เวียตเจ็ทไทยแลนด์นำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เริ่ม ก.ค. นี้ - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เวียตเจ็ทไทยแลนด์นำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เริ่ม ก.ค. นี้


เวียตเจ็ทไทยแลนด์นำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศ

ยานแบบยั่งยืน (SAF) เริ่ม ก.ค. นี้ 


(กรุงเทพฯ, 5 มิถุนายน 2567) – เวียตเจ็ทไทยแลนด์นำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF) เป็นสายการบินต้นทุนต่ำเจ้าแรกในภูมิภาค สานต่อภารกิจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นพันธกิจหลักภายใต้กองทุนฟลายกรีน (Fly Green Fund) ของสายการบินฯ

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ และ นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ปฏิบัติการบินบนเส้นทางบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป

"การริเริ่มใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนนี้เป็นแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของเวียตเจ็ทกรุ๊ป เน้นย้ำความมุ่งมั่นของเราในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050 ของประเทศไทย รวมถึงเป้าหมายขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ" นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ กล่าว

“ความร่วมมือนี้เป็นการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตโดยการใช้น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (UCO) ซึ่งสามารถผสมกับเชื้อเพลิงอากาศยานได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “G” หรือ “Green” ที่ OR ให้ความสำคัญในการสร้างสังคมสีเขียวอย่างยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายภายในปี 2030 ของ OR อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ OR สนับสนุนโครงการริเริ่มด้านพลังงานสะอาดตลอดมาโดยตลอด ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง OR และเวียตเจ็ทไทยแลนด์มีเป้าหมายหลักเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการบินโดยร่วมกันพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีบุกเบิกสำหรับอากาศยานด้วยการผสมผสานความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของเรา เราพร้อมที่จะสร้างอนาคตสีเขียวที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยจะสร้างมาตรฐานใหม่ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและยกระดับนวัตกรรมในอุตสาหกรรม” และ นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จะมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาหลายเท่า แต่น้ำมัน SAF สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดา โดยสามารถผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาในการการปฏิบัติการบินของอากาศยานได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนฟลายกรีน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมสีเขียวผ่านกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยมีส่วนร่วมจากผู้โดยสาร พนักงานของสายการบินฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์และกองทุนฟลายกรีนสามารถศึกษาได้ที่ www.vietjetair.com

###

เกี่ยวกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์:

นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี พ.ศ. 2557 เวียตเจ็ทไทยแลนด์ดำเนินงานร่วมกับ เวียตเจ็ท กรุ๊ป มุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินและมอบโอกาสในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวสู่หลากหลายเส้นทางทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยบริการที่เป็นมิตรและสนุกสนาน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนและการปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ มอบโอกาสในการเดินทางที่มากขึ้นด้วยบัตรโดยสารราคาประหยัด พร้อมบริการที่หลากหลาย สอดรับกับความต้องการของผู้โดยสาร

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้รับรางวัล “สายการบินโลว์คอสที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปี 2563” จากนิตยสารโกลบอล บิสซิเนส เอาท์ลุค กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ทั้งยังได้รับรางวัล “สายการบินที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นมิตรมากที่สุดประจำปี 2564” โดยนิตยสารอินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เน้นย้ำบริการที่ยอดเยี่ยม ตอกย้ำพันธกิจหลักของสายการบินฯ ในการให้บริการด้วยความสนุกสนานและเป็นมิตร ควบคู่กับความปลอดภัย ตรงต่อเวลา และราคาที่เข้าถึงได้

ปัจจุบัน เวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้บริการครอบคลุม 11 เส้นทางบินภายในประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี รวมถึงเส้นทางบินข้ามภูมิภาค จากภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย พร้อมกันนี้ สายการบินฯ ได้ขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่หลากหลายจุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เชื่อมต่อประเทศไทยกับเวียดนาม จีน สิงคโปร์ กัมพูชา ญี่ปุ่น ไทเป และอีกหลายจุดหมายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาค

ติดตามกิจกรรมและข่าวสารล่าสุดได้ทาง www.vietjetair.com

เกี่ยวกับ OR:

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) เป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการดําเนินธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกของกลุ่ม ปตท. มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจพลังงานและการค้าปลีกเพื่อทุกการเติบโตร่วมกันพร้อมทั้งยกระดับกลยุทธ์ OR SDG หรือ SDG ในแบบฉบับของ OR ได้แก่ Small (S) หรือ โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก เพื่อดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนผ่านโครงการต่างๆ และ Diversified (D) โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกัน รวมถึง Green (G) โอกาสเพื่อสังคมสะอาด ผ่านการส่งเสริมธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 ตลอดจนมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2050

ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://investor.pttor.com/en/home


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad