ททท. จับมือ VISA ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศในปีท่องเที่ยวไทย 2566 ผ่านโครงการ Health and Wellness Tourism และ Amazing Thailand Grand Sale - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ททท. จับมือ VISA ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศในปีท่องเที่ยวไทย 2566 ผ่านโครงการ Health and Wellness Tourism และ Amazing Thailand Grand Sale

ททท. จับมือ VISA ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศในปีท่องเที่ยวไทย 2566 ผ่านโครงการ Health and Wellness Tourism และ Amazing Thailand Grand Sale 

บ่ายนี้ (26 พฤษภาคม 2566) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และบริษัท Visa Worldwide Pte. Ltd โดย นางแดเนียล จิน หัวหน้าฝ่ายการตลาด วีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศในปีท่องเที่ยวไทย 2566 (Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters) โดยมี นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว และผู้บริหาร ททท. ให้เกียรติร่วมงาน ณ ห้องประชุมจารุวัสตร์   ชั้น 10 อาคาร ททท.

ยุทธศักดิ์ สุภสร

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตามที่ ททท. ขานรับนโยบายของรัฐบาลในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น และได้ดำเนินการการส่งเสริม “ปีท่องเที่ยวไทย 2566” หรือ “Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้ฟื้นตัวทั้งเชิงคุณภาพและบรรลุเป้าหมายเชิงรายได้มากกว่าเชิงปริมาณ โดย ททท. ตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2566 ให้กลับมาในอัตราร้อยละ 80 ของปี 2562 คาดว่าจะมีรายได้รวมสูงสุดอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท จากสัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 - 30 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ จากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ปัจจัยความคุ้มค่าและคุณภาพของสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้และนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง นิยมการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เยี่ยมญาติ/ครอบครัว และชอปปิง ซึ่งกิจกรรมด้านการชอปปิงเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ และสามารถช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผู้คนยังหันมารักสุขภาพตัวเองมากขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Health & Wellness Tourism ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และนักท่องเที่ยวมีความต้องการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ คาดหวังการได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า แรงบันดาลใจ และค้นหาตัวตนผ่านการออกเดินทางท่องเที่ยวด้วย 

ในการนี้ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการตาม Value Chain รวมถึง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ททท. จึงร่วมกับ วีซ่า จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศในปีท่องเที่ยวไทย 2566 ระยะเวลา 1 ปี ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยวดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness) ในกลุ่มตลาดระยะใกล้ โดยมีกรอบความร่วมมือ 4 หัวข้อ ประกอบด้วย 1) CO-Event จัดงานและพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวร่วมกันผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่ Amazing Thailand Grand Sale (ATGS) เพื่อส่งเสริมการชอปปิงและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย และยังส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 5 ของเมืองท่องเที่ยวด้านการชอปปิง และ Health & Wellness Tourism ในช่วงเดือนมีนาคม-กันยายน 2566 2) CO-Communication ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวควบคู่กับ Soft Power (5F) เพื่อสร้างความรับรู้เจาะกลุ่มเป้าหมายให้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย 3) CO-Increase Number of Tourist กระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดศักยภาพที่มีอัตราฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มประเทศระยะใกล้ อาทิ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร OTA และสายการบิน และ 4. Value Added by VISA เพิ่มโอกาสทางการตลาดเแก่ผู้ประกอบการในโครงการฯ และเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถือครองบัตร VISA เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

แดเนียล จิน

นางแดเนียล จิน หัวหน้าฝ่ายการตลาด วีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "ปีนี้ เราได้เห็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่กลับมาเยือนประเทศไทยมากขึ้น และจากพื้นฐานความสัมพันธ์อันดีที่เราได้ร่วมสร้างตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา เราตื่นเต้นที่จะได้สนับสนุน ททท. ในการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมด้านข้อมูล ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลกของวีซ่าในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ และขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการช่วยผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไปข้างหน้า และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว"

 ทั้งนี้ จากรายงานด้านธุรกิจและเศรษฐกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั่วโลกของวีซ่าชี้ให้เห็นว่า ในปี 2565 กรุงเทพมหานคร เป็นจุดหมายปลายทางหลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายที่ร้านค้าและร้านอาหารฟื้นตัวขึ้นจากปี 2562 มากขึ้นถึงร้อยละ 113 และ ร้อยละ 74 ตามลำดับ ถือเป็นแนวโน้มและสัญญาณที่ดีในการกระตุ้นค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวผ่านความร่วมมือนี้ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ตามเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี 2566 ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad