ลอนจี เผยแพร่รายงานทางการเงินปี 2565 และไตรมาส 1 ปี 2566 - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ลอนจี เผยแพร่รายงานทางการเงินปี 2565 และไตรมาส 1 ปี 2566

LONGi ranks again on the BNEF Tier 1 list for Q1 2023 with its PV modules recognized by the industry

ลอนจี เผยแพร่รายงานทางการเงินปี 2565 และไตรมาส ปี 2566

รายได้ปี 2565 อยู่ที่ 1.28998 แสนล้านหยวน นับเป็นครั้งแรกที่ทะลุระดับ แสนล้านหยวน

กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 1.4812 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 63.02% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ลอนจีคาดการณ์ว่ารายได้ปี 2566 จะสูงกว่า 1.6 แสนล้านหยวน

ซีอานจีน/พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็

ลอนจี กรีน เอเนอร์จี เทคโนโลยี (LONGi Green Energy Technology) บริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำระดับโลก เผยแพร่รายงานทางการเงินประจำปี 2565 และไตรมาส ปี 2566 โดยบริษัทมีรายได้ 1.28998 แสนล้านหยวนในปี 2565 เพิ่มขึ้น 60.03% เมื่อเทียบเป็นรายปี และนับเป็นครั้งแรกที่รายได้ต่อปีของลอนจีอยู่เหนือระดับ แสนล้านหยวน

ส่วนในช่วงไตรมาส ปี 2566 นั้น ลอนจีมีรายได้ 2.8319 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 52.35% เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ ลอนจียังคาดการณ์ว่ารายได้ปี 2566 จะสูงกว่าระดับ 1.6 แสนล้านหยวน

ด้านกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2565 อยู่ที่ 1.4812 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 63.02% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นหลังหักกำไรและขาดทุนที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ (non-recurring gains and losses) อยู่ที่ 1.4414 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 63.31% เมื่อเทียบเป็นรายปี

รายงานยังเผยให้เห็นว่า ในปี 2565 ลอนจีผลิตแผ่นเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนได้รวม 85.06 กิกะวัตต์ ประกอบด้วย 42.52 กิกะวัตต์สำหรับส่งขายภายนอก และ 42.54 กิกะวัตต์สำหรับใช้งานภายใน โดยรั้งอันดับ ในการจัดส่งแผ่นเวเฟอร์ทั่วโลกเป็นปีที่ ติดต่อกัน นอกจากนี้ ในปี 2565 ลอนจียังผลิตโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนได้ 46.76 กิกะวัตต์ ประกอบด้วย 46.08 กิกะวัตต์สำหรับส่งขายภายนอก และ 0.68 กิกะวัตต์สำหรับใช้งานภายใน โดยรั้งอันดับ ในการจัดส่งโมดูลทั่วโลก และครองส่วนแบ่งตลาดโลกสูงสุดเป็นปีที่ ติดต่อกัน 

ในช่วงเวลาที่รายงานนั้น กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานของลอนจีอยู่ที่ 2.437 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 97.77% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่กองทุนการเงินของบริษัทอยู่ที่ 5.4372 หมื่นล้านหยวน คิดเป็น 38.96% ของสินทรัพย์ทั้งหมด และเพิ่มขึ้น 86.38% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ในปี 2563, 2564 และ 2565 อัตราส่วนสินทรัพย์-หนี้สินของลอนจีอยู่ที่ 59.38%, 51.31% และ 55.39% ตามลำดับ โดยบริษัทยึดมั่นในหลักปรัชญาการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและรักษาอัตราส่วนสินทรัพย์-หนี้สินที่เหมาะสมมาตลอด ขณะที่ผลตอบแทนจากสินทรัพย์สุทธิถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 27.23%, 21.45% และ 26.95% ตามลำดับ

นับตั้งแต่เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในปี 2555 จนถึงเดือนกันยายน 2565 ลอนจีได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาไปแล้วกว่า 1.8 หมื่นล้านหยวน โดย ณ สิ้นปี 2565 บริษัทได้รับสิทธิบัตร 2,132 ฉบับ ปัจจุบัน ลอนจีมีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนารวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีรวมทั้งสิ้น 4,036 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 6.66% ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก

