กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศสรุปผลการเปิดรับฟังความคิดเห็นการทำ FTA อาเซียน-แคนาดา เสียงส่วนใหญ่หนุนทำ FTA เหตุแคนาดาเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เป็นประตูสู่สหรัฐฯ และเม็กซิโก เพิ่มโอกาสในภาคบริการ และดึงดูดการลงทุน แต่เป็นความท้าทาย เพราะแคนาดามีมาตรฐานสูง ต้องใช้ความรอบคอบในการเจรจา เตรียมสรุปผลการศึกษา เสนอระดับนโยบายตัดสินใจ ก่อนร่วมอาเซียนตัดสินใจในเดือนก.ย.นี้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการจัดระดมความเห็นภาคส่วนที่เกี่ยวข้องผ่านระบบออนไลน์ต่อผลการศึกษาเบื้องต้น เรื่องการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) อาเซียน-แคนาดา ระหว่างวันที่ 14-29 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา ว่า กรมฯ ได้มอบให้บริษัท โบลลิเกอร์ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการศึกษา โดยมีผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่าหากทั้งสองฝ่ายลดภาษีศุลกากรในทุกรายการสินค้าลง 50-100% จะทำให้เศรษฐกิจไทย (GDP) เพิ่มขึ้น 7,968-12,416 ล้านบาท การลงทุนขยายตัว 36,288-77,184 ล้านบาท และการส่งออกไปแคนาดาเพิ่มขึ้น 7,808-16,416 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกของไทยที่คาดว่าจะขยายตัว เช่น สินค้าเกษตรและอาหาร ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องมือและเครื่องจักร ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น เช่นเดียวกับการนำเข้าสินค้าจากแคนาดาจะเพิ่มขึ้น 7,456-15,840 ล้านบาท โดยสินค้าที่คาดว่าจะนำเข้าเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ธัญพืชปรุงแต่ง ผลิตภัณฑ์โลหะ ไม้แปรรูป เครื่องจักร ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น
ทั้งนี้ ผลจากการรับฟังความคิดเห็น ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นว่า แม้แคนาดาจะมีประชากรเพียง 38 ล้านคน แต่ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน ขณะที่จำนวนประชากรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการย้ายถิ่นฐานเข้ามาของประชากรจากภูมิภาคอื่น รวมทั้งจากภูมิภาคเอเชีย แคนาดาจึงเป็นตลาดแห่งการบริโภค และมีกำลังซื้อสูง การทำ FTA นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสและสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าไทยในการเข้าสู่ตลาดแคนาดาแล้ว ไทยยังสามารถใช้แคนาดาเป็นประตูในการกระจายสินค้าไปสู่ตลาดสหรัฐฯ และเม็กซิโก ซึ่งแคนาดามี FTA ด้วยได้ แต่ไทยยังไม่มี ขณะเดียวกัน การเปิดตลาดให้กับสินค้าจากแคนาดาจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและลดต้นทุนให้ผู้นำเข้าสินค้าวัตถุดิบของไทย
นอกจากประโยชน์ด้านการค้าสินค้าแล้ว ภาคบริการของไทย จะได้รับประโยชน์เช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ผู้ประกอบอาชีพพ่อครัวและแม่ครัว บริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งแคนาดามองว่าไทยมีศักยภาพ มีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น และมีบริการด้านสุขภาพในระดับโลก ส่วนด้านการลงทุน คาดว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น พลังงาน ขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน อิเล็กทรอนิกส์ การจัดการสิ่งแวดล้อม และการเงิน เป็นต้น ซึ่งเป็นสาขาที่แคนาดามีศักยภาพ จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการของไทยจะได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การทำ FTA กับแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานสูง ถือเป็นความท้าทายของไทยที่ต้องเตรียมความพร้อมในประเด็นต่าง ๆ เช่น การเปิดตลาดสินค้าเกษตรและสินค้าปศุสัตว์ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ เป็นต้น รวมทั้งต้องใช้ความรอบคอบในการเจรจา แต่การเจรจาในกรอบอาเซียน น่าจะช่วยให้ไทยมีแนวร่วมจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีความพร้อม และความคาดหวังใกล้เคียงกัน
สำหรับขั้นตอนต่อไป เมื่อการศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว กรมฯ จะนำผลการศึกษาดังกล่าวเผยแพร่ทางเว็บไชต์ www.dtn.go.th รวมทั้งจะจัดประชุมภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำกรอบเจรจา FTA อาเซียน-แคนาดา ก่อนเสนอระดับนโยบายพิจารณา เพื่อให้ไทยสามารถร่วมกับอาเซียนอื่นตัดสินใจเรื่องการเปิดเจรจาจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา ที่จะมีขึ้นในเดือนก.ย.2564 ต่อไป
วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
Home
การค้าต่างประเทศ
เศรษฐกิจมหภาค
กรมเจรจาฯ เผยผลรับฟังความคิดเห็น เสียงส่วนใหญ่หนุนไทยทำ FTA อาเซียน-แคนาดา
กรมเจรจาฯ เผยผลรับฟังความคิดเห็น เสียงส่วนใหญ่หนุนไทยทำ FTA อาเซียน-แคนาดา
Tags
# การค้าต่างประเทศ
# เศรษฐกิจมหภาค
Share This
About preecha binmanoch
เศรษฐกิจมหภาค
ป้ายกำกับ:
การค้าต่างประเทศ,
เศรษฐกิจมหภาค
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Author Details
Templatesyard is a blogger resources site is a provider of high quality blogger template with premium looking layout and robust design. The main mission of templatesyard is to provide the best quality blogger templates which are professionally designed and perfectlly seo optimized to deliver best result for your blog.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น