ทีเอ็มบีธนชาต เชิญกูรูแนะเคล็ดลับวางแผนเพื่อการลดหย่อนภาษี เปิดทุกแง่มุมที่ควรรู้แบบเจาะลึก ผ่านสัมมนา “วางแผนภาษี Unseen ไม่มีกั๊ก” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ทีเอ็มบีธนชาต เชิญกูรูแนะเคล็ดลับวางแผนเพื่อการลดหย่อนภาษี เปิดทุกแง่มุมที่ควรรู้แบบเจาะลึก ผ่านสัมมนา “วางแผนภาษี Unseen ไม่มีกั๊ก”

ทีเอ็มบีธนชาต เชิญกูรูแนะเคล็ดลับวางแผนเพื่อการลดหย่อนภาษี เปิดทุกแง่มุมที่ควรรู้แบบเจาะลึก ผ่านสัมมนา “วางแผนภาษี Unseen ไม่มีกั๊ก”

ทีเอ็มบีธนชาต เชิญกูรูแนะเคล็ดลับวางแผนเพื่อการลดหย่อนภาษี  

เปิดทุกแง่มุมที่ควรรู้แบบเจาะลึก ผ่านสัมมนา “วางแผนภาษี Unseen ไม่มีกั๊ก” 

 

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จับมือพันธมิตร Amundi Asset Management และ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานสัมมนา “วางแผนภาษี Unseen ไม่มีกั๊ก” เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน 2 เพจดัง “พรี่หนอม - ถนอม เกตุเอม” จากเพจ TaxBugnom และ “จักรกฤษณ์ กิจการรัฐบุตร” จากเพจ Money Buffalo พร้อมด้วย “บดินทร์ พุทธอินทร์” ผู้อำนวยการผ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) และ “กัมปนาท โอมฤก” นักกลยุทธ์ด้านการลงทุน ทีทีบี มาร่วมกันเปิดทุกแง่มุมที่น่าสนใจ พร้อมเผยเคล็ดลับวางแผนภาษีให้เหมาะสม ด้วยการลงทุนเพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในอนาคต  

 

นางสาวอรทัย สิงหอุดมชัย หัวหน้าผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า ทีทีบี มีความมุ่งมั่นให้คนไทยมีความรู้เรื่องของการเงินและมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น และปฏิเสธไม่ได้ว่าการวางแผนลดหย่อนภาษี จะสามารถช่วยให้มีเงินเก็บมากขึ้น หากนำเงินนั้นมาลงทุนในกองทุนรวมก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ และมีเงินเก็บซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทางการเงินที่ดีในอนาคต ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึงได้ร่วมกับพันธมิตร Amundi Asset Management และ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนา “วางแผนภาษี Unseen ไม่มีกั๊ก” ขึ้น โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเปิดทุกแง่มุม พร้อมแนะเคล็ดลับในการวางแผนภาษีให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยเริ่มต้นวางแผนภาษีจะได้เริ่มต้นอย่างถูกต้อง ส่วนนักลงทุนก็สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการวางแผนการลงทุนกับตนเองได้ง่ายขึ้น  

 

นางสาวปนัดดา ตัณฑ์ชาญชีวินรองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายช่องทางการจัดจำหน่ายและธนบดีธนกิจ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นปีที่ไม่ง่ายเลย ดังนั้น การวางแผนการลงทุนจึงนับเป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ การวางแผนภาษี เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แต่ผู้มีรายได้ก็ต้องมีหน้าที่เสียภาษี โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน ซึ่งปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ช่องทางเท่านั้นที่จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน SSF และ กองทุน RMF รวมไปถึงประกันชีวิต ซึ่งงานสัมมนาในครั้งนี้มีเป้าหมายให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถนำข้อมูลความรู้ที่ได้ไปปรับพอร์ตในเรื่องของการวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสม  

 

วางแผนภาษี Unseen ...ทุกเม็ด ไม่มีกั๊ก 

นายถนอม เกตุเอม หรือ พรี่หนอม จากเพจ TaxBugnom กล่าวว่า ในปีนี้เป็นปีที่จะต้องวางแผนภาษีและบริหารจัดการเงินอย่างเหมาะสม ในความเป็นจริงแล้วการวางแผนการลดหย่อนภาษีควรเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีจะดีกว่าช่วงปลายปี นอกจากนี้ กฎระเบียบใหม่ของสรรพากรที่ให้ทาง บลจ. ส่งข้อมูลตรงให้กับทางสรรพากรนั้น ยังคงต้องขอความยินยอมจากลูกค้าก่อน แต่เชื่อว่าในปีหน้าน่าจะเห็นข้อมูลส่วนนี้ในระบบ เช่นเดียวกันกับรูปแบบของเงินบริจาค และในระยะยาวจะไม่ต้องเก็บใบหลักฐานเนื่องจากข้อมูลได้ถูกส่งไปในระบบแล้ว สิ่งสำคัญ คือ การวางแผนและทำความเข้าใจทั้งเรื่องของภาษีและการบริหารพอร์ตการลงทุน เมื่อเลือกซื้อกองทุนใดก็ตามให้มองอีกมุมว่าซื้อไปแล้วได้อะไร เหมาะสมกับเราหรือไม่ ได้ผลตอบแทนที่ต้องการหรือไม่ เพราะควรได้มากกว่าการลดหย่อนภาษี เลือกวางแผนการลงทุนในสิ่งที่เหมาะสมกับเป้าหมายชีวิตของเรามากที่สุด ซึ่งอาจต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นคนข้างหลัง หรือ คนที่เราต้องรับผิดชอบชีวิตในอนาคตด้วยเช่นเดียวกัน  

 

วางแผนภาษีด้วยกองทุน เริ่มต้นได้...ง่ายนิดเดียว  

นายจักรกฤษณ์ กิจการรัฐบุตร จากเพจ Money Buffalo กล่าวว่า การวางแผนในเรื่องของกองทุนมีข้อได้เปรียบอย่างไรเมื่อเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่น โดยส่วนตัวแล้วมองว่ากองทุนมีประโยชน์ในแง่ของเงื่อนไขภาษีของกองทุน ซึ่งเป็นเงื่อนไขระยะยาว หากเรามีงบจำกัดและต้องเลือกว่าจะลดหย่อนภาษีด้วยรูปแบบใดนั้น ถ้ามองในแง่ผลตอบแทนอย่างเดียวกองทุนดูมีเสน่ห์ แต่ประกันชีวิตมีในเรื่องของความคุ้มครองที่กองทุนให้ไม่ได้ ดังนั้น หันกลับมามองเป้าหมายการเงินว่าต้องการสิ่งใด ถ้าอยากได้ในเรื่องของผลตอบแทน มองว่า กองทุนสามารถตอบโจทย์ได้ แต่ถ้ามองในเรื่องของผลตอบแทนและความคุ้มครองแล้ว ประกันชีวิตก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นเดียวกันและตอบโจทย์มากกว่า ส่วนวิธีการเลือกกองทุนนั้น ไม่มีกองทุนใดที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด แนะนำว่าให้กระจายการลงทุน และเอาผลค่าเฉลี่ยออกมาจะได้ค่าเฉลี่ยที่อยู่ตรงกลาง โดยอาจมองหากองทุนที่มีนโยบายที่ดีช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของการลงทุนได้ ซึ่งกองทุนที่ดีจะมีการลงทุนที่สม่ำเสมอและสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ ส่วนเป้าหมายก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ หากมีความรู้ความเข้าใจการลงทุนในระยะยาวก็สามารถตอบโจทย์การลงทุนที่เหมาะกับตัวเองได้  

 

กองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษี แบบลงทุนง่าย...สบายใจ 

นายกัมปนาท โอมฤก นักกลยุทธ์การลงทุน ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี  กล่าวว่า หากประเมินภาพรวมการลงทุนในปีนี้นับเป็นปีที่ปราบเซียน ปัญหาที่นักลงทุนมือใหม่เจอ คือ มีกองทุนให้เลือกหลากหลายในตลาด แต่ไม่ทราบว่าจะลงทุนแบบใด สิ่งสำคัญ คือ การทำ Asset Allocation เนื่องจาก เราไม่สามารถที่จะลงทุนในสินทรัพย์เดียวและสินทรัพย์นั้นจะดีที่สุดไปตลอด ทุกสินทรัพย์มีความผันผวน ซึ่งธนาคารมีกองทุน ttb smart port(TSP) ที่มาพร้อมกลยุทธ์ “คัด” คัดกองทุนทั่วโลกเข้ามาในพอร์ตให้เรา “จัด” จัดความเสี่ยงของแต่ละกองให้เหมาะกับความเสี่ยงของนักลงทุน “ปรับ” ปรับสัดส่วนการลงทุนกับกองทุนให้เข้ากับสภาวะตลาด ซึ่งเป็นผู้ช่วยให้สามารถบริหารจัดการเงินภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเสี่ยงในการลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้อยากให้มองกองทุนหุ้นโลก ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้มากก็สามารถเลือกกองทุนตราสารหนี้โลก ซึ่งมีการกระจายความเสี่ยงได้ สิ่งสำคัญ คือ การจับจังหวะตลาด รวมถึงการจัดพอร์ต ซึ่งถือเป็นเข็มทิศของการลงทุน ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงก็ตาม ให้คงสัดส่วนการลงทุนตรงนี้ไว้ ปัจจุบันตลาดเริ่มทรงตัวไม่ลงต่ำไปกว่าเดิม โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ตลาดปรับลงมา 33% และปัจจุบันอยู่ที่ 26% - 27% สุดท้ายสิ่งที่อยากฝาก ไม่ว่าจะมองในเรื่องของการวางแผนเพื่อการลดหย่อนภาษีหรือในเรื่องของการลงทุน การวางแผนการจัดพอร์ตการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญมาก 

  

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ขอแนะนำ ทีทีบี สมาร์ทพอร์ต เพื่อการลดหย่อนภาษี (SSF) จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ โดยประกอบด้วย 5 โมเดลให้เลือก ได้แก่ ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ (tsp1-preserver-SSF ลงทุนตราสารหนี้ 100%) ผู้ที่รับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น (tsp2-nurturer-SSF ลงทุนตราสารหนี้ประมาณ 80% หุ้น 20%) ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง (tsp3-balancer-SSF ลงทุนตราสารหนี้ประมาณ 50% มีหุ้น 50%) และผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง (tsp4-explorer-SSF ลงทุนตราสารหนี้ประมาณ 30% หุ้น 70%) และผู้รับความเสี่ยงได้สูงมาก (tsp5-gogetter-SSF ลงทุนหุ้นประมาณ 100%)  

 

เนื่องด้วยปีภาษี 2565 กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้ลงทุนในกองทุน RMF และ SSF ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีกองทุน SSF และ RMF ต้องแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้ บลจ. ที่ซื้อหน่วยลงทุนทราบ โดยหากไม่แจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิลดหย่อน ผู้ลงทุนจะเสียสิทธิในการลดหย่อนภาษี SSF / RMF ในปี 2565 โดยเมื่อ บลจ. ได้รับแจ้งจากผู้ลงทุนในเรื่องดังกล่าวแล้ว บลจ. จะนำส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรต่อไป สำหรับผู้ลงทุนที่ซื้อกองทุนรวม SSF/RMF ผ่านธนาคาร สามารถแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิลดหย่อนผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยสามารถลงทะเบียนภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.ttbbank.com/mutual-funds/tax-amc 

 

ชมงานสัมมนา “วางแผนภาษี Unseen ไม่มีกั๊ก” ย้อนหลังได้ทาง https://www.ttbbank.com/taxunseen 

หรือสนใจเริ่มลงทุน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา หรือ ttb investment line โทร.1428 กด #4 ทุกวันจันทร์ วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9:00 - 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร) 

 

* * * * * * 

#ttbsmartport 

#ให้ชีวิตการเงินดีทั้งวันนี้และอนาคต 

#เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น #ttb #MakeREALChange 

* * * * * * 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad