“อาร์เซลิก เปิดตัว “เบโค ยุโรป” ขึ้นแท่นแบรนด์
เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ในภูมิภาค ภายหลังควบรวม
กิจการ เวิร์ลพูล เสร็จสิ้น”
กรุงเทพฯ, 10 เมษายน 2567 – เบโค เอเชียแปซิฟิก ร่วมยินดีกับการประกาศความสำเร็จหลังบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อและควบรวมกิจการของ เวิร์ลพูล โฮลดิ้ง ในภูมิภาค ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) โดยบริษัทลูกของ อาร์เซลิก คือ เบโค บี.วี. พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘เบโค ยุโรป’ ซึ่งได้กลายเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในยุโรปทันทีหลังจากที่การควบรวมกิจการครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์
โดยนอกจากการควบรวมกิจการในทวีปยุโรปแล้ว อาร์เซลิกยังเข้าถือสิทธิ์กิจการของเวิร์ลพูลในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ด้วยเช่นกัน ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ อาร์เซลิก ในฐานะผู้นำระดับแนวหน้าแห่งวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก
จากปริมาณการผลิตในปี 2566 เมื่อรวมส่วนแบ่งการตลาดเชิงปริมาณของเวิร์ลพูล และอาร์เซลิก ในภูมิภาคแล้ว ส่งผลให้ ‘เบโค ยุโรป’ ขึ้นแท่นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป โดยมีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 20,000 คน และมีกำลังการผลิตรวม 24 ล้านชิ้นต่อปี จากโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า 11 แห่งทั่วโลก โดยบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ เบโค บี.วี. ถือหุ้น 75% และ เวิร์ลพูล คอร์ปอเรชั่น 25%
ปัจจุบัน อาร์เซลิก ดำเนินธุรกิจในกว่า 57 ประเทศทั่วโลก โดยมีพนักงานทั้งสิ้นราว 55,000 คน และมีรายได้รวมจากทุกแบรนด์ในเครือที่ 1.1 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 4.4 แสนล้านบาท อ้างอิงจากผลประกอบการในปี 2566 อีกทั้งยังคาดว่าจะมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญจากจำนวนโรงงานผลิตที่รวมแล้วมีมากถึง 45 แห่งทั่วโลก
นายฮาคาน บูลกูร์ลู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาร์เซลิก กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการขยายธุรกิจและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมนี้ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ควบคู่กับการให้ความสำคัญต่อผู้บริโภค ลูกค้าธุรกิจ พนักงาน และผู้ถือหุ้น การเติบโตของเราขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือทั้งในรูปแบบการควบรวมและการร่วมทุนกับพันธมิตรชั้นนำ เช่น ซิงเกอร์ ในบังคลาเทศ และ ฮิตาชิ ในเอเชีย เช่นเดียวกัน การก่อตั้ง ‘เบโค ยุโรป’ และการเข้าซื้อกิจการของเวิร์ลพูลในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดสิบปีของอาร์เซลิก ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ทั้งยังเป็นผู้นำในตลาดที่สำคัญและมีการเติบโตสูง วันนี้เราได้เสริมความแข็งแกร่งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในอนาคต”
นายแอเรียล อทากูล ผู้อำนวยการเบโคประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “วันนี้นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของ ‘เบโค ยุโรป’ สมาชิกใหม่ของเรา ภายใต้การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เบโคพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ๆ ในทุกภูมิภาคที่เราดำเนินงานอยู่ซึ่งในฐานะผู้นำตลาดระดับโลก เราพร้อมเป็นพันธมิตรที่รับผิดชอบต่อทั้งอุตสาหากรรมและผู้บริโภคทั่วโลกด้วยการยกระดับมาตรฐาน ปรับปรุงประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ การเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ช่วยส่งเสริมให้เราสามารถเดินหน้าผลักดันเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพมาตรฐานยุโรปสู่ชั้นแนวหน้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน พร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เพื่ออนาคต”
###
เกี่ยวกับ อาร์เซลิก
อาร์เซลิก มีพนักงานทั่วโลกรวมกว่า 55,000 คน โดยดำเนินธุรกิจใน 57 ประเทศทั่วโลก และมีโรงงานผลิตกว่า 45 แห่งใน 13 ประเทศ (ได้แก่ ทูร์เคีย สหราชอาณาจักร อิตาลี โรมาเนีย สโลวาเกีย โปแลนด์ แอฟริกาใต้ รัสเซีย ปากีสถาน อินเดีย บังกลาเทศ ไทย และจีน) อาร์เซลิกมีแบรนด์ในเครือกว่า 22 แบรนด์ (ได้แก่ Arçelik, Beko, Whirlpool*, Grundig, Hotpoint, Arctic, Ariston*, Leisure, Indesit, Blomberg, Defy, Dawlance, Hitachi*, Voltas Beko, Singer*, ElektraBregenz, Flavel, Bauknecht, Privileg, Altus, Ignis, และPolar) อาร์เซลิกนับเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่สุดในทวีปยุโรป โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเชิงปริมาณและยอดขายรวม 8 พันล้านยูโรในปี 2566 ปัจจุบันอาร์เซลิกมีทีมวิจัยและพัฒนากว่า 2,300 คน ซึ่งดำเนินการในศูนย์วิจัยพัฒนา ศูนย์ออกแบบผลิตภัณฑ์และสำนักงานรวม 31 แห่งทั่วโลก และได้ทำการจดทะเบียนสิทธิบัตรนานาชาติรวมแล้วกว่า 3,500 ฉบับ
อาร์เซลิก ได้รับคะแนนสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าคงทนในครัวเรือนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2566) จากการจัดอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์โดยสถาบัน S&P Global Corporate Sustainability Assessment วิสัยทัศน์ของอาร์เซลิก คือ ‘การเคารพโลก จะเป็นที่เคารพไปทั่วโลก’ (Respecting the World, Respected Worldwide)
เกี่ยวกับ เบโค
เบโค เป็นผู้นำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้บริษัท อาร์เซลิก ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนระดับนานาชาติ ซึ่งมีแบรนด์ในเครือกว่า 12 แบรนด์ และพนักงานทั่วโลกกว่า 40,000 คน โดยเบโคเป็นหนึ่งในสามแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป* และเป็นผู้สนับสนุนหลักของทีมบาสเกตบอลชาย Fenerbahçe
ที่เบโค เราให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดูแลใส่ใจสุขภาพมาตลอดหลายปี พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี โดยเบโคเชื่อว่า ‘สุขภาพดีจะมีได้ เมื่อโลกมีสุขภาพที่แข็งแรง’ เบโคจึงมีความมุ่งมั่นที่จะใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่านการออกแบบและคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน รวมถึงลงทุนในด้านการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต www.beko.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น