คณะกรรมการระดับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิก WTO นัดประชุมผ่านออนไลน์ เร่งหาข้อสรุปการอุดหนุนประมงให้ได้ก่อนการประชุมรัฐมนตรีปลายปีนี้ หลังยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี ไทยโชว์จุดยืน ห้ามอุดหนุนประมงผิดกฎหมาย กำจัดปัญหา IUU Fishing แต่สามารถให้การอุดหนุนที่จำเป็นต่อการพัฒนาประมง และต้องให้ความยืดหยุ่นแก่ประเทศกำลังพัฒนา
นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรี เรื่องการอุดหนุนประมง เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2564 ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ เพื่อหารือแนวทางสร้างแรงขับเคลื่อนการเจรจาที่ยืดเยื้อมากว่า 20 ปี ให้สรุปผลได้โดยเร็ว ก่อนการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ครั้งที่ 12 (MC 12) ที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้
ทั้งนี้ ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นผลักดันห้ามให้การอุดหนุนแก่การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) เพื่อให้ประเทศสมาชิกของ WTO ร่วมกันกำจัดปัญหา IUU Fishing ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้มีการลักลอบจับสัตว์น้ำจนร่อยหรอในหลายพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งในส่วนของไทยไม่มีปัญหาในเรื่อง IUU Fishing แล้ว เนื่องจากมีการปฏิรูปกฎหมายด้านการประมงจนได้รับความเชื่อมั่นและได้รับการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปแล้ว และยังเห็นว่า การห้ามอุดหนุนประมงที่ทำ IUU Fishing จะผลักดันให้ประเทศสมาชิกอื่นที่มีการทำประมง IUU Fishing แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ ได้ขอให้ประเทศสมาชิกสามารถให้การอุดหนุนที่จำเป็นเพื่อพัฒนาภาคประมงต่อไปได้ หากประเทศสมาชิกนั้นมีการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำที่ดี ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์ เนื่องจากไทยมีการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำที่ดีและมีการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น การจำกัดจำนวนชั่วโมง จำนวนวัน และจำนวนเรือที่ออกทำการประมง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการจับสัตว์น้ำที่มากเกินควร และขอให้มีการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (SDT) แก่ประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้ความตกลงมีความยืดหยุ่นกับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งไทยจะยังสามารถให้การอุดหนุนเพื่อดำรงชีพประมงพื้นบ้านได้
สำหรับการเจรจาจัดทำความตกลงเรื่องการอุดหนุนประมง ได้เริ่มขึ้นในปี 2544 โดยเป็นหัวข้อหนึ่งในการเจรจาการค้ารอบโดฮา (Doha Development Agenda) ซึ่งประเทศสมาชิกได้เจรจามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากประเทศสมาชิกมีท่าทีที่หลากหลายจากระดับการพัฒนาของประเทศและภาคการประมงที่แตกต่างกัน ต่อมาในปี 2558 WTO ได้นำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ข้อที่ 14.6 ซึ่งมีสาระสำคัญในการห้ามอุดหนุนประมงที่เป็นอันตรายต่อทรัพยากรสัตว์น้ำ มาเป็นเป้าหมายในการเจรจาจนทำให้สมาชิกกลับมาเร่งเจรจา เพื่อให้การเจรจาความตกลงเรื่องการอุดหนุนประมงได้ข้อสรุป
โดยประเทศสมาชิก WTO ที่ให้การอุดหนุนภาคประมงในวงเงินที่สูง ได้แก่ 1.สหภาพยุโรป อุดหนุนมูลค่ากว่า 27,711 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างปี 2550-2562 (มูลค่าเฉลี่ยปีละ 2,131 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในรูปแบบการให้เงินเพื่อปรับปรุงเรือประมง 2.จีน อุดหนุนมูลค่ากว่า 10,266 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างปี 2551-2562 (มูลค่าเฉลี่ยปีละ 855 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในรูปแบบการยกเว้นภาษีรายได้สำหรับบริษัทแปรรูปอาหารทะเล และ 3.ญี่ปุ่น อุดหนุนมูลค่า 1,266 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างปี 2557-2560 (มูลค่าเฉลี่ยปีละ 316 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในรูปแบบกองทุนเพื่อปรับปรุงภาคประมง ส่วนไทยอุดหนุนมูลค่า 36.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างปี 2558-2562 (มูลค่าเฉลี่ยปีละ 7.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในรูปแบบโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน (โครงการซื้อเรือคืน) และโครงการพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนประมงพื้นบ้าน
วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
Home
การค้าต่างประเทศ
เศรษฐกิจมหภาค
ไทยโชว์จุดยืนใน WTO ห้ามอุดหนุนประมงผิดกฎหมาย กำจัดปัญหา IUU Fishing
ไทยโชว์จุดยืนใน WTO ห้ามอุดหนุนประมงผิดกฎหมาย กำจัดปัญหา IUU Fishing
Tags
# การค้าต่างประเทศ
# เศรษฐกิจมหภาค
Share This
About preecha binmanoch
เศรษฐกิจมหภาค
ป้ายกำกับ:
การค้าต่างประเทศ,
เศรษฐกิจมหภาค
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น