อาดิดาส เปิดตัว ALPHAEDGE 4D ชูเทคโนโลยี ADIDAS 4D ปฏิวัติการวิ่งเพื่อทะยานสู่จุดสูงสุดของนักกีฬา - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

อาดิดาส เปิดตัว ALPHAEDGE 4D ชูเทคโนโลยี ADIDAS 4D ปฏิวัติการวิ่งเพื่อทะยานสู่จุดสูงสุดของนักกีฬา


อาดิดาส เปิดตัว ALPHAEDGE 4D
ชูเทคโนโลยี ADIDAS 4D ปฏิวัติการวิ่งเพื่อทะยานสู่จุดสูงสุดของนักกีฬา


·      ปฏิวัติคุณสมบัติการคืนพลังงานสูงสุดในรองเท้ากีฬาด้วยสุดยอดเทคโนโลยีแห่งพื้นรองเท้า อาดิดาส 4D”
·      โดดเด่นด้วยตัวรองเท้าผ่านการถักทอด้วยวัสดุไพรม์นิต (Primeknit) สีขาวนวล ซึ่งผ่านกระบวนการFORGEFIBER เพื่อความกระชับราวกับผิวชั้นที่สอง
·      เสริมความทนทานและคุณสมบัติการยึดเกาะทุกพื้นผิวด้วยแผ่นยางคอนติเนนทัล
·      พร้อมให้เป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน2018 เป็นต้นไป


กรุงเทพฯ (14 พฤศจิกายน 2561 – อาดิดาส เปิดตัวรองเท้าวิ่งอัลฟ่าเอดจ์ โฟร์ดี (ALPHAEDGE 4D) มาพร้อมกับ พื้นรองเท้าอาดิดาสโฟร์ดี (ADIDAS 4D) ที่สามารถควบคุมการคืนพลังงานได้อย่างสมบูรณ์แบบและช่วยเสริมการรองรับแรงกระแทกจากการฝึกซ้อมวิ่งอย่างเข้มข้นเพื่อทลายทุกขีดจำกัดของนักกีฬาทุกประเภท

คลอส โรลโชเวิน ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบแห่งอนาคตของอาดิดาส ได้กล่าวไว้ว่า อาดิดาส โฟร์ดี คือพื้นรองเท้าที่มีความล้ำสมัยสูงสุด โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากนวัตกรรมฟิวเจอร์คราฟท์ (FUTURECRAFT) ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เราได้คิดค้นกระบวนการผลิตขึ้นมาใหม่เท่านั้น แต่ยังทำให้เราสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมาจากข้อมูลต่างๆ ที่ได้มาจากนักกีฬาระดับโลก ซึ่งทำให้เราสามารถทลายขอบเขตเพื่อมุ่งไปสู่มิติใหม่แห่งประสิทธิภาพในการใช้งานและความรู้สึกสบาย



อัลฟ่าเอดจ์ โฟร์ดี มีจุดเด่นอยู่ที่โครงสร้างแบบโพรงตาข่าย ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลและเสริมการรองรับในขณะเคลื่อนที่และออกกำลังกาย แถมยังช่วยให้การคืนพลังงานเป็นไปอย่างแม่นยำตรงจุด

นอกเหนือจากนี้ รองเท้าอัลฟ่าเอดจ์ โฟร์ดี ประจำซีซั่น FW18 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำอีกหลายประการ

อาดิดาส โฟร์ดี

เพื่อให้การคืนพลังงานเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้ โครงสร้างแบบโพรงตาข่ายและการตอบสนองที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกแบบทั่วทุกจุดจะก่อให้เกิดการคืนพลังงาน การขับเคลื่อนไปข้างหน้า และการซัพพอร์ทการเคลื่อนที่ได้อย่างที่ต้องการ


พื้นรองเท้าอาดิดาส โฟร์ดี ผ่านการขึ้นรูปโดยการใช้แสงและก๊าซออกซิเจนจากเทคโนโลยีดิจิทัล ไลท์ ซินเทซิส (Digital Light Synthesis™) ของคาร์บอน(Carbon) ที่เป็นพันธมิตรกับอาดิดาสมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 โดยเทคโนโลยีดิจิทัล ไลท์ ซินเทซิส ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ถูกค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากทำให้สามารถใช้การฉายแสงดิจิตอล ผสมผสานกับการไหลผ่านระหว่างของเหลวกับออกซิเจน จนได้ออกมาเป็นโพลีเมอร์ที่มีทั้งความทนทานและมีประสิทธิภาพในการใช้งานในระดับสูง

ทั้งนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังได้นำเอาข้อมูลมาประมวลผลโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้งานด้านต่างๆ ซึ่งทำให้นักกีฬาและผู้สวมใส่รองเท้าคู่นี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างที่ต้องการ แถมยังได้รับคุณสมบัติการรองรับแรงกระแทกและการรักษาสมดุลจากพื้นรองเท้าชิ้นนี้


ตัวรองเท้าจากวัสดุไพรม์นิตและเทคโนโลยีฟอร์จไฟเบอร์
ด้วยตัวรองเท้าที่มีน้ำหนักเบาบางเป็นพิเศษ จึงทำให้เท้าของผู้สวมใส่ได้รับสัมผัสที่แนบเนียนไร้รอยต่อ อีกทั้งยังมอบการซัพพอร์ทและความรู้สึกสบายในทุกจังหวะการเคลื่อนที่และการเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางอย่างมั่นใจ โดยเส้นใยแต่ละเส้นนั้นจะถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันด้วยเทคโนโลยีฟอร์จไฟเบอร์ ซึ่งจะถักทอเส้นใยทุกเส้นที่ผ่านการเคลือบเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการใช้งาน จากนั้นจะมีการเย็บในแต่ละจุดเพื่อเพิ่มความทนทานในขณะเคลื่อนไหว

แผ่นยางคอนติเนนทัล
แผ่นยางคอนติเนนทัล ได้ผ่านการคิดค้นพัฒนามาตลอด 140 ปี จนได้ออกมาเป็นพื้นรองที่ช่วยให้สามารถเร่งความเร็วได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะวิ่งอยู่บนพื้นผิวหรือสภาพอากาศแบบไหนก็ตาม

รองเท้าวิ่งอัลฟ่าเอดจ์ โฟร์ดี ประจำซีซั่น FW18 จะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกแล้ววันนี้ สำหรับประเทศไทยจำหน่ายในราคา 12,000 บาท ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad