![9_11zon 9_11zon](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjfis3jE2NjG0Tk4ETdZUH2dzFXp6vX6cBKJIky7KyGf0RqBHCpVNKxiSLG-9N884NaTx6VkCyZbg5-u3mEx80An59wkkCx5XHCIGYra9yOqjFB2PFy2whR7_9clNVN5miijQfTYoz6iCmyF1N5fgk1GKXv8m6eDh5yjnIgfF9jAH630Dt5jdmTdrtUyvpb/s16000/9_11zon.jpg)
ให้เกียรติร่วมแถลงข่าว ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคาร ททท. ซึ่งคาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะมีบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 300 คน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นกระทรวงที่สำคัญในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นหนึ่งในกระทรวงที่มีส่วนสำคัญในการดำเนินนโยบาย ‘IGNITE TOURISM THAILAND’ ภายใต้เป้าหมายการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2567 อยู่ที่ 3.5 ล้านล้านบาท จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว (Tourism Hub) ในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้การจะทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมายก็ต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ก็จะเชื่อมโยงเครือข่ายการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ผนึกกันให้แน่นขึ้น เน้นการผลักดันเมืองรองให้เป็นเมืองน่าเที่ยว เน้นพัฒนาสินค้า ผลิตภัณฑ์ในชุมชน เปิดโอกาสให้จังหวัดต่าง ๆ หาแหล่งท่องเที่ยวและสร้างเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้น ทำให้เมืองไทยเป็นโฮมสเตย์ของโลก และใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวไทย จึงเป็นสิ่งสำคัญเบื้องต้นที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าว สร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบาย ตั้งแต่การเดินทาง ที่พัก การสื่อสาร ไปจนถึงความปลอดภัย
การเตรียมความพร้อมและพัฒนาแรงงานโดยตรง โดยต่อยอดจากการอบรมและกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) หลักสูตรต่าง ๆ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพและยกระดับคุณภาพของแรงงานในทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง สร้างคุณค่าให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการจ้างงานแก่นายจ้างว่าจะได้รับแรงงานที่มีคุณภาพ มีจิตมุ่งบริการในระดับมาตรฐานสากล และมีทักษะความสามารถในการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจและเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่สถานประกอบการ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ
ททท. กล่าวว่า
กิจกรรมนี้เป็นการยกระดับแรงงานภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบาย
“IGNITE Tourism THAILAND” ที่มุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็น Tourism Hub
และเป็น Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ขับเคลื่อนรายได้การท่องเที่ยวของไทยให้มากขึ้นทุกปี ด้วย 5 กลยุทธ์หลักมัดใจนักท่องเที่ยว
ได้แก่ 1)
การสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าวให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบาย
ตั้งแต่การเดินทาง ที่พัก การสื่อสาร ไปจนถึงความปลอดภัย ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
2) คัดสรรเสน่ห์ไทยนำเสนอเป็นจุดขายอันแข็งแกร่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาสัมผัส
3) นำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ จากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว 4) HUB
OF ASEAN: ประเทศไทยเป็นประตูการท่องเที่ยวสู่อาเซียนให้สามารถท่องเที่ยวต่อได้หลายประเทศ
และ 5) World Class Event Hub: นำอีเวนต์ระดับโลกมาสู่เมืองไทย
เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการการท่องเที่ยวไทย และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมฯ
จึงเป็นสิ่งสำคัญเบื้องต้นที่จะสร้างประสบการณ์และความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว
เมื่อนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะส่งผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้หมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้นด้วย
ททท.
มุ่งเน้นให้การท่องเที่ยวไทยสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน
ผ่านการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงงานด้านต่าง ๆ
โดยเฉพาะแรงงานในภาคบริการที่มีจุดเด่นในเรื่องพื้นฐานการมีจิตมุ่งบริการหรือ Service
Mind เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดี และ
น่าประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้มาเยี่ยมเยือน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวคิดถึงประเทศไทย
สุขทันทีที่เที่ยวไทย และกลับมาเดินทางซ้ำ ซึ่งโครงการดังกล่าวมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก
คือ กลุ่มอาชีพในสายงานด้านการให้บริการทาง
การท่องเที่ยว ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
และหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดย ททท.
ได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เฉพาะด้านมาให้ความรู้อย่างใกล้ชิด
ได้แก่ ผศ.ดร เอกก์ ภทรธนกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด หัวหน้าภาควิชาการตลาด
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มานำเสนอหัวข้อ “ Future
Lenses for Service มองมุมใหม่ธุรกิจบริการ” รวมทั้ง Mr
Gregory J. Raymond ครูสอนภาษาอังกฤษ
และพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง มาถ่ายทอดภาษาอังกฤษที่จำเป็นในภาคบริการ
ไปจนถึงเรื่องของ Tourism Safety Management การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและมาตรการเกี่ยวกับ
การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
โดย ททท.คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมมากกว่า 300 คน
นายชำนาญ
ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว
เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงงานด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะแรงงานในภาคบริการ
ซึ่งต้องมีพื้นฐานการมีจิตมุ่งบริการ (Service
Mind) เพื่อสร้างความประทับใจและสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยวได้ตลอด
Customer Journey และอยากเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยซ้ำ
นำไปสู่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพในการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น