ท่องไปในโลกแห่งศิลปะนามธรรม จากการแสวงหาความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด นิทรรศการแรกในประเทศไทยของศิลปินชื่อดังระดับโลก “เมกุรุ ยามากูจิ” - ข่าวเด่นวันนี้ | Today Highlight News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ท่องไปในโลกแห่งศิลปะนามธรรม จากการแสวงหาความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด นิทรรศการแรกในประเทศไทยของศิลปินชื่อดังระดับโลก “เมกุรุ ยามากูจิ”

    ท่องไปในโลกแห่งศิลปะนามธรรม จากการ

    แสวงหาความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด

    นิทรรศการแรกในประเทศไทยของศิลปินชื่อดัง

    ระดับโลก “เมกุรุ ยามากูจิ”

     ทันทีที่ก้าวเข้าไปภายใน Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพฯ) อาร์ตสเปซดีไซน์เก๋บนถนนสุรวงศ์ คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอม ท่วงทำนอง และงานศิลป์ที่จัดแสดงไว้อย่างประณีต ราวกับทุกองค์ประกอบสื่อสารกับผู้ชมได้อย่างน่าทึ่ง เพื่อให้เข้าถึงโลกของ Meguru Yamaguchi (เมกุรุ ยามากูจิ) ศิลปินร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    “องค์ประกอบต่าง ๆ รวมถึงผลงานชิ้นพิเศษได้ถูกครีเอทมาโดยเฉพาะสำหรับนิทรรศการครั้งนี้ เพราะศิลปินต้องการให้นิทรรศการครั้งนี้บ่งบอกความเป็นตัวตนของเขาได้มากที่สุด” Elsie Lu (เอลซี่ ลู) ผู้ก่อตั้ง Maison JE และคอลเล็กเตอร์ผู้หลงใหลงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ เล่าให้ฟังด้วยแววตาเป็นประกายราวกับเธอกำลังมีความสุขเมื่อเห็นผลงานของศิลปินที่ชื่นชอบมาจัดแสดงอยู่เบื้องหน้า

    นอกจากจะมีชื่อเสียงในแวดวงศิลปะ ยามากูจิยังมีชื่อเสียงในวงการสตรีทแฟชั่นผ่านการร่วมออกแบบให้กับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Issey Miyake Men, Uniqlo, Levi’s, Oakley รวมถึงคอลเล็กชั่นสะสมของมูลนิธิ FENDI และอีกหลายแห่ง ทั้งยังออกแบบยูนิฟอร์มให้กับนักปิงปองทีมชาติญี่ปุ่นปี 2024 นอกจากนี้ ยามากูจิยังได้นำผลงานการออกแบบเสื้อผ้า กระเป๋า และแอคเซสเซอรีต่าง ๆ มาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งแรกของเขาในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ทุกองค์ประกอบใน Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพฯ) เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นเมกุรุ ยามากูจิ ไว้แทบทุกกระเบียดนิ้ว  

    In the Elements of Meguru Yamaguchi

    ด้วยความหลงใหลในศิลปะและดนตรี นิทรรศการของยามากูจิจึงต้องคำนึงถึงรายละเอียดเล็กต่าง ๆ ที่จะนำพาผู้เข้าชมงานร่วมออกเดินทางผ่านผลงานของศิลปิน Meguru Yamaguchi Collection Exhibition เป็นนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของศิลปินร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น ที่เกิดและเติบโตในครอบครัวนักออกแบบแฟชั่นที่ชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะย้ายไปใช้ชีวิตที่เมืองบรูคลิน นิวยอร์ก ประเทศอเมริกา ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน

    เจ้าของฉายา “Digital Impressionist” (ดิจิทัลอิมเพรสชันนิสต์) ประสบความสำเร็จในการสร้างผลงานศิลปะนามธรรม (Abstract Art) ที่ซับซ้อนแต่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ผ่านเทคนิคที่เขาคิดค้นขึ้นเองเรียกว่า “Cut & Paste” ด้วยกระบวนการผสมสีลงบนแผ่นพลาสติก ก่อนจะตัด ลอก และวางลงบนพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันได้อย่างน่าทึ่ง

    ด้วยกระบวนการจัดวางลวดลายที่แปลกตาและสีสันอันชาญฉลาด ชวนให้นึกถึงความหลากหลายของธรรมชาติที่สอดประสานเข้าด้วยกันอย่างมีจังหวะ ลายเส้นที่ดูราวกับลอยตัวอยู่บนผนังได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ผลงานของเขาเป็นที่ดึงดูดใจนักสะสมและคนรักงานศิลปะทั่วโลก


    “หนึ่งในสีโปรดของเขาคือ ‘สีน้ำเงิน’ เป็นตัวแทนของท้องฟ้า มหาสมุทร และโลกของเรา ซึ่งเป็นโทนสีที่เราจะเห็นได้จากผลงานแทบทุกชิ้นของเขา รวมถึงสีขาวและสีดำ” เอลซี่ ลู อธิบายถึงสีหลักที่มักจะปรากฏอยู่ในผลงานทุกชิ้นของเขา

    งานศิลป์ของยามากูจิได้แรงบันดาลใจจากการประดิษฐ์ตัวอักษรของญี่ปุ่นโบราณ นำมาผสมผสานกับศิลปะ Abstract ยามากูจิยังชอบที่จะดึงจุดเด่นของแต่ละวัฒนธรรม เมือง และผู้คน จนเกิดเป็นผลงานจากการผสมผสานเทคนิคต่าง ๆ มากมาย เขายังหลงใหลผ่านการใช้สีสันแบบไดนามิกและทับซ้อนกับวัสดุที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว

    ยามากูจิยังก้าวข้ามทัศนคติแบบเหมารวม (Stereotypes) กฎเกณฑ์ และขอบเขตต่าง ๆ ดังจะเห็นได้จากการออกแบบผลงานที่ไม่มีผืนผ้าใบหรือเฟรมใด ๆ มาตีกรอบอิสรภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะเขาเชื่อในการแสดงหาความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด เขายังหลงใหลการผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้ากับศิลปะ ทั้งยังให้ความสำคัญอย่างมากกับนักสะสมไปจนถึงแกลเลอรี่ต่าง ๆ ที่สนใจอยากนำผลงานของเขาไปจัดแสดง

    “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ กว่าที่เราจะนำผลงานของยามากูจิมาจัดแสดงที่ Maison JE (เมซง เจอี) ทั้งพี่ชายและฉันต่างก็เป็นแฟนตัวยง และสะสมผลงานของเขามานานแล้ว เราใช้เวลาหลายปีกว่าจะเป็นนิทรรศการครั้งแรกของเขาอย่างที่เห็น ช่วงเวลานี้จึงเป็นความภูมิใจและความสุขของฉันมาก ๆ ที่คนไทยและนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมผลงานของเขาอย่างใกล้ชิดและดื่มด่ำไปกับงานศิลปะที่หาชมยากของยามากูจิ” เป็นอีกครั้งที่เอลซี่ ลู ยิ้มกว้างเมื่อพูดถึงผลงานของหนึ่งในศิลปินคนโปรด

    นิทรรศการครั้งแรกในประเทศไทยของ Meguru Yamaguchi

    ภายในพื้นที่ศิลปะชั้นนำแห่งใหม่ในย่านบางรัก กรุงเทพฯ อย่าง Maison JE (เมซง เจอี) ที่เกิดจากความหลงใหลในงานศิลปะ บริเวณโซนจัดแสดงผลงานชั้น 1 และชั้น 2 ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกมุมมอง เพื่อให้ผู้ชมมีเวลาละเลียดผลงานได้อย่างถนัดถนี่ ท่ามกลางผลงานประติมากรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน ท่วงทำนองที่สอดประสาน สะท้อนความเป็นยามากูจิอย่างลุ่มลึก หากเพียงมองให้ลึกลงไปในรายละเอียดเราจะเห็นลวดลายและเนื้อสีที่เปี่ยมด้วยพลังดึงดูดอย่างประหลาด มันเป็นเสน่ห์ที่มีแต่ยามากูจิเท่านั้นที่ทำได้

    ผลงานที่นำมาจัดแสดงอยู่ในซีรีส์ “OUT OF BOUNDS” ที่โดดเด่นด้วยฝีแปรงโค้งอันมีเอกลักษณ์และทรงพลัง ด้วยการนำเทคนิค Cut & Paste (การตัดแปะ) รวมถึงแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมสตรีท

    “ส่วนตัวฉันชอบงานทุกชิ้นของยามากูจิเลยก็ว่าได้ ครั้งล่าสุดฉันได้ชมผลงานของเขาในไต้หวันแล้วรู้สึกประทับใจมาก ฉันชื่นชอบพลังที่ส่งออกมาจากผลงานของเขา ทุกสีสันและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ดูราวกับจะพุ่งทะยานออกมาจากกำแพงสีขาวตรงนั้น ดังนั้น ทันทีที่เขาตอบตกลงให้จัดแสดงงานศิลป์ที่ Maison JE (เมซง เจอี) ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก ๆ เขาเป็นศิลปินที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และทำให้ผลงานศิลปะแนว Floating Art ของเขามีแรงดึงดูดอย่างน่าทึ่ง ฉันอยากให้ทุกคนสัมผัสกับประสบการณ์นั้นด้วยตัวเอง” เอลซี่กล่าวทิ้งท้าย 

    พบกับนิทรรศการครั้งแรกในประเทศไทย Meguru Yamaguchi Collection Exhibition ได้ที่Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพฯ) ระหว่างวันที่ 19 เม.ย. – 2 มิ.ย. 2567 เวลา 11.00 – 19.00 น. เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน (ปิดวันจันทร์) นอกจากนี้ Maison JE (เมซง เจอี)ยังรวบรวมและนำเสนอผลงานเพื่อสนับสนุนศิลปินจากทั่วโลก เพื่อให้ผู้มาเยือนดื่มด่ำกับศิลปะได้อย่างไร้ขีดจำกัด ติดตามความเคลื่อนไหวและนิทรรศการศิลปะของเราได้ที่ www.maisonje.com หรือ https://www.facebook.com/maisonjebangkok และ https://www.instagram.com/maisonje_bkk/           

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น

    Post Bottom Ad