนึ่งธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่มีมากกว่า 100 สาขาในประเทศไทย และรวมถึงร้านอาหารที่อยู่ในต่ างประเทศ ระบบไอทีจำเป็นอย่างยิ่งที่เข้ ามามีบทบาทในการรองรับการทำงาน ทั้งในแง่ของการนำมาวิเคราะห์ลู กค้า จัดทำระบบลูกค้าสัมพันธ์ ( CRM) การบริหารจัดการต้นทุนสินค้า รว มถึงการบริหารข้อมูลการขายที่ ในแต่ละเดือนมีมากกว่า 10 ล้านรายการ เป็นต้น
คุณธีระ กล่าวต่อไปว่า ทางบริษัทได้ตัดสินใจเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์จากทางเอชพีอี อันประกอบด้วยโซลูชั่นด้านเซิร์ ฟเวอร์ และสตอเรจ เป็นโซลูชั่นที่นำมาใช้เพื่ อทดแทนของเดิม โดยเฉพาะยิ่งนำมาใช้เพื่อการจั ดการข้อมูลลูกค้าของบริษัทผ่ านทางระบบไอทีขององค์กร
"ข้อดีที่เราตัดสินใจเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ของทางเอชพีอี เป็นเพราะปัจจัยในหลาย ๆ อย่าง นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี ประสิทธิภาพสูงแล้ว ทางเอชพีอียังนำเสนอในส่วนของวิ ธีการบริหารจัดการด้านการเงิ นโดยแทนที่จะเป็นการลงทุนเพี ยงครั้งเดียว ( CAPEX) แต่ปรับเปลี่ยนเป็นแบบทยอยจ่ ายได้ ( OPEX) สามารถแบ่งจ่ายต่อเดือนได้ เป็นการมอบความยืดหยุ่นให้กั บบริษัท รวมถึงการให้บริการที่มีลั กษณะแบบ Proactive มีทีมงานที่พร้อมให้บริ การตลอดเวลา" คุณธีระกล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น