ในช่วงเวลาที่รายงานนั้น ลอนจีได้สร้างสถิติใหม่ระดับโลกในด้านประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์แบบซิลิคอนเฮเทอโรจังก์ชัน (HJT) ชนิดพีไทป์ (p-type) ที่ระดับ 26.81% ซึ่งผ่านการรับรองโดยสถาบันวิจัยพลังงานแสงอาทิตย์เมืองฮาเมลน์ (Institut für Solarenergieforschung in Hameln หรือ ISFH) ประเทศเยอรมนี ขณะที่ประสิทธิภาพสูงสุดของโมดูลซีรีส์ Hi-MO 6 ที่ผลิตในปริมาณมากก็สูงกว่า 23.2% นอกจากนี้ ลอนจียังมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในส่วนของการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงระดับอุตสาหกรรม การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโมดูลด้วยตนเอง และการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ความสำเร็จมากมาย

ณ สิ้นปี 2565 กำลังการผลิตแผ่นเวเฟอร์ เซลล์ และโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนของลอนจี เพิ่มขึ้นเป็น 133 กิกะวัตต์, 50 กิกะวัตต์ และ 85 กิกะวัตต์ตามลำดับ

รายงานดังกล่าวยังเผยให้เห็นว่า ลอนจีได้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและพัฒนาการผลิตอัจฉริยะอย่างรวดเร็ว โดยการเปลี่ยนแปลงและอัปเกรดหน่วยการผลิตและสายการผลิตส่งผลให้บริษัทสามารถลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้ ลอนจีได้ประกาศเป้าหมายสำหรับปี 2566 โดยคาดว่ากำลังการผลิตแผ่นเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 190 กิกะวัตต์ เซลล์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 110 กิกะวัตต์ และโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 130 กิกะวัตต์

ในส่วนของการจัดส่งสินค้านั้น ลอนจีคาดว่าจะจัดส่งแผ่นเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนได้ 130 กิกะวัตต์ (รวมการใช้งานภายใน) และโมดูลโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน 85 กิกะวัตต์ (รวมการใช้งานภายใน)

ลอนจีระบุว่า บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงด้วยการสร้างความมั่นใจในการจัดส่งสินค้า นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินการเชิงรุกเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตและผลผลิตวัสดุซิลิคอน ส่งผลให้ราคาวัสดุซิลิคอนในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกลับสู่ระดับปกติ และบริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2566 นี้

สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น ลอนจีได้เพิ่มการลงทุนรวมถึงเร่งก่อสร้างและอัปเกรดสายการผลิตประสิทธิภาพสูงในจีน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นของลูกค้า ขณะเดียวกัน บริษัทยังเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มการลงทุนในฐานการผลิตที่เมืองกูชิง ประเทศมาเลเซีย และการอัปเกรดฐานการผลิตในประเทศเวียดนามให้เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ บริษัทกำลังเดินหน้ายกระดับความสามารถในการผลิตและการดำเนินงานในระดับสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดนอกประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับลอนจี

ลอนจี (LONGi) ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 โดยมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลก ลอนจีมุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณค่าโดยมีความต้องการของลูกค้าเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเต็มรูปแบบ

พันธกิจของลอนจีคือ "การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างโลกสีเขียว" บริษัทอุทิศตนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยได้ก่อตั้งธุรกิจขึ้นมาห้าภาคส่วน ประกอบด้วยเซลล์และโมดูลเวเฟอร์โมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายศูนย์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม โซลูชันพลังงานสีเขียว และอุปกรณ์ไฮโดรเจน ทั้งนี้ บริษัทได้ขยายขีดความสามารถในการจัดหาพลังงานสีเขียวอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้นำโซลูชันและผลิตภัณฑ์ไฮโดรเจนสีเขียวมาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.longi.com/en

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad