CGTN: ส่องมุมมองผอ.สถาบันคลังสมองจีน ต่อการเปิดประเทศและโลกาภิวัตน์ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

CGTN: ส่องมุมมองผอ.สถาบันคลังสมองจีน ต่อการเปิดประเทศและโลกาภิวัตน์

 

CGTN: ส่องมุมมองผอ.สถาบันคลังสมองจีน

ต่อการเปิดประเทศและโลกาภิวัตน์


ปักกิ่ง9 พ.ย. 2565 /พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

 

ในการรายงานต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (National Congress of the Communist Party of China) ครั้งที่ 20 สี จิ้นผิง เลขาธิการพรรค เน้นคำว่า "เปิดประเทศถึง 29 ครั้ง โดยสีย้ำว่า จีนยึดมั่นในแนวทางที่ถูกต้องของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน ผลักดันความร่วมมือในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี ตลอดจนสนับสนุนการประสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาคระหว่างประเทศ จีนมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับประเทศอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เอื้อต่อการพัฒนา และสร้างแรงผลักดันใหม่ ๆ สำหรับการเติบโตทั่วโลก

 

หวัง ฮุยเย่า ผู้อำนวยการศูนย์จีนและโลกาภิวัตน์ (Center for China and Globalization) กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โลกาภิวัตน์คือความเป็นจริงที่เป็นรูปธรรม เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนอย่างต่อเนื่อง และเป็นแรงผลักดันให้แต่ละคนเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง

 

นายหวังกล่าวว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว เขาเชื่อว่า หากจีนไม่บูรณาการโลกาภิวัตน์เข้ากับการปฏิรูปและการเปิดประเทศ เขาคงพลาดโอกาสรู้จักตัวเองและบรรลุในสิ่งที่ตัวเองเป็น ขณะที่จีนอาจจะยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ไม่ประสบกับความเจริญก้าวหน้าดังเช่นทุกวันนี้ เขากล่าวว่า การศึกษาในต่างประเทศมีส่วนสำคัญในการสร้างค่านิยมตลอดชีวิต ทั้งความรู้และการประกอบอาชีพ ทำให้เขามีทักษะและความรู้ทางวิชาชีพเกี่ยวกับวิธีการทำงานในระดับสากล พร้อมร่วมมือกับผู้คนที่มาจากหลากหลายวัฒนธรรม

 

การรวมจีนเข้ากับระบบของโลกนั้นสร้างประโยชน์มากมาย การเปิดประเทศของจีนได้วางรากฐานสำหรับการบรรเทาความยากจน ตั้งแต่ปี 2521 เป็นต้นมา ชาวจีน 770 ล้านคนในชนบทที่ดำรงชีพอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนสามารถหลุดพ้นจากความยากจน ประเทศบรรลุเป้าหมายการลดความยากจน ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ปี 2573 ของสหประชาชาติ (UN 2030 Agenda for Sustainable Development) ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายถึงหนึ่งทศวรรษ กลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของจีดีพีทั่วโลกมากกว่า 30% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

 

ปัจจุบัน โลกาภิวัตน์เผชิญกับความท้าทายมากมาย ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคระบาด ตลอดจนปัญหาซับซ้อนทั้งหมดที่ฝังอยู่ในกระบวนการของโลกาภิวัตน์ ได้กลายเป็นแรงต่อต้านมหาศาล บางคนกล่าวหาจีนว่าเป็นผู้ทำลายระเบียบโลก

 

แต่ข้อมูลสถิติแสดงเรื่องราวที่แตกต่าง จีนเป็นประเทศที่สนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติรายใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (P5) นอกจากนี้ นับตั้งแต่เข้าร่วมองค์การการค้าโลก จีนได้ผ่อนคลายการเข้าถึงตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และลดระดับภาษีนำเข้าโดยรวมจาก 15.3% มาอยู่ที่ 7.4% ซึ่งเป็นไปตามข้อผูกพันการเข้าเป็นสมาชิก WTO อีกทั้งจีนยังมีบทบาทในสถาบันพหุภาคี เช่น กลุ่มประเทศ BRICS และองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้

 

รายงานการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 เน้นย้ำหลายครั้งว่า ประตูของจีนจะเปิดกว้างขึ้นและกว้างขึ้น และจีนจะยังคงส่งเสริมโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งนายหวังเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า จีนจะเดินหน้าสนับสนุนการเปิดประเทศและโลกาภิวัตน์ต่อไป

 

https://news.cgtn.com/news/2022-11-07/Openness-enables-us-to-move-forward-1ex0zIbKRvG/index.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad