เตือนภัยสุขภาพ“โรยเกลือใส่ในกาแฟ” เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

เตือนภัยสุขภาพ“โรยเกลือใส่ในกาแฟ” เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย

%E0%B8%A3%E0%B8%A8.%E0%B8%99%E0%B8%9E.%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C

เตือนภัยสุขภาพ“โรยเกลือใส่ในกาแฟ”

เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย

                                                                                                                                                                                     โดย รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม

กลายเป็นกระแสทางโซเชียลมีเดีย เทรนด์ใหม่มาแรง สำหรับการรับประทานกาแฟ ในลักษณะ“โรย

เกลือใส่ในกาแฟ ซึ่งเป็นไวรัลเป็นทางเลือกใหม่ของนักชิม โดย รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม ได้ให้คำแนะนำว่า ถ้าดื่มเป็นประจำจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพ ที่กังวลที่สุด คือ หากกะปริมาณเกลือด้วยมือ โดยไม่ใช้ช้อนตวงเกลือที่โรย หยิบมือ อาจมีปริมาณสูงถึง 0.5-1 กรัม คิดเป็นโซเดียม 200-400 มิลลิกรัมได้เลย ซึ่งคนไทยควรบริโภคเกลือไม่เกิน 5 กรัมต่อวัน (โซเดียม 2,000 มิลลิกรัม) แต่จากการสำรวจพบว่า คนไทยบริโภคเกลือเฉลี่ย 9.1 กรัมต่อวัน (โซเดียม 3,600 มิลลิกรัม) ซึ่งสูงเกือบ 2 เท่า ของที่ร่างกายควรได้รับ โดยส่วนใหญ่ได้รับโซเดียมมาจากการเติมเครื่องปรุงรสระหว่างการประกอบอาหาร อาหารพร้อมบริโภค อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยว

        อย่างไรก็ตามหากรับประทานเกลือที่อยู่ในกาแฟในปริมาณ 200 ถึง 400 กรัม คิดเป็น 10-20% ของความต้องการปริมาณโซเดียมแต่ละวัน ผู้บริโภคจึงควรมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการลิ้นเปลี่ยนรสชาติ หรือบางครั้งเกลืออาจทำให้รสชาติขมน้อยลง แต่ก็จะกลบความเข้มและรสชาดดั้งเดิมของกาแฟที่คอกาแฟเคยชื่นชอบ

%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD


รศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าวว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีทั้งรสชาติหวานและเค็มมากเป็นประจำ นอกจากจะทำให้หน้าบวม ขาบวม ยังเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งนำไปสู่โรคไต โรคหัวใจและอัมพาตได้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต จะทำให้โรคกำเริบได้

คนปกติก็ไม่ควรได้โซเดียมจากเครื่องดื่มเพราะปกติเราได้โซเดียมจากอาหารหลักมากเกินพออยู่แล้ว และสถานการณ์การกินโซเดียมเกินของคนไทยเกือบ เท่า เราต้องช่วยกันรณรงค์ให้กินหวานและเค็มลดลง การขายสินค้าควรตั้งอยู่บนพื้นฐานด้านสุขภาพของผู้บริโภคด้วย และไม่ควรสร้างแบบอย่างที่อันตรายสำหรับคนรุ่นใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad