อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ด้วยการบริหารที่มุ่งยกระดับรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการระดับโลก - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565

อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ด้วยการบริหารที่มุ่งยกระดับรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการระดับโลก

อินโดรามา เวนเจอร์ส รายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสที่ ปี 2565 ด้วยการบริหารที่มุ่งยกระดับรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการระดับโลก

ไฮไลท์ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ปี 2565

รายได้ 5,451 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 เมื่อเทียบปีต่อปี

Reported EBITDA 1,010 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นร้อยละ 83 เมื่อเทียบปีต่อปี

กำไรสุทธิ 20.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นร้อยละ 143 เมื่อเทียบปีต่อปี

Reported EPS 3.58 บาท (12 เดือนสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ปี 2565: 8.11 บาท) และ Core EPS 2.32 บาท (12 เดือนสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ปี 2565: 6.16 บาท)

 

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 10 สิงหาคม 2565 – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือไอวีแอล ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ ปี 2565 ด้วยรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการระดับโลกที่ยังคงได้รับอานิสงค์อย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และทีมผู้บริหารสามารถรับมือกับปัจจัยหยุดชะงักของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไอวีแอลรายงาน Core EBITDA 758 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และเพิ่มขึ้นร้อยละ 59 เมื่อเทียบปีต่อปี รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 11 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสโดยอ้างอิงจากธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มี Core EBITDA margin ร้อยละ 14 นอกจากนี้ ปัจจัยเกื้อหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งและกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นช่วยชดเชยภาระต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ในขณะที่ทีมผู้บริหารได้ยกระดับตำแหน่งผู้นำของบริษัทฯ ทั้งในตลาดท้องถิ่นและภูมิภาค เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ แม้ในสถานการณ์ที่การปรับตัวของราคาน้ำมันดิบส่งผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ

ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ ส่งเสริมกำไรของบริษัทฯ ที่สร้างประวัติการณ์ไว้ในปี 2564 ด้วยบริษัทฯ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มของผู้บริโภคระดับมหภาคในระยะยาว ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของไอวีแอล ถูกใช้ในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน และมีความยืดหยุ่นต่ออุปสรรคทางเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยเสถียรภาพที่เกิดขึ้นจากลักษณะผลิตภัณฑ์นี้ ส่งผลให้ทีมผู้บริหารสามารถมุ่งเน้นกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวของบริษัทฯ ที่ต้องการพัฒนาตำแหน่งความเป็นผู้นำระดับโลกที่มีความเฉพาะตัวตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าปิโตรเคมีแบบบูรณาการ ตัวอย่างเช่น การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ในละตินอเมริกาและเวียดนามในไตรมาสที่ ซึ่งส่งผลให้ไอวีแอลมีการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 12

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า ไอวีแอลเป็นผู้นำตลาดของแต่ละพื้นที่ธุรกิจหลักของเราในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีโอกาสการเติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง อย่างที่ได้แสดงให้เห็นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักว่าคุณสมบัติเฉพาะของรูปแบบการดำเนินธุรกิจระดับโลกของเรามีความยืดหยุ่นและเติบโตได้ดี ทำให้เราสามารถมุ่งเน้นแผนงานระยะยาวของเรา ในขณะเดียวกันก็สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดในระยะสั้นได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่ยังมีผลต่อเนื่องมาในปี 2565 สิ่งเหล่านี้ประกอบกับการให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องต่อการบริหารจัดการต้นทุน ตลอดจนการปรับเปลี่ยนองค์กรด้านต่างๆ อย่าง โครงการ Olympus ช่วยให้เราสามารถพัฒนาผลการดำเนินงานของเราในไตรมาสที่ ได้

กลุ่มธุรกิจ Combined PET ซึ่งใหญ่ที่สุดในสามกลุ่มธุรกิจของไอวีแอล รายงาน Core EBITDA อันแข็งแกร่ง จำนวน 431 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบปีต่อปี และลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ด้วยกำไรที่มีสัดส่วนสูงอันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งตามฤดูกาล ข้อจำกัดต่างๆ ของห่วงโซ่อุปทาน และความฝืดตัวของตลาดโดยรวม รายได้จากการขยายเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสโดยอ้างอิงจากธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้ว ในเดือนเมษายน บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการ Ngoc Nghia Industry ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุภัณฑ์ PET ชั้นนำในประเทศเวียดนาม ช่วยขยายการให้บริการผลิตภัณฑ์แบบบูรณการของไอวีแอลต่อลูกค้าทั่วทั้งเอเซีย

กลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides and Derivatives (IOD) มี Core EBITDA 250 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 98 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรสมาส และเพิ่มขึ้นร้อยละ 152 เมื่อเทียบปีต่อปี ความแข็งแกร่งในตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์ดูแลบ้าน ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และโซลูชั่นสำหรับพืชผลทางการเกษตร ช่วยผลักดันกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลายน้ำแบบบูรณาการของกลุ่มธุรกิจ IOD ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์กลางน้ำแบบบูรณาการมีอุปสรรคจากกำไรของการผลิตเอทิลีนที่ลดลง กำไรของการผลิต MEG แบบบูรณาการที่น้อยเป็นประวัติการณ์ และการหยุดดำเนินการเพื่อปรับปรุงตามแผนงานของหน่วยผลิต EO สองแห่ง อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการ Oxiteno ซึ่งมีสำนักงานหลักอยู่ในบราซิลเมื่อเดือนเมษายน ช่วยเพิ่ม Core EBITDA จำนวน 85 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่ไอวีแอลในไตรมาสที่ เนื่องด้วยอุปสงค์จำนวนมากต่อผลิตภัณฑ์สารลดแรงตึงผิว และความสามารถของทีมผู้บริหารในการส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

กลุ่มธุรกิจ Fibers รายงาน Core EBITDA 55 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 35 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบปีต่อปี เนื่องจากการขายลดลงร้อยละ 11 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส กลุ่มธุรกิจได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lifestyle ท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศจีน ในขณะที่อัตราขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจำกัดการส่งออก สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hygiene ได้รับผลกระทบด้านปริมาณจากฐานการผลิตของบริษัท Agvol ในประเทศรัสเซีย ประกอบกับราคาพอลิโพรไพลีนที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ความแข็งแกร่งของตลาดยางสำหรับเปลี่ยนทดแทนมีส่วนช่วยชดเชยการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลกระกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mobility คงตัว

 

# # #



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad