“เอบีม คอนซัลติ้งฯ” เปิดเผยโอกาส – ความเสี่ยง “ธุรกรรมแบบไร้ตัวกลางสำหรับผู้ประกันตน” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

“เอบีม คอนซัลติ้งฯ” เปิดเผยโอกาส – ความเสี่ยง “ธุรกรรมแบบไร้ตัวกลางสำหรับผู้ประกันตน”

  

“เอบีม คอนซัลติ้งฯ” เปิดเผยโอกาส – ความเสี่ยง

“ธุรกรรมแบบไร้ตัวกลางสำหรับผู้ประกันตน”  

 

ในขณะที่ประชาคมโลกกำลังมุ่งสู่การสร้างระบบทุนนิยมแบบใหม่ที่แข็งแรงมั่นคงผ่านการขับเคลื่อนของเทคโนโลยี web3

เอบีมฯ เผยข้อมูล ที่ผู้ประกันตนควรทำความเข้าใจถึงแง่มุมบางประการก่อนนำระบบนี้ไปปรับใช้

 

กรุงเทพฯ, ประเทศไทยอินเตอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการเข้าถึงข้อมูลที่สะดวกและรวดเร็ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายทศวรรษ อินเตอร์เน็ตมีพัฒนาการที่วิวัฒน์จากรูปแบบดั้งเดิมเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยมีแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นตัวกลางควบคุมการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกิดขึ้นผ่านอินเตอร์เน็ต ปรากฎการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างโอกาสให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่า Big Techs เพื่อเก็บ ผูกขาด หรือแม้แต่นำข้อมูลของผู้ใช้ไปใช้อย่างผิด ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงมีการคิดค้นหนทางแก้ปัญหานี้และก่อเกิดแนวคิด web3 หรือเจเนอเรชั่นที่สามของอินเตอร์เน็ตขึ้นมาในปี 2564 พร้อมกับการเติบโตของเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีแนวคิดหลักคือการกำจัดตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำให้ ครีเอเตอร์เป็นเจ้าของคอนเทนต์ดิจิทัลได้โดยไม่มีบุคคลที่สามเข้ามาแทรกแซง

 

ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใด web3 จึงเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากการขยายตลาด ยกตัวอย่างกรณีหนึ่งของการนำเอา web3 มาใช้ได้อย่างโดดเด่นและเป็นที่สนใจอย่างมากคือ DeFi (decentralized finance) หรือธุรกรรมที่ไม่มีตัวกลาง ที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางด้านการเงินเช่นการแลกเปลี่ยนเงินตราหรือธนาคาร วิธีการทำงานของ DeFi คือการใช้ smart contract ที่สร้างสัญญาขึ้นมาโดยอัตโนมัติบนบล็อกเชน โดย DeFi มีข้อดีหลายประการ ตั้งแต่การช่วยลดต้นทุนการจัดการและค่าธรรมเนียมธุรกรรมเพราะไม่ต้องใช้ตัวกลาง รวมทั้งเพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรมเพราะทุกกิจกรรมเกิดขึ้นผ่าน smart contract ที่ทุกฝ่ายสามารถอ้างอิงได้อย่างเปิดเผย นอกจากนี้ DeFi ยังไม่เพียงสามารถใช้กับธุรกรรมทางการเงินแต่ยังสามารถนำไปใช้ในเชิงดิจิทัลได้อีกหลายรูปแบบด้วย

 

การประกัน แบบไม่มีตัวกลางก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการใช้เทคโนโลยี web3 โดยทั่วไปแล้วประกันให้ความคุ้มครองครอบคลุมความเสี่ยงด้านการเงินและสิ่งที่เป็นกายภาพอื่น ๆ เช่น ผู้คนและทรัพย์สิน แต่ประกันแบบไม่มีตัวกลางโดยมากแล้วจะใช้คุ้มครองสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น (เช่น คริปโตที่ซื้อขายกันแบบไม่มีตัวกลาง) และยังจัดการโดยองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ เรียกว่า DAO (Decentralized Autonomous Organization) ที่ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน ในส่วนของกระบวนการเคลม การจ่ายเงินชดเชยของประกันแบบดั้งเดิมทำผ่านผู้ตรวจสอบที่ใช้ระบบหลักของบริษัทประกัน แต่สำหรับประกันแบบไม่มีตัวกลาง การตัดสินใจอนุมัติการเคลมเกิดขึ้นอัตโนมัติโดยโปรแกรมที่ทุกคนสามารถทำธุรกรรมที่เข้าถึงและเข้าใจได้ด้วย smart contract ซึ่งทำให้กระบวนการเคลมเป็นไปอย่างโปร่งใส

 

DeFi มอบทั้งโอกาสและความเสี่ยงสำหรับบริษัทประกันที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วภายใต้มุมมองของ “ตลาด” “โมเดลธุรกิจ” และ “บริการ” ดังนี้

 

การเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ของ “ตลาด” web3 สร้างโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญสำหรับบริษัทประกันที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว แต่ในอีกแง่หนึ่ง บริษัทประกันใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมความคุ้มครองไปถึงสินทรัพย์ DeFi อาจเข้ามาเป็นอีกผู้เล่นหนึ่งในตลาดประกันแบบดั้งเดิม และกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของบริษัทประกันที่ให้บริการอยู่แล้ว ในความเป็นจริงนั้นในตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ DAOs เกิดขึ้นโดยบริษัท องค์กร และบริษัทด้านเทคโนโลยี ที่รวมไปถึงบริษัทประกันด้วย เพื่อสร้างการประกันที่ครอบคลุมความเสี่ยงด้านเกษตรกรรม


จากมุมมองของ “โมเดลธุรกิจ” เงินเดือนและคอมมิชชั่นของพนักงานขายประกันในบริษัทมาจากเบี้ยประกันที่ผู้ถือกรมธรรม์จ่ายเป็นค่าบริการในการดำเนินงาน ซึ่งการประกัน DeFi ได้เปรียบบริษัทประกันในด้านต้นทุน เพราะมีกระบวนการจ่ายเคลมที่เป็นอัตโนมัติจาก smart contract ด้วยเหตุนี้ประกัน DeFi จึงอาจทำให้บริษัทประกันต้องหันมาพิจารณาโมเดลค่าคอมมิชชันของตนใหม่ ซึ่งบริษัทประกันสามารถใช้โมเดลธุรกิจใหม่ช่วยสร้างโอกาสทางการเงินได้มากขึ้นผ่านระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ มากไปกว่านั้นบริษัทยังสามารถสร้างความโปร่งใสในด้านการพิจารณาค่าสินไหมและกฎการดำเนินการที่จะนำไปสู่ความเชื่อใจของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

 

ในส่วนของ “การบริการ” ประกัน DeFi มีการทำงานผ่านบล็อกเชนและ smart contract ทุกคนจึงสามารถซื้อประกันได้ทุกที่ทุกเวลา ผลิตภัณฑ์ด้านประกัน DeFi เริ่มออกมาสู่ตลาดบ้างแล้วและเริ่มสร้างการแข่งขันแบบไร้พรมแดนขึ้น อย่างไรก็ตามการที่บริษัทประกันส่วนใหญ่ยังไม่นำเทคโนโลยี DeFi ไปใช้จะทำให้อยู่ในภาวะเสียเปรียบ มากไปกว่านั้นบริษัทประกันยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินงานด้วยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ และยังสามารถพัฒนาและเปิดตัวบริการใหม่ ๆ ผ่านเทคโนโลยี web3 ได้อีกด้วย

 

แต่ด้วยข้อจำกัดด้านระบบและข้อปฎิบัติต่าง ๆ ที่ยังมีอยู่ การนำเทคโนโลยี DeFi มาใช้ในบริษัทประกันจึงนับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ดังนั้นบริษัทประกันจึงต้องเริ่มก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงด้วยการศึกษาข้อได้เปรียบของประกัน DeFi จากกรณีศึกษาอื่น ๆ และข้อบ่งใช้อย่างถี่ถ้วน และควรเข้าร่วม DAOs ด้วย

 

เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกด้านธุรกิจและดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัทประกันควรพัฒนาบริการใหม่ ๆ จากแนวคิด web3 เหตุเพราะเป็นกลไกที่สามารถช่วยเพิ่มการติดต่อกับลูกค้าได้ กระตุ้นให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างที่ประกันแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำได้ และสร้างบริการที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมได้

 

 

##

 

เกี่ยวกับบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีทีมงานกว่า 6,600 คน ที่ให้บริการลูกค้าทั่วภูมิภาคเอเชีย อเมริกา และยุโรป เปิดให้บริการที่ปรึกษาในประเทศไทยเมื่อปี 2548 บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง  (ประเทศไทย) มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 400 คน ที่ให้บริการลูกค้าด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Business และ Digital Transformation เพื่อช่วยให้บริษัทและองค์กรต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในฐานะพันธมิตรที่สร้างสรรค์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ อุตสาหกรรมและสังคมให้ก้าวสู่การเปลี่ยน

 

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อทางอีเมลที่ contactthailand@abeam.com  หรือเข้าชมเว็บไซต์ของเราเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.abeam.com/th/en

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad