ฮิตาชิเปิดโฉม IoTแพลตฟอร์ม“Lumada” และโซลูชั่นส์ดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายทางสังคมในประเทศไทย - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

ฮิตาชิเปิดโฉม IoTแพลตฟอร์ม“Lumada” และโซลูชั่นส์ดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายทางสังคมในประเทศไทย

นายโตชิอากิ ฮิกะชิฮาระ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิตาชิ จำกัด

ฮิตาชิเปิดโฉม IoTแพลตฟอร์ม“Lumada” และโซลูชั่นส์ดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายทางสังคมในประเทศไทย

Hitachi_SCG_MOU

ภาพบรรยากาศงานนิทรรศการ Hitachi Social Innovation Forum 2018 Bangkok

กรุงเทพฯ 18 กันยายน พ.ศ.2561
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (TSE: 6501, “Hitachi”)และ บริษัท ฮิตาชิ เอเซีย จำกัด จัดแสดงนวัตกรรมอัจฉริยะ รวมถึงIoTแพลตฟอร์มจากฮิตาชิ “Lumada” ในงานประชุมนวัตกรรมเพื่อสังคมของฮิตาชิ (Hitachi Social Innovation Forum – HSIF) 2561 ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 3 ที่ กรุงเทพฯ โดยงานประชุมนี้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการสร้างโซลูชั่นส์ดิจิทัลให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย

ภายใต้แนวคิดหลัก “Illuminating Thailand 4.0” งานประชุมยังมีการนำเสนอที่เจาะลึกของ โซลูชั่นส์จากศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งใหม่ (“ศูนย์ Lumada”) ซึ่งสามารถสนับสนุนโรงงานอัจฉริยะ ระบบลอจิสติกส์ และนวัตกรรมการดูแลสุขภาพแก่ลูกค้าทั่วประเทศ งานประชุมที่มีระยะเวลาหนึ่งวันมีเวทีสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโซลูชั่นส์ที่ช่วยเสริมสร้างการเติบโตของเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

นอกจากการนำเสนอจากผู้นำทางความคิดชั้นนำทั้งจากภาครัฐและเอกชน งานประชุมนวัตกรรมทางสังคมของฮิตาชิ หรือ HSIF ครั้งนี้ ยังจัดแสดงโซลูชั่นส์จากศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งแรก รวมทั้งโซลูชั่นส์อัจฉริยะจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การพัฒนาเมือง การดูแลสุขภาพ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

งานHSIF เป็นงานสำคัญระดับโลกของฮิตาชิ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างการตระหนักรู้ต่อธุรกิจด้านนวัตกรรมเพื่อสังคมทั่วทุกภูมิภาค


นายโตชิอากิ ฮิกะชิฮาระ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฮิตาชิ กล่าวว่า “สำหรับฮิตาชิ ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญ และเราได้วางเป้าหมายลงทุนด้านการผลิตสำหรับพื้นที่ภูมิภาคอาเซียน รวมถึงตลาดไทย การเปิดตัวศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอย่างเป็นทางการจะช่วยให้เราเร่งการสร้างสรรค์โซลูชั่นส์ดิจิทัลในฐานะเครื่องมือเสริมสร้างความสามารถในการผลิตนวัตกรรมในภาคการผลิต ลอจิสติกส์ พลังงานและการขนส่ง”

ศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ถือเป็นศูนย์ Lumadaแห่งแรกของฮิตาชิซึ่งเกิดขึ้นจากความสำเร็จในการนำการพัฒนา IoTโซลูชั่นส์มาจาก ญี่ปุ่น จีน และ สหรัฐอเมริกาศูนย์นี้ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรีซึ่งได้เปิดตัวเป็นทางการในวันที่ 17 กันยายน ด้วยเทคโนโลยี Lumadaซึ่งเป็น IoTแพลตฟอร์มจากฮิตาชิ ศูนย์ดังกล่าวจะถ่ายทอดความรู้ที่ล้ำสมัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้เกิดการปฏิบัติงานอัจฉริยะ และสร้างความก้าวหน้าและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย

นายโยชิโตะ โคดะมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอเซีย(ประเทศไทย) จำกัด
กล่าวว่า “เราได้สานต่อการสนับสนุนประเทศไทยสำหรับนโยบาย Thailand 4.0 ด้วยการจัดตั้งศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราตั้งใจที่จะส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี IoTเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรไทย ก่อให้เกิดกระบวนการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรมการผลิต และยกสถานะของประเทศให้ก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับแนวหน้าของห่วงโซ่คุณค่าด้านเศรษฐกิจ”

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างแนวทางเชิงพัฒนาตามนโยบายของรัฐบาลไทยเพื่อนำไปสู่ความเป็นอัจฉริยะและเศรษฐกิจเชิงคุณค่า ฮิตาชิจะยังคงร่วมมือกับหุ้นส่วนเพื่อสร้างสรรค์โซลูชั่นส์ดิจิทัลที่ตรงกับความต้องการเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนในประเทศต่อไป


________________________________________________________

ฮิตาชิกรุ๊ปและเอสซีจี ประสานความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงานในโรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการด้านอื่นๆโดยใช้ IoT

กรุงเทพฯ,18 กันยายน 2561
--- บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (TSE: 6501, “Hitachi”) บริษัท ฮิตาชิ เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ("Hitachi Asia (Thailand)") และบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (“SCG-CBM”)ได้แถลงความสำเร็จในการลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (“MOU”) เพื่อประสานความร่วมมือในการส่งเสริมการประหยัดพลังงานในโรงงานของ SCG-CBM และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการด้านอื่นๆ

นับจากนี้ ทั้งสามบริษัทจะดำเนินงานร่วมกันเพื่อพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นส์ โดยใช้Lumadaซึ่งเป็นIoT แพลทฟอร์มหรืออินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ของฮิตาชิ และระบบการตรวจสอบร่วมกัน นอกจากนี้จะส่งเสริมโครงการริเริ่มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในห่วงโซ่คุณค่านับตั้งแต่ในโรงงานผลิตไปจนถึงกระบวนการจัดส่ง

ปัจจุบัน จำนวนประชากรวัยทำงานกำลังลดลงในญี่ปุ่น จีน และประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย ดังนั้นโรงงานผลิตและธรุกิจลอจิสติกส์จึงไม่เพียงต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดจำนวนแรงงานลง แต่ยังต้องเสริมการผลิตที่เพิ่มมูลค่าได้ในระดับสูง และการปฏิบัติงานด้านการจัดส่งที่ออพติไมซ์หรือเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่าได้ทั้งระบบ ทดแทนแบบเดิมที่เป็นการออพติไมซ์แยกเป็นแต่ละส่วน ปัจจุบันมีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกเพื่อมุ่งจัดการพัฒนาเศรษฐกิจและการแก้ไขประเด็นทางสังคมต่างๆ ด้วยการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเช่น เอไอ หรือ Artificial Intelligent, IoT และหุ่นยนต์ โดยเฉพาะโครงกาไทยแลนด์4.0 และ Society 5.0 ในญี่ปุ่นที่มีรัฐบาลเป็นผู้ขับเคลื่อน

บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้ผลิตที่มีกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่ประกอบธุรกิจผลิตปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ปิโตรเคมิคอล และผลิตบรรจุภัณฑ์ในระดับโลก โดยมีSCG-CBM ทำหน้าที่ผลิตและกระจายปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เนื่องจากบริษัทดำเนินงานในหลายกลุ่มธุรกิจ จึงจำเป็นต้องเสริมขีดความสามารถด้านการผลิตด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี

ฮิตาชิมีกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมโดยใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นอุตสากรรมไฟฟ้า/พลังงาน, อุตสาหกรรม/การกระจายสินค้า/น้ำ, การพัฒนาเมืองและการเงิน/โครงสร้างทางสังคม/การดูแลสุขภาพ ซึ่งจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาในอุตสาหกรรมต่างๆมาอย่างยาวนาน ทำให้ฮิตาชิพัฒนาและนำเสนอดิจิทัลโซลูชั่นส์ได้อย่างหลากหลายผ่านการทำงานแบบประสานความร่วมมือ หรือ Collaborative Creation กับลูกค้าโดยใช้Lumadaซึ่งเป็น IoT แพลทฟอร์มของฮิตาชิ เพื่อให้การสนับสนุนแก้ไขปัญหาของลูกค้า โดยเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 ฮิตาชิได้เปิดตัว "ศูนย์Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ในประเทศไทย เพื่อเร่งให้เกิดการพัฒนาที่ทั่วถึง

จากเป้าหมายของ SCG-CBM ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ประกอบกับการนำเสนอดิจิทัลโซลูชั่นส์ของฮิตาชิและฮิตาชิ เอเซีย (ประเทศไทย) สู่ทั่วโลก ทั้งสามบริษัทจึงเห็นชอบในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU ครั้งนี้เพื่อประสานความร่วมมือในการส่งเสริมการประหยัดพลังงานในโรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในงานด้านอื่นๆ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือโรงงานปูนซีเมนต์ของ SCG-CBM ในอำเภอทุ่งสงทางภาคใต้ของประเทศไทย มีการใช้Factory Simulator ซึ่งเป็นโซลูชั่นหลักของLumadaของฮิตาชิ ในการวิเคราะห์ฐานข้อมูล ซึ่งรวมถึงกำลังการผลิตและการควบคุมคุณภาพ รวมทั้งสามารถพัฒนาแผนการผลิตที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทั้งโรงงานได้โดยอัตโนมัติ จึงช่วยลดการใช้พลังงานลงส่วนในการนำส่งปูนซีเมนต์ก็เช่นกัน ฮิตาชิจะวิเคราะห์ข้อมูลการปฏิบัติการของรถขนส่งปูนซีเมนต์ และพัฒนาแผนการขนส่งที่ดีที่สุดเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านลอจิสติกส์และสินค้าคงคลังลง

บริษัททั้งสามจะดำเนินการตรวจสอบกระบวนการ รวมทั้งผลรับเพื่อพิจารณาร่วมมือในการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีของฮิตาชิรวมทั้งพิจารณาขยายขอบเขตการใช้งานต่างๆทั้งนี้ ฮิตาชิและฮิตาชิ เอเซีย (ประเทศไทย) จะสร้างบริการรูปแบบใหม่ผ่านการประสานความร่วมมือกับ SCG-CBM และมุ่งมั่นพัฒนาบริการบนโซลูชั่นหลักของLumada

ความเห็นจากนาย ชนะ ภูมีรองประธานบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด
“ฮิตาชิกับ SCG มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานแล้ว ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการนำ ดิจิทัล เทคโนโลยี ในส่วนที่ ฮิตาชิมีความชำนาญ มาร่วมกันพัฒนาต่อยอดในรูปแบบ Co-Creating เพื่อช่วยตอบโจทย์ทางธุรกิจของทั้ง 2ฝ่าย โดยความร่วมมือในครั้งนี้เริ่มจากการจัดการด้านพลังงาน และคงจะขยายความร่วมมือไปในด้านอื่น ตามแนวทางการพัฒนาองค์กรเพื่อมุ่งสู่ Industry 4.0 ของบริษัท”

ความเห็นจากนายจุน อาเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและการกระจายสินค้า บริษัท ฮิตาชิ จำกัด

“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เริ่มต้นการประสานความร่วมมือกับ SCG-CBM ซึ่งจะเป็นผู้นำให้กับภาคอุตสาหกรรมของไทยต่อไป ผมเชื่อว่าดิจิทัลเทคโนโลยีของฮิตาชิที่ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรมรวมถึงการกระจายสินค้าประสานความร่วมมือโดยใช้Lumadaจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เราจะทำงานร่วมกับ SCG-CBM เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยเป้าหมายที่จะทำให้นโยบายไทยแลนด์4.0 ประสบความสำเร็จ”

ความเห็นจากนายโยชิโตะ โคดะมะกรรมการผู้จัดการบริษัท ฮิตาชิ เอเซีย (ประเทศไทย) จำกัด
“ผมรู้สึกยินดีที่กลุ่มฮิตาชิมีส่วนร่วมกับSCG-CBMในการยกระดับห่วงโซ่คุณค่าไปอีกขั้นโดยใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีของเรา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วย “ศูนย์Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่ได้เปิดตัวเมื่อวานนี้ จะทำให้กลุ่มฮิตาชิสามารถสนับสนุนการเดินหน้าไปสู่ความเป็นดิจิทัลของอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้เป็นอย่างดี”

■ ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง
• ฮิตาชิ เปิดตัวระบบสร้างตารางการผลิตและขั้นตอนการทำงานแบบ 3 มิติซึ่งออพติไมซ์ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโซลูชั่นหลักของ IoTแพลทฟอร์ม “Lumada” (เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560)
http://www.hitachi.com/New/cnews/month/2017/10/171017.html



_________________________________________________________


ภาพเปิดศูนย์ลูมาด้า เซนเตอร์

ฮิตาชิเปิดตัวศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อนำเสนอ IoTแพลตฟอร์มแก่ลูกค้าในประเทศไทย และส่งเสริมการเติบโตตามโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor - EEC)


ภาพบรรยากาศในการเปิดศูนย์ลูมาด้า เซนเตอร์

กรุงเทพฯ 17 กันยายน พ.ศ.2561 – บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (TSE: 6501, “Hitachi”) และบริษัท ฮิตาชิ เอเซีย จำกัด แถลงเปิดตัว "ศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” (หรือ “ศูนย์ Lumada” ตามที่ปรากฏในเอกสารนี้) ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ในวันนี้ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนระดับประเทศตาม นโยบายไทยแลนด์ 4.0

ศูนย์นี้ถือเป็นศูนย์ Lumadaแห่งแรกของฮิตาชิ ซึ่งเกิดขึ้นจากนำความสำเร็จในการพัฒนา IoTโซลูชั่นส์จากประเทศต่างๆทั่วโลก รวมทั้ง ญี่ปุ่น จีน และ สหรัฐอเมริกา มารวมกัน

ลักษณะเด่นของศูนย์ Lumadaคือ IoTแพลตฟอร์มของฮิตาชิ "Lumada” ซึ่งมุ่งถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นสูงของฮิตาชิ ผ่านการเชื่อมต่อและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า สนับสนุนการสรรค์สร้างร่วมกัน และสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเช่น กระบวนการวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ (big data analytics) ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence – AI) รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (information and communication technology - ICT)

ศูนย์ Lumadaนำเสนอโซลูชั่นส์Internet of Things (IoT) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างโซลูชั่นส์ดิจิทัลจากการร่วมกันคิดสร้างสรรค์(co-creatiing digital solutions) เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจที่แตกต่างกันไป และด้วยการใช้กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลและเครื่องมือ AI ของศูนย์ Lumadaจะสามารถขับเคลื่อนการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์และเชิงแก้ไขปรับปรุง (predictive and corrective maintenance) ซึ่งฮิตาชิตั้งเป้าที่จะเข้าถึงโรงงานทั่วประเทศไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตเชิงปฏิบัติการ โซลูชั่นส์ของศูนย์นี้ยังรวมถึงกระบวนการวิเคราะห์ AI และการสนับสนุนการใช้งานผ่านความสามารถด้าน IoTเช่น การตรวจสอบจากระยะไกล โดยเป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของฮิตาชิที่จะร่วมมือกับหุ้นส่วนเพื่อสร้างโซลูชั่นส์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

สิ่งนี้เน้นย้ำเจตนารมณ์ของฮิตาชิในการสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนให้ค้นพบแนวทางแก้ไขความท้าทายทางธุรกิจและทางสังคม

นายโตชิอากิ ฮิกะชิฮาระ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิตาชิ จำกัด กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของฮิตาชิ เพราะเป็นพื้นที่การดำเนินธุรกิจของฮิตาชิที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เราภูมิใจที่ได้เปิดตัวศูนย์ Lumadaประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการสร้างเศรษฐกิจเชิงมูลค่าแบบยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เราจะสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาของประเทศไทยต่อไป โดยยกระดับเป้าหมายหลักของเราในการสรรค์สร้างร่วมกันกับหุ้นส่วน และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในฐานะกลไกหลักเพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม ธุรกิจ และผู้คนทั่วประเทศ”

นายโคะสุเกะ โฮริอุจิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอเซีย จำกัด เสริมว่า "เราหวังว่า การเปิดศูนย์ Lumadaจะช่วยนำเสนอเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน และยกระดับสู่ลำดับต่อไปในห่วงโซ่คุณค่า”

เมื่อปีที่แล้วฮิตาชิได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic CorridorOffice – EECO) ในด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเทคโนโลยี IoTและการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมเชิงนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของโครงการEEC

นายโคจิ โทมิตะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอเซีย จำกัด ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศูนย์ Lumadaกล่าวว่า "ฮิตาชิจะใช้ IoTLumadaแพลตฟอร์มเพื่อร่วมทำงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ในการนำเสนอโซลูชั่นส์IoTที่มีความหลากหลาย ซึ่งได้มีการนำไปใช้งานและพิสูจน์ในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา การนำเทคโนโลยี Lumadaมาปรับใช้ เช่นในสายการผลิตจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเล็งเห็นได้ถึงโรงงานอัจฉริยะที่มีความสามารถในการผลิตเชิงปฏิบัติการและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งหมายความว่าได้บรรลุประสิทธ
ภาพทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้นเช่นกัน”

ศูนย์ Lumadaมีห้องโซลูชั่นส์IoTที่แสดงให้เห็นว่า ฮิตาชิใช้เทคโนโลยีปฏิบัติการและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการในกระบวนการผลิตได้อย่างไร มีห้องสรรค์สร้างร่วมกัน (Co-creation room) ที่เป็นส่วนหลักที่น่าสนใจอีกส่วนหนึ่งภายในศูนย์ฯ โดยในส่วนนี้จะทำให้ฮิตาชิทราบความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่ง และร่วมมือกันผ่านการวิเคราะห์ธุรกิจและการสร้างสรรค์ความคิดด้านบริการ เพื่อสร้างสรรค์โซลูชั่นส์ทางธุรกิจที่ตรงกับความต้องการและใช้ได้จริง

การตั้งศูนย์ Lumadaทำให้ฮิตาชิสามารถนำเสนอโซลูชั่นส์แบบที่ตรงกับความต้องการแก่หุ้นส่วนทางธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้ง ยังวางแผนที่จะนำโซลูชั่นส์ไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต

พื้นที่ภายนอกศูนย์ Lumada



เกี่ยวกับ บริษัท ฮิตาชิ เอเซีย จำกัด

บริษัท ฮิตาชิ เอเซีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฮิตาชิ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ บริษัทมีสำนักงานกระจายอยู่ในประเทศกลุ่มอาเซียน7 ประเทศ คือ มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม และให้ความสำคัญกับธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมที่ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายของสังคม ฮิตาชิ เอเซีย และบริษัทในเครือนำเสนอระบบข้อมูลข่าวสารและโทรคมนาคม พลังงาน โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและระบบอุตสาหกรรม ระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักรในการก่อสร้างรวมทั้งอุปกรณ์และชิ้นส่วนที่มีความสามารถระดับสูง ระบบยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอื่นๆ ในหลายรูปแบบ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮิตาชิ เอเซีย สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทได้ที่https://www.hitachi.com.sg.

เกี่ยวกับ บริษัท ฮิตาชิ จำกัด
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (TSE: 6501) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ถ่ายทอดนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายของสังคม โดยผสมผสานเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการ เทคโนโลยีสารสนเทศ และผลิตภัณฑ์/ระบบ เข้าด้วยกัน รายรับตามบัญชีงบประมาณของบริษัทเมื่อปีงบ 2560 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2561) คิดเป็นจำนวน 9,368.6 พันล้านเยน (88.84 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) กลุ่มฮิตาชิคือหุ้นส่วนนวัตกรรมในยุค IoT และมีพนักงานประมาณ 307,000 คนทั่วโลก จากการสร้างสรรค์ร่วมกับลูกค้า ฮิตาชินำเสนอธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในหลายแขนง ทั้งด้านไฟฟ้า/พลังงาน อุตสาหกรรม/การกระจาย/น้ำ การพัฒนาเมือง การเงิน/โครงสร้างทางสังคม/การดูแลสุขภาพ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮิตาชิ เข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทที่ http://www.hitachi.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